“สุภาพบุรุษจราจร” ช่วยทำคลอดทารกน้อยปลอดภัย

กทม. 26 พ.ค.- ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ช่วยทำคลอดทารกน้อยปลอดภัย นับเป็นรายที่ 257 “ผบ.ตร. – รอง ผบ.ตร.” ชมเชยเป็นตำรวจมืออาชีพ ยกเป็นตัวอย่าง “สุภาพบุรุษจราจร”


วันนี้ (26 พฤษภาคม 2566) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (25 พฤษภาคม 2566) ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ได้ทำคลอดฉุกเฉินที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยรามคำแหง 50 กทม.

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวว่า กรณีล่าสุด เหตุเกิดเวลา 08.40 น. ของวานนี้ ด.ต.จักรภูมิ เสมียนชัย ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ได้รับแจ้งว่ามีหญิงคลอดบุตรมาแล้วบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 50 ขอตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริสนับสนุน หลังรับแจ้ง พ.ต.ต.พีรวุฒิ ใหม่อ่อง ( โครงการใต้ 1 ) ร.ต.ท.มานะ จอกโคกสูง ( โครงการเหนือ1-8 ) และ ร.ต.ต.อนุชา กัลยา ( โครงการธน1-3 ) นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วย ด.ต.สุทิน อินทโชติ ( 6-202 ) ด.ต.อุดมศักดิ์ ศาลา ( 6-204 ) ส.ต.อ.ชนะ คณะจันทร์ ( 6-617 ) ส.ต.อ.ศิวา ชินฝั้น ( 6-615 ) ส.ต.อ.พลอย เนื่องมัจฉา ( 6-611 ) และตำรวจช่าง ด.ต.สุนทร สติยศ ( 6-432)จ.ส.ต.วัชรนนท์ คงสินจีราภัทร์ ( 6-434 ) เข้าสนับสนุนยังจุดเกิดเหตุทันที ไปถึงบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม พบหญิงสาวชาวเมียนมาคลอดทารกเพศหญิงออกมาแล้ว จึงรีบเข้าช่วยเหลือทั้งแม่และเด็ก


“ตำรวจจราจรฯ ร่วมกับอาสาสมัครให้การช่วยเหลือทารกอย่างเร่งด่วน โดยใช้ลูกยางแดงดูดของเหลวภายในช่องปาก และจมูกเพื่อป้องกันไม่ให้ทารกน้อยสำลัก แล้วเช็ดตัวทารกให้สะอาดเปลี่ยนผ้าห่อตัวทารกให้ใหม่เพื่อสร้างความอบอุ่น ใช้แคลมป์หรือคีมหนีบสายสะดือระหว่างรอหมอ พร้อมทั้งดูอาการของแม่เด็กให้อยู่ในภาวะปลอดภัย ต่อมาทีมแพทย์ประจำรถศูนย์ส่งกลับโรงพยาบาลตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ คุณหมอจึงได้ตัดสายสะดือแม่ และเด็กอย่างปลอดภัย จากนั้นตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ได้ช่วยเคลื่อนย้าย และขี่รถนำทางอำนวยความสะดวกพาแม่ และเด็กนำส่งโรงพยาบาลสิรินธรเรียบร้อยปลอดภัย” หัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ ศจร.ตร. กล่าว

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวด้วยว่า กรณีช่วยทำคลอดหญิงสาวชาวเมียนมาครั้งนี้ นับเป็นรายที่ 257 แล้วที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริช่วยทำคลอดช่วยชีวิตทารก และมารดาที่ต้องคลอดในภาวะฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร.ได้ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ชุดนี้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ ได้รับการฝึกฝนจนชำนาญ มีทักษะคล่องแคล่ว สามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสาบริการ มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง “สุภาพบุรุษจราจร” ที่ ศจร.ตร.กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด

หัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ ศจร.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 30 ปี ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ได้ดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนที่เกิดเหตุฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งการช่วยทำคลอดบนรถ ทำคลอดในบ้าน ช่วยเหลือปฐมพยาบาลช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤตนำส่งแพทย์อย่างเร่งด่วน อำนวยความสะดวกนำทางส่งต่ออวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ จากผู้บริจาคส่งถึงผู้ป่วยให้ทันเวลา รวมทั้งซ่อมรถฉุกเฉิน ฯลฯ ทั้งนี้หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานตำรวจโครงการพระราชดำริฯ ได้ที่ โทร.1197 กองบังคับการตำรวจจราจร .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน