ด้อมส้มเฮ! กกต.ตีตก 4 คำร้องยุบพรรคก้าวไกล

สำนักงาน กกต. 11 มิ.ย. – นายทะเบียนพรรคการเมืองตีตก 4 คำร้องยุบ “ก้าวไกล” ทั้งปราศรัยหาเสียงพาดพิงสถาบัน-ยกเลิก ม.112 ยอม “ธนาธร-พรรณิการ์” ครอบงำพรรค ด้อมส้มเฮได้


วันนี้ (11 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีความเห็นสั่งยุติเรื่องกรณีมีการยื่นร้องขอให้ กกต. พิจารณาเสนอเรื่องความพร้อมเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล ตามมาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 เนื่องจากเห็นว่าไม่มีมูล โดยทั้ง 4 คำร้อง ประกอบด้วย กรณีกล่าวหานายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรค ในขณะนั้นปราศรัยหาเสียงที่ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 กล่าวถึงโครงการพระราชดำริ พาดพิงสถาบัน เข้าข่ายฝ่าฝืนข้อ 17 ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. 2561

กรณีร้องว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จะยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ซึ่งมีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดีย กรณีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงจุดยืนของตนเองและจุดยืนของพรรคก้าวไกล เรื่องมาตรา 112 การระบุ #ยกเลิก112 “112 เป็นกฎหมายหรือเปล่า ถ้าเป็น..ต้องแก้ไขให้เหมาะสมกับยุคสมัยได้ ไปจนถึงต้องยกเลิกได้ ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าสังคมมีฉันทามติร่วมกัน หยุดลิดรอนเสรีภาพในการรณรงค์แสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย”


รวมถึงกรณีกล่าวหาว่า พรรคก้าวไกลยินยอมให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นผู้นำในการหาเสียงเลือกตั้ง และเป็นตัวแทนในการดีเบตกับพรรคการเมืองอื่นแทนพรรคก้าวไกล เป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรคขาดอิสระ โดยสำนักงานฯ ได้มีการแจ้งผู้ร้องทราบแล้ว

ทั้งนี้ การที่นายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นให้ยุติเรื่อง เป็นการใช้อำนาจตามข้อ 7 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง 2564 ที่กำหนดว่า ในกรณีนายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพร้อมความเห็นว่า ไม่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ให้ยกคำร้องหรือยุติเรื่องแล้วแต่กรณีและแจ้งให้ผู้ร้องทราบ และรายงานให้ กกต.ทราบ

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการรายงานข้อมูลว่า จากจำนวนเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ปลายปี 2563 ถึงต้นปี 2566 มีคำร้องยุบพรรคการเมือง รวม 83 เรื่องร้องเรียน และมี 61 เรื่องที่นายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่าไม่มีมูล จึงให้ยุติเรื่อง เหลือ 19 เรื่องร้องเรียนที่ดำเนินการอยู่ และการดำเนินการจนถึงขณะนี้ พบว่าเหลือคำร้องที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานฯ 5-6 คำร้อง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย