“บิ๊กโจ๊ก” เผย “รองอ๊อฟ” อาสาเกลี้ยกล่อม “แอม” ให้รับสารภาพ

กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” เผยผลสอบ “น้อยหน่า” ภรรยาน้อย “รองอ๊อฟ” ให้การเป็นประโยชน์ คดี “แอม ไซยาไนด์” ขณะที่ “รองอ๊อฟ” ระบุหากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว อาสาเข้าไปเกลี้ยกล่อม “แอม” ให้รับสารภาพ


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ “น้อยหน่า” ภรรยาน้อย พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือ “รองอ๊อฟ” อดีตสามี “แอม ไซยาไนด์” ซึ่งถือว่าเป็นพยานบุคคลในคดีนี้ ว่า น้อยหน่า ให้การว่า เพิ่งคบหากับ รองอ๊อฟ ได้ประมาณ 5 เดือนเศษ จึงยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก แต่ก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

โดยในวันที่เดินทางไปหัวหินและกาญจนบุรี หลังจากก่อเหตุ น้อยหน่าก็เดินทางไปพร้อมกับรองอ๊อฟและแอมด้วย ซึ่งแอมยินยอมให้น้อยหน่าคบหากับรองอ๊อฟได้ และในระหว่างที่ไป 2 จังหวัดนี้ ซึ่งต้องมีการค้างคืน 1 คืน น้อยหน่า ให้การว่า แอมไม่ได้เดินทางออกไปไหนเลย หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ซึ่งถือเป็นวิธีการในการจัดฉาก เพื่ออ้างถึงที่อยู่ว่าตนเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยอาศัยน้อยหน่าเป็นพยานบุคคล เพื่อใช้ยืนยันว่า ทั้งแอมและรองอ๊อฟ ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุที่มีผู้เสียชีวิต แต่อยู่ต่างจังหวัด ดังนั้น น้อยหน่าจึงไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอกใช้เป็นพยาน


ส่วนกรณีของรองอ๊อฟ ได้แจ้งกับตนตั้งแต่เมื่อคืนว่า หากวันนี้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว รองอ๊อฟจะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเข้าไปในทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อพบกับแอม และเกลี้ยกล่อมให้แอมรับสารภาพ ซึ่ง รองอ๊อฟ กล่าวว่า ตนเองสามารถที่จะพูดคุยให้แอมรับสารภาพได้ ส่วนจะสามารถต่อรองได้ด้วยวิธีการไหนก็ขึ้นอยู่กับรองอ๊อฟ แต่เข้าใจว่า ด้วยสายสัมพันธ์ความเป็นสามีภรรยากันมาก่อน อาจจะสามารถทำได้ โดยทางตำรวจไม่ได้ตั้งเงื่อนไขในการที่รองอ๊อฟจะเข้าไปคุยกับแอม ว่าจะกันไว้เป็นพยาน เพราะอย่างไรก็ต้องดำเนินคดีกับรองอ๊อฟ ตามพยานหลักฐานที่มี

ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินว่ามีความเชื่อมโยงถึงน้อยหน่าหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่พบ แต่เย็นนี้ได้นัดคณะทำงานเกี่ยวกับคดีนี้มาประชุมกัน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดในคดีนี้ พร้อมทั้งย้ำว่า ในห้วงวันหยุด 4 วันนับจากนี้ จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอ เพื่อออกหมายจับรองอ๊อฟเพิ่มเติม และตรวจสอบว่ามีส่วนร่วมในคดีฆ่าคนตายหรือไม่ รวมทั้งจะตรวจสอบสำนวนคดีอย่างละเอียด เพื่อให้ประเด็นต่างๆ ในคดีครบถ้วน

ขณะนี้ตำรวจภูธรนครปฐม กำลังนำตัวรองอ๊อฟไปค้นบ้านพัก เพื่อดูพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องของสารไซยาไนด์ และเมื่อค้นบ้านเสร็จ ก็จะพามาที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อมาพบกับแอม ตามที่รองอ๊อฟร้องขอ โดยได้ประสานกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้วว่า เวลา 15.00 น. วันนี้ (4 พ.ค.66) ตนจะขอเข้าไปสอบปากคำแอม ในทัณฑสถานหญิงกลาง


ส่วนคดีการเสียชีวิตของทราย ในท้องที่ สน.ทองหล่อ เมื่อวานนี้ ผกก.สน.ทองหล่อ ได้โทรมารายงานแล้วว่า ในวันอังคารที่ 9 พฤษภาคมนี้ จะขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับ ดังนั้น ภายในสัปดาห์หน้าจะออกหมายจับแอม ข้อหาฆาตกรรม ครบทั้ง 14 คดี

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ทำให้รองอ๊อฟยอมรับสารภาพและให้การช่วยเหลือตำรวจในการดำเนินคดี เนื่องจากเมื่อคืนนี้ ตนได้พูดคุยกับรองอ๊อฟตรงๆ ว่า เราเป็นตำรวจเหมือนกัน เป็นพี่น้องกัน เมื่อคดีมันเกิดขึ้นแล้ว และสังคมตัดสินไปแล้ว ขนาดศาลยังอนุมัติออกหมายจับรองอ๊อฟ ถึงวันนี้ถ้ารองอ๊อฟจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ก็ควรจะทำ จึงทำให้รองอ๊อฟรับสารภาพ และยอมที่จะไปพูดคุยกับแอม เพื่อให้แอมรับสารภาพเช่นกัน ซึ่งอย่างน้อยก็สามารถทำให้โทษหนักกลายเป็นเบาได้ จากการให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงาน

อย่างไรก็ตาม การรับสารภาพของรองอ๊อฟ เป็นการรับสารภาพในข้อหารับของโจรและเอกสารปลอม ส่วนคดีเกี่ยวกับการฆ่ายังไม่รับ แต่ทั้งนี้ ไม่ว่ารองอ๊อฟจะพูดโกหกหรือพูดจริง ตำรวจก็มีพยานหลักฐานอื่นที่จะสามารถมัดตัวรองอ๊อฟได้

ส่วนวันนี้ (4 พ.ค.66) ที่สโมสรตำรวจ ยังไม่มีการเรียกใครมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ได้เตรียมออกหมายเรียกสอบปากคำในฐานะพยานต่อบุคคลที่สั่งซื้อไซยาไนด์ในลอตเดียวกับแอม ซึ่งมีทั้งดาราหญิงและพยาบาล รวม 10 คน มาพบภายในไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า เพื่อซักถามว่าสั่งซื้อมาเพราะอะไร เบื้องต้นพบว่ามีคนสั่งซื้อไซยาไนด์ลอตเดียวกับแอม รวมกว่า 100 ราย แต่จะเรียก 10 คนข้างต้นมาสอบ รวมถึงจะไล่ตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรู้เห็นด้วยหรือไม่ ส่วนดาราหญิงคนนี้ ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ได้เตรียมประสานกับทางผู้จัดการของดาราคนดังกล่าวแล้ว เมื่อถึงเวลาก็จะรู้เองว่าเป็นใคร

ต่อมาเวลา 13.50 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางออกจากสโมสรตำรวจ เพื่อเตรียมเดินทางไปสอบปากคำแอม ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเดินขึ้นรถว่า ตนยังไม่ทราบถึงรายงานข่าวที่ว่า รองอ๊อฟกลับลำให้การปฏิเสธ 2 ข้อหา เท่าที่ทราบตอนนี้ทางตำรวจนครปฐมกำลังนำตัวรองอ๊อฟไปค้นบ้านอยู่ ซึ่งหลังจากที่ค้นบ้านเสร็จ ก็จะนำตัวรองอ๊อฟมายังทัณฑสถานหญิงกลางทันที และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ก็จะนำตัวรองอ๊อฟเข้าฝากขังที่เรือนจำจังหวัดนครปฐมทันที เนื่องจากขณะนี้ศาลจังหวัดนครปฐมให้ฝากขังรองอ๊อฟแล้ว แต่ทางตำรวจขอศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อนำตัวมาค้นบ้านพัก และมาพบกับแอม ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข