กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “อมรัตน์” จี้ต่อเปิดเบื้องหลังแฉปมรายงานประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ไม่ตรงกับที่ประชุม เปิดข้อกฎหมายคนทำเอกสารรายงานการประชุมเท็จเจอคุก 5-10 ปี นักร้องเจอคุก 7-10 ปี พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ด้าน “วิโรจน์” จี้ไอทีวีอย่าเงียบ แจงปมใครบงการและเข้าข่ายการทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเท็จ เพื่อใช้เป็นเหตุกลั่นแกล้งบุคคลอื่นหรือไม่
อีกคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการประชุมผู้ถือหุ้นสื่อ ITV คือ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) ประมาณเที่ยงคืน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ติดแฮชแท๊ก #ข่าว3มิติ เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่ามีคนถามประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้น itv ว่า itv มีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่? ประธานตอบว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่ในเอกสารบันทึกกลับบันทึกคำตอบว่า ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ทำไมบันทึกคำตอบจึงไม่ตรงกับในคลิป? พร้อมโพสต์รูปภาพเปิดรายงานบันทึกการประชุมที่ไม่ตรงกัน แต่ที่น่าสนใจในโพสต์นี้ของนางอมรัตน์ คือ คอมเมนต์ใต้ภาพที่เปิดเป็นข้อกฎหมายว่า
คดีหุ้นสื่อ ITV คนทำเอกสารรายงานการประชุมเท็จเจอคุก 5-10 ปี นักร้องเจอคุก 7-10 ปี พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 143 ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่งเป็นการเพื่อจะกลั่นแกล้งผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิรับเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้มีการประกาศผลเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่งเป็นการแจ้งหรือให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสน 4 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
หลังจากนี้ยังมีโพสต์ที่นางอมรัตน์โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า ในวันประชุมผู้ถือหุ้น itv มีการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วย แม้มีการลบไฟล์ออกภายหลัง แต่หนึ่งในผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าฟังได้บันทึกเอาไว้ เมื่อเห็นว่า itv ของเขาที่สู้คดีมา 16 ปี กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงนำสำเนาเทปนี้ให้คุณฐปณีย์ เพื่อบอกความจริง
อีกข้อความคือ “เอกสารแจ้งการเลิกจ้างพนักงาน itv ” ปี 2550 ระบุว่า สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้บอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ เป็นเหตุให้บริษัทไม่สามารถประกอบกิจการและดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์ itv ต่อไปได้ตามกฎหมาย
อีกคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กกลางดึก ประเด็นมีการเปิดคลิปรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV ไม่ตรงกับคลิปวิดีโอที่บันทึกการประชุม โดยนายวิโรจน์ตั้งข้อสงสัยใครเป็นคนสั่ง ใครเป็นผู้บงการ ให้ทำรายงานการประชุมแบบนี้ และต้องตอบคำถามสังคมว่าพฤติการณ์แบบนี้เข้าข่ายการทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเท็จ เพื่อใช้เป็นเหตุกลั่นแกล้งให้บุคคลอื่นต้องโทษคดีอาญาหรือไม่
ประธานคณะกรรมการบริษัท และกรรมการผู้สอบทานและแก้ไขรายงานการประชุม ตลอดจนคณะกรรมการท่านอื่นๆ จะรับผิดชอบต่อกรณีนี้อย่างไร บริษัท ไอทีวี ควรต้องเร่งชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ข้างต้น ให้สังคมทราบโดยกระจ่าง จะเงียบและเนียนไม่ได้ เพราะการกระทำในลักษณะนี้อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดในมาตรา 216 ของ พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกันยังแนบข้อมูลหากทำผิดต้องได้รับโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติ บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 อาทิ มาตรา 94 กรรมการต้องรับผิดร่วมกันเพื่อความเสียหายใดๆ อันเกิดขึ้นแก่ผู้ถือหุ้นและบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทในกรณีดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระทำความผิดนั้นด้วย
(1) การแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความอันควรต้องแจ้งเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทในการเสนอขายหุ้นหุ้นกู้หรือตราสารการเงินของบริษัท
(2) การแสดงข้อความหรือลงรายการในเอกสารที่ยื่นต่อนายทะเบียนโดยข้อความหรือรายการนั้นเป็นเท็จ หรือไม่ตรงกับบัญชี ทะเบียน หรือเอกสารของบริษัท
(3) การจัดทำงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน รายงานการประชุมผู้ถือหุ้นหรือรายงานการประชุมคณะกรรมการอันเป็นเท็จ
มาตรา 216 บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทใด กระทำหรือยินยอมให้กระทำการดังต่อไปนี้
(1) ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชี เอกสาร หรือหลักประกันของบริษัท หรือที่เกี่ยวกับบริษัท หรือ
(2) ลงข้อความเท็จ หรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของ บริษัท หรือที่เกี่ยวกับบริษัท ถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้บริษัทหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนายกรุณพล เทียนสุวรรณ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกโพสต์ ระบุวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่พรรคก้าวไกลจะมีการแถลงข่าวปมหุ้น ITV พร้อมขอบคุณผู้หวังดีที่ช่วยกันลากไส้กลุ่มอำนาจที่เกาะกินประเทศนี้ ที่ทำทุกทางเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ถึงเวลาที่ความจริงจะไล่ล่าและขุดเอาข้อมูลทั้งหมดออกมาเปิดเผยว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย