“ช่อง 9 ดีเบต” รอบ 2 เผยจุดแข็ง-จุดอ่อน แคนดิเดตนายกฯ

อสมท 3 พ.ค. – “MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง 66” ดีเบตรอบ 2 เผยจุดแข็ง-จุดอ่อน แคนดิเดตนายกฯ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ประกาศชัดไม่จับขั้วพรรค 2 ลุง เห็นพ้องพรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดควรเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล


รายการ “MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง 66” เวทีประชันวิสัยทัศน์ ครั้งที่ 2 “ถอดสูตร จับขั้วรัฐบาล สู่เป้าหมายนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” มีตัวแทน 6 พรรคการเมืองเข้าร่วม ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายเกียรติ สิทธีอมร คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

นายภูมิธรรม กล่าวว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 คน มีความเหมาะสม เพราะเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย เป็นที่ยอมรับทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ มีความเป็นมืออาชีพ เข้าใจปัญหาอย่างครบถ้วนรอบด้าน มีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรีทุกคน และไม่ว่าใครได้เป็นนายกรัฐมนตรี อีก 2 คนก็จะช่วยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นี่คือการทำงานเป็นทีม ซึ่งนโยบายที่พรรคนำเสนอ คือ การมองนอกกรอบ เห็นแง่มุมใหม่ๆ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ ทั้งนี้ ถ้าจะเลือกให้เหลือเพียงคนเดียว ก็ต้องรอภายหลังได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ทางการเมือง ว่าใครที่จะเหมาะเป็นผู้นำ


นายสุชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ซึ่งอาจจะไม่หวือหวา แต่ราบรื่น มั่นคงแข็งแรง โดยเปรียบหากต้องเลือกหมอผ่าตัดหัวใจ ก็จะเลือกหมอที่มีประสบการณ์

“หากผ่าตัดหัวใจก็จะไม่หาหมอใหม่ๆ แต่ต้องหาหมอที่มีประสบการณ์มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต แก้ปัญหาโควิดที่ผ่านมา จนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น รวมถึงมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดี” นายสุชาติ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ เป็นคนมีจิตใจดี อยากช่วยเหลือประชาชน รับฟังทุกกลุ่มทุกฝ่ายมาโดยตลอด ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและอยู่มาได้ 4 ปี เพราะมี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ประสาน


“พล.อ.ประวิตร ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะวันนี้การเมืองมีปัญหา ซึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกัน เพื่อหาทางออกให้ประเทศ ผ่านกลไกของรัฐสภา เชื่อว่าการประสานงานได้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีความพร้อมที่จะมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายเกียรติ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส. 11 สมัย เป็นรัฐมนตรี 7 กระทรวง เมื่อเทียบกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ คุณสมบัติเหนือกว่าหลายๆ คน ซึ่งการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ต้องได้รับการยอมรับและพิสูจน์ฝีมือ ไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ ซึ่งนายจุรินทร์ มีความรู้เรื่องการบริหารงานของประเทศ เป็นคนรักครอบครัว รักศิลปะ ถือว่าเป็นคนมีความรอบคอบ ไม่หุนหัน แต่อาจจะมีข้อเสียเล็กน้อย คือ พูดไม่ค่อยเก่ง

นายศุภชัย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เป็นหัวหน้าพรรคมา 10 ปี เป็นผู้นำที่โดดเด่น ใกล้ชิดสมาชิกพรรค และเป็นที่ยอมรับของทุกคน มีประสบการณ์ในภาคเอกชนและงานภาครัฐ ช่วงโควิดที่ผ่านมา มีบทบาทในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถือว่ามีความสามารถในการเป็นผู้นำในภาวะวิกฤติ นอกจากเรื่องคุณวุฒิแล้ว วัยวุฒิก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ นายอนุทิน ถือว่ามีร่างกายแข็งแรง สามารถที่จะนำพาประเทศผ่านวิกฤติไปได้ และนายอนุทิน มีความเป็นนักประนีประนอม ไม่ชอบเรื่องความขัดแย้ง และเป็นคนดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี ปิดทองหลังพระในการช่วยชีวิตคนมาจำนวนมาก

นายชัยธวัช กล่าวว่า ปัญหาของสังคมไทยในปัจจุบัน คือ ปัญหาการเมืองติดหล่ม จำเป็นต้องยกระดับคุณภาพของพรรคการเมืองและนักการเมืองใหม่ เพื่อให้ประชาชนกลับมาศรัทธาในระบบรัฐสภา ปัญหาความหลากหลายของสังคมยุคใหม่ที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่อย่างไร

“นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด เพราะเป็นผู้นำทางการเมืองที่กล้าเผชิญปัญหายากๆ และกล้าเผชิญปัญหาในสิ่งที่นักการเมืองแบบเดิมไม่ค่อยอยากจะพูดถึง และเผชิญได้อย่างมีวุฒิภาวะ” นายชัยธวัช กล่าว

จากนั้นให้ตัวแทนแต่ละพรรค สลับกันบอกถึงเหตุผลที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่นไม่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเหมือนตัวแทนของคนที่คิดว่ากำลังหวังดีกับประเทศ และทำเพื่อชาติ แต่สุดท้ายคือกลายเป็นโศกนาฏกรรมโดยไม่รู้ตัว และคิดว่าควรพอได้แล้วกับความหวังดี เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมสำหรับสังคมไทยไปมากกว่านี้

นายสุชาติ กล่าวว่า สิ่งที่เลขาธิการพรรคก้าวไกลพูด เป็นสิ่งที่บุคคลภายนอกมอง ยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี ซึ่งแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ย้ำถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่คนดี ตนเองคงไม่มาร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ และคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรไปต่อ เพราะต้องทำงานต่อในสิ่งที่ยังไม่สำเร็จ

พร้อมกันนี้ นายสุชาติ มองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา เป็นนักธุรกิจ ไม่ได้รู้บริบททางการเมืองที่มีรายละเอียดมาก การเป็นผู้นำประเทศควรจะมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมากกว่านี้ ขณะที่ น.ส.แพทองธาร มีประสบการณ์น้อย

นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า แคนดิเดตทั้ง 3 คนของพรรคเพื่อไทย มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และมีความเป็นคนรุ่นใหม่ อายุเป็นเพียงตัวเลข และเชื่อว่าการเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร มีความรู้ลึกถึงการทำงานทางการเมือง

นายภูมิธรรม ระบุว่า นายอนุทิน น่าจะมีทัศนคติเกี่ยวกับปัญหากัญชาที่ดีกว่านี้ ซึ่งพรรคการเมืองอื่นก็น่าจะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนโยบายกัญชาได้ แต่นายอนุทินก็สวนกลับทันที ซึ่งคนเป็นนายกรัฐมนตรีควรจะต้องมีสติ คิดถึงปัญหาต่างๆ และควรเป็นคนที่มีความใจกว้าง แลกเปลี่ยนปัญหากัน ซึ่งการทำงานของนายอนุทินที่ผ่านมา ยังไม่เหมาะกับวิกฤติที่เกิดขึ้นของโลกที่มีปัญหาซับซ้อน

นายศุภชัย ชี้แจงว่า นายเศรษฐาไม่เข้าใจเรื่องของกัญชา รวมถึงไปปราศรัยว่า ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นการกล่าวเท็จ ทำให้นายอนุทินต้องออกมาชี้แจง ซึ่งตนอยากบอกว่า นายเศรษฐาเองที่ไม่เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี และการที่นายอนุทินได้ออกมาชี้แจงนั้น เป็นสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว

พร้อมกล่าวว่า ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประวิตร มีอายุมากเกินไป และประสบการณ์ในการบริหารงานต้องมีมากกว่านี้ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ควรจะต้องมีความรู้และประสบการณ์ที่รอบด้าน

ด้านนายชัยวุฒิ ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร มีสุขภาพที่ดี อาจจะเดินช้าบ้าง แต่ในเรื่องการทำงานนั้น จำได้หมด และมีความเข้าใจในการทำงาน แต่อาจจะไม่พูดหรืออธิบายอะไรมาก ถือเป็นสไตล์ในการทำงาน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การบริหารประเทศมีความลึกมากกว่าการทำงานในรัฐสภา และเชื่อว่า นายพิธาจะไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งมองว่า ภายในพรรคก้าวไกล มีอีกหลายคนที่ควบคุมการเมืองภายในพรรค เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งถ้าการเมืองมีความแหลมคม เชื่อว่า นายพิธาจะไม่สามารถขับเคลื่อนการเมืองไปได้

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า พรรคไม่มีการถูกควบคุมโดยคนอื่น เพราะมีการแบ่งงานชัดเจนว่า ในแต่ละเรื่องจะมีใครเป็นผู้ตัดสินใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องจบลงที่คณะกรรมการบริหารพรรค เชื่อว่า นายพิธาจะแสดงบทบาททางการเมืองที่ถูกต้อง

นายเกียรติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยและประสบการณ์น้อย อาจไม่สามารถนำพาประเทศไปได้ นอกจากประสบการณ์แล้ว คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น คำพูดเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่พูดกลับไปกลับมา

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า บริบทของสังคมไทย ต้องการผู้นำที่มีประสบการณ์ใหม่ มุมมองใหม่ วิธีการคิดใหม่ เพราะประเทศอยู่ภายใต้ประสบการณ์และความสำเร็จแบบเก่ามายาวนาน และทำให้มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้

ขณะที่การรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล จำเป็นจะต้องได้เสียง ส.ส. เกินกึ่งหนึ่งหรือไม่นั้น หลายพรรคการเมือง ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด ตามวัฒนธรรมทางการเมืองควรจะเป็นผู้ที่ได้รวบรวมการจัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะในทางปฏิบัติ การจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงข้างน้อยนั้น เป็นไปได้ยากและไม่ควรเกิดขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การโหวตผ่านงบประมาณประจำปี

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลมาจากการได้เสียง ส.ส.ไม่เกินกึ่งหนึ่งนั้น แปลว่าจะได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย การได้เสียง ส.ว.มาสนับสนุนนั้น ตามรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัตินั้นเป็นไปไม่ได้ในการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้เราควรพูดถึงการเมืองที่ควรจะเป็น กับการเมืองที่เป็นจริงในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งการเมืองที่ควรจะเป็นนั้น ต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยและเสียงของประชาชน ซึ่งคนที่ได้เสียงมากที่สุดในสภาฯ ต้องมีสิทธิที่จะรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล และเราไม่ควรพูดถึงการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และตามรัฐธรรมนูญยังให้อำนาจ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ส.ว. ถือว่ามีความสำคัญที่จะต้องคิดให้ดี

ขณะที่เงื่อนไขในการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยัน “มีเรา ไม่มีลุง” เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่เอาลุงทั้ง 2 พรรค คือ พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยพรรคที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ต้องเป็นพรรคที่มีวิญญาณทางประชาธิปไตย

นายชัยวุฒิ บอกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่จับขั้วกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล และต้องจับขั้วกับพรรคอื่นๆ ที่มีอยู่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลักของการร่วมรัฐบาลของเพื่อไทย คือ การยอมรับในสิ่งที่เราเป็น นายกรัฐมนตรีต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย และต้องยอมรับนโยบายของพรรค

ทั้งนี้ หากพรรคที่รวบรวมคะแนนเสียงในสภาฯ ได้เกินกึ่งหนึ่ง แต่หาก ส.ว. งดออกเสียงทั้ง 250 คน จะมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็สามารถเป็นไปได้ หาก ส.ว. จะไม่เห็นด้วย เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็ต้องมาพูดคุยกันไหมว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่ใช่จะประเมินแค่ ส.ว. อย่างเดียว สิ่งสำคัญคือต้องประเมินอารมณ์ของสังคมด้วย หาก ส.ว. ทำเช่นนั้นจริง จะเป็นการประเมินความโกรธของสังคมน้อยไป น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้สังคมลุกเป็นไฟ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นการคาดการณ์ทั้งหมด แต่เชื่อว่า ส.ว. น่าจะมีความคิดและวุฒิภาวะ และเชื่อว่าการตัดสินใจของ ส.ว.ในครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม เช่นเดียวกับนายเกียรติ กล่าวว่า ต้องให้เกียรติ ส.ว. และ ส.ว.เองจะเป็นผู้ที่ต้องตอบสังคม ซึ่งบริบทขณะนี้ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

สำหรับหมัดเด็ดในช่วงโค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทย บอกว่า ต้องเดินไปในลู่ อย่าให้ตกลู่ ต้องดูคู่แข่งว่าเป็นอย่างไร และต้องประเมินสถานการณ์และแก้ไขปัญหาให้ได้ ด้านพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ทุกพรรคการเมืองเมื่อเดินเข้าด่านสุดท้ายก็จะมีกิมมิกออกมา ซึ่งต้องประเมินคู่แข่งด้วย

นายสุชาติ กล่าวว่า พรรคได้วางยุทธศาสตร์พรรคไว้แล้วว่าจะปล่อยหมัดเด็ดออกมาอย่างไร ในขณะที่ ส.ส. ก็ต้องลงพื้นที่ เช่นเดียวกับนายชัยวุฒิ ที่ต้องให้ ส.ส.ในพื้นที่ทำให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจมากที่สุด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทย 17 ก.ย.-“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย มั่นใจพรรคนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่หวังประโยชน์ส่วนตัว แจงไม่ขัดแย้งกับ รทสช. ชี้เป็นเรื่องภายในพรรค ด้าน “พิพัฒน์” ตั้งเป้ากวาดที่นั่งภาคใต้มากขึ้น พร้อมเดินหน้าแลนด์บริดจ์ นายชุมพล จุลใส นำ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ และนายสุพล จุลใส 2 สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวเตรียมร่วมงานที่พรรคภูมิใจไทย รวมถึง นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ที่นำทีมพลังชุมพร 27 คน สมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยให้กับ นายก อบจ. นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งได้ต้อนรับ คณะจากจังหวัดชุมพร ที่มาให้กำลังใจนายอนุทินโดย ได้รับการยืนยันว่า จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้แข็งแกร่งเติบโต และมีความเจริญขึ้น โดยการนำของนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย ขอบคุณที่ให้โอกาสภาคภูมิใจไทยได้ไปร่วมทำงานกับพี่น้องจังหวัดชุมพร ทุกคนมีเจตจำนงที่จะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งในสมัยต่อไป นายชุมพล กล่าวว่า ตนขอพูดในนามส่วนตัวว่ามีความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสามารถนำพาประเทศไปได้และทำทุกอย่างให้ประเทศมีความมั่นคงให้ประเทศเดินไปข้างหน้า […]

วางระเบิด-ยิงซ้ำ ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย

นราธิวาส 17 ก.ย.-คนร้ายลอบวางระเบิด-ยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย ขณะลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 07.53 น. วันที่ 17 กันยายน 2568 เกิดเหตุลอบวางระเบิดและมีการยิงซ้ำ บริเวณบ้านบือราแง ม.3 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานหน่วย ฉก.ทพ.48 กำลังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทาง เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ได้แก่ 1.จ่าสิบเอก ปิยะ อินทะโกษี ได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอกจากแรงระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณป้อมปืน2.อส.ทพ.สุริยาวุธ ช่างเกวียนดี ได้รับบาดเจ็บภายในรถ ไม่สามารถขยับออกมาได้ ต้องใช้รถกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ แต่ยังมีสติ3.อส.ทพ.ตะวัน สว่างเมฆารัตน์ พลขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ4.อส.ทพ.ธีระพงษ์ พรมพัด ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ ทั้ง 4 นายถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อทำการรักษาและตรวจอาการเพิ่มเติม ภายหลังเหตุการณ์ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและความเข้มงวดในการปฏิบัติการวิทยุสื่อสาร (ว.4) โดยเฉพาะฐานที่ตั้ง […]

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]