“ช่อง 9 ดีเบต” รอบ 2 เผยจุดแข็ง-จุดอ่อน แคนดิเดตนายกฯ

อสมท 3 พ.ค. – “MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง 66” ดีเบตรอบ 2 เผยจุดแข็ง-จุดอ่อน แคนดิเดตนายกฯ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ประกาศชัดไม่จับขั้วพรรค 2 ลุง เห็นพ้องพรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดควรเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล


รายการ “MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง 66” เวทีประชันวิสัยทัศน์ ครั้งที่ 2 “ถอดสูตร จับขั้วรัฐบาล สู่เป้าหมายนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” มีตัวแทน 6 พรรคการเมืองเข้าร่วม ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายเกียรติ สิทธีอมร คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

นายภูมิธรรม กล่าวว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 คน มีความเหมาะสม เพราะเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย เป็นที่ยอมรับทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ มีความเป็นมืออาชีพ เข้าใจปัญหาอย่างครบถ้วนรอบด้าน มีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรีทุกคน และไม่ว่าใครได้เป็นนายกรัฐมนตรี อีก 2 คนก็จะช่วยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นี่คือการทำงานเป็นทีม ซึ่งนโยบายที่พรรคนำเสนอ คือ การมองนอกกรอบ เห็นแง่มุมใหม่ๆ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ ทั้งนี้ ถ้าจะเลือกให้เหลือเพียงคนเดียว ก็ต้องรอภายหลังได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ทางการเมือง ว่าใครที่จะเหมาะเป็นผู้นำ


นายสุชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ซึ่งอาจจะไม่หวือหวา แต่ราบรื่น มั่นคงแข็งแรง โดยเปรียบหากต้องเลือกหมอผ่าตัดหัวใจ ก็จะเลือกหมอที่มีประสบการณ์

“หากผ่าตัดหัวใจก็จะไม่หาหมอใหม่ๆ แต่ต้องหาหมอที่มีประสบการณ์มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต แก้ปัญหาโควิดที่ผ่านมา จนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น รวมถึงมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดี” นายสุชาติ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ เป็นคนมีจิตใจดี อยากช่วยเหลือประชาชน รับฟังทุกกลุ่มทุกฝ่ายมาโดยตลอด ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและอยู่มาได้ 4 ปี เพราะมี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ประสาน


“พล.อ.ประวิตร ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะวันนี้การเมืองมีปัญหา ซึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกัน เพื่อหาทางออกให้ประเทศ ผ่านกลไกของรัฐสภา เชื่อว่าการประสานงานได้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีความพร้อมที่จะมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายเกียรติ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส. 11 สมัย เป็นรัฐมนตรี 7 กระทรวง เมื่อเทียบกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ คุณสมบัติเหนือกว่าหลายๆ คน ซึ่งการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ต้องได้รับการยอมรับและพิสูจน์ฝีมือ ไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ ซึ่งนายจุรินทร์ มีความรู้เรื่องการบริหารงานของประเทศ เป็นคนรักครอบครัว รักศิลปะ ถือว่าเป็นคนมีความรอบคอบ ไม่หุนหัน แต่อาจจะมีข้อเสียเล็กน้อย คือ พูดไม่ค่อยเก่ง

นายศุภชัย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เป็นหัวหน้าพรรคมา 10 ปี เป็นผู้นำที่โดดเด่น ใกล้ชิดสมาชิกพรรค และเป็นที่ยอมรับของทุกคน มีประสบการณ์ในภาคเอกชนและงานภาครัฐ ช่วงโควิดที่ผ่านมา มีบทบาทในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถือว่ามีความสามารถในการเป็นผู้นำในภาวะวิกฤติ นอกจากเรื่องคุณวุฒิแล้ว วัยวุฒิก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ นายอนุทิน ถือว่ามีร่างกายแข็งแรง สามารถที่จะนำพาประเทศผ่านวิกฤติไปได้ และนายอนุทิน มีความเป็นนักประนีประนอม ไม่ชอบเรื่องความขัดแย้ง และเป็นคนดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี ปิดทองหลังพระในการช่วยชีวิตคนมาจำนวนมาก

นายชัยธวัช กล่าวว่า ปัญหาของสังคมไทยในปัจจุบัน คือ ปัญหาการเมืองติดหล่ม จำเป็นต้องยกระดับคุณภาพของพรรคการเมืองและนักการเมืองใหม่ เพื่อให้ประชาชนกลับมาศรัทธาในระบบรัฐสภา ปัญหาความหลากหลายของสังคมยุคใหม่ที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่อย่างไร

“นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด เพราะเป็นผู้นำทางการเมืองที่กล้าเผชิญปัญหายากๆ และกล้าเผชิญปัญหาในสิ่งที่นักการเมืองแบบเดิมไม่ค่อยอยากจะพูดถึง และเผชิญได้อย่างมีวุฒิภาวะ” นายชัยธวัช กล่าว

จากนั้นให้ตัวแทนแต่ละพรรค สลับกันบอกถึงเหตุผลที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่นไม่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเหมือนตัวแทนของคนที่คิดว่ากำลังหวังดีกับประเทศ และทำเพื่อชาติ แต่สุดท้ายคือกลายเป็นโศกนาฏกรรมโดยไม่รู้ตัว และคิดว่าควรพอได้แล้วกับความหวังดี เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมสำหรับสังคมไทยไปมากกว่านี้

นายสุชาติ กล่าวว่า สิ่งที่เลขาธิการพรรคก้าวไกลพูด เป็นสิ่งที่บุคคลภายนอกมอง ยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี ซึ่งแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ย้ำถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่คนดี ตนเองคงไม่มาร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ และคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรไปต่อ เพราะต้องทำงานต่อในสิ่งที่ยังไม่สำเร็จ

พร้อมกันนี้ นายสุชาติ มองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา เป็นนักธุรกิจ ไม่ได้รู้บริบททางการเมืองที่มีรายละเอียดมาก การเป็นผู้นำประเทศควรจะมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมากกว่านี้ ขณะที่ น.ส.แพทองธาร มีประสบการณ์น้อย

นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า แคนดิเดตทั้ง 3 คนของพรรคเพื่อไทย มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และมีความเป็นคนรุ่นใหม่ อายุเป็นเพียงตัวเลข และเชื่อว่าการเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร มีความรู้ลึกถึงการทำงานทางการเมือง

นายภูมิธรรม ระบุว่า นายอนุทิน น่าจะมีทัศนคติเกี่ยวกับปัญหากัญชาที่ดีกว่านี้ ซึ่งพรรคการเมืองอื่นก็น่าจะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนโยบายกัญชาได้ แต่นายอนุทินก็สวนกลับทันที ซึ่งคนเป็นนายกรัฐมนตรีควรจะต้องมีสติ คิดถึงปัญหาต่างๆ และควรเป็นคนที่มีความใจกว้าง แลกเปลี่ยนปัญหากัน ซึ่งการทำงานของนายอนุทินที่ผ่านมา ยังไม่เหมาะกับวิกฤติที่เกิดขึ้นของโลกที่มีปัญหาซับซ้อน

นายศุภชัย ชี้แจงว่า นายเศรษฐาไม่เข้าใจเรื่องของกัญชา รวมถึงไปปราศรัยว่า ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นการกล่าวเท็จ ทำให้นายอนุทินต้องออกมาชี้แจง ซึ่งตนอยากบอกว่า นายเศรษฐาเองที่ไม่เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี และการที่นายอนุทินได้ออกมาชี้แจงนั้น เป็นสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว

พร้อมกล่าวว่า ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประวิตร มีอายุมากเกินไป และประสบการณ์ในการบริหารงานต้องมีมากกว่านี้ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ควรจะต้องมีความรู้และประสบการณ์ที่รอบด้าน

ด้านนายชัยวุฒิ ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร มีสุขภาพที่ดี อาจจะเดินช้าบ้าง แต่ในเรื่องการทำงานนั้น จำได้หมด และมีความเข้าใจในการทำงาน แต่อาจจะไม่พูดหรืออธิบายอะไรมาก ถือเป็นสไตล์ในการทำงาน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การบริหารประเทศมีความลึกมากกว่าการทำงานในรัฐสภา และเชื่อว่า นายพิธาจะไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งมองว่า ภายในพรรคก้าวไกล มีอีกหลายคนที่ควบคุมการเมืองภายในพรรค เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งถ้าการเมืองมีความแหลมคม เชื่อว่า นายพิธาจะไม่สามารถขับเคลื่อนการเมืองไปได้

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า พรรคไม่มีการถูกควบคุมโดยคนอื่น เพราะมีการแบ่งงานชัดเจนว่า ในแต่ละเรื่องจะมีใครเป็นผู้ตัดสินใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องจบลงที่คณะกรรมการบริหารพรรค เชื่อว่า นายพิธาจะแสดงบทบาททางการเมืองที่ถูกต้อง

นายเกียรติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยและประสบการณ์น้อย อาจไม่สามารถนำพาประเทศไปได้ นอกจากประสบการณ์แล้ว คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น คำพูดเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่พูดกลับไปกลับมา

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า บริบทของสังคมไทย ต้องการผู้นำที่มีประสบการณ์ใหม่ มุมมองใหม่ วิธีการคิดใหม่ เพราะประเทศอยู่ภายใต้ประสบการณ์และความสำเร็จแบบเก่ามายาวนาน และทำให้มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้

ขณะที่การรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล จำเป็นจะต้องได้เสียง ส.ส. เกินกึ่งหนึ่งหรือไม่นั้น หลายพรรคการเมือง ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด ตามวัฒนธรรมทางการเมืองควรจะเป็นผู้ที่ได้รวบรวมการจัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะในทางปฏิบัติ การจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงข้างน้อยนั้น เป็นไปได้ยากและไม่ควรเกิดขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การโหวตผ่านงบประมาณประจำปี

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลมาจากการได้เสียง ส.ส.ไม่เกินกึ่งหนึ่งนั้น แปลว่าจะได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย การได้เสียง ส.ว.มาสนับสนุนนั้น ตามรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัตินั้นเป็นไปไม่ได้ในการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้เราควรพูดถึงการเมืองที่ควรจะเป็น กับการเมืองที่เป็นจริงในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งการเมืองที่ควรจะเป็นนั้น ต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยและเสียงของประชาชน ซึ่งคนที่ได้เสียงมากที่สุดในสภาฯ ต้องมีสิทธิที่จะรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล และเราไม่ควรพูดถึงการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และตามรัฐธรรมนูญยังให้อำนาจ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ส.ว. ถือว่ามีความสำคัญที่จะต้องคิดให้ดี

ขณะที่เงื่อนไขในการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยัน “มีเรา ไม่มีลุง” เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่เอาลุงทั้ง 2 พรรค คือ พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยพรรคที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ต้องเป็นพรรคที่มีวิญญาณทางประชาธิปไตย

นายชัยวุฒิ บอกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่จับขั้วกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล และต้องจับขั้วกับพรรคอื่นๆ ที่มีอยู่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลักของการร่วมรัฐบาลของเพื่อไทย คือ การยอมรับในสิ่งที่เราเป็น นายกรัฐมนตรีต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย และต้องยอมรับนโยบายของพรรค

ทั้งนี้ หากพรรคที่รวบรวมคะแนนเสียงในสภาฯ ได้เกินกึ่งหนึ่ง แต่หาก ส.ว. งดออกเสียงทั้ง 250 คน จะมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็สามารถเป็นไปได้ หาก ส.ว. จะไม่เห็นด้วย เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็ต้องมาพูดคุยกันไหมว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่ใช่จะประเมินแค่ ส.ว. อย่างเดียว สิ่งสำคัญคือต้องประเมินอารมณ์ของสังคมด้วย หาก ส.ว. ทำเช่นนั้นจริง จะเป็นการประเมินความโกรธของสังคมน้อยไป น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้สังคมลุกเป็นไฟ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นการคาดการณ์ทั้งหมด แต่เชื่อว่า ส.ว. น่าจะมีความคิดและวุฒิภาวะ และเชื่อว่าการตัดสินใจของ ส.ว.ในครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม เช่นเดียวกับนายเกียรติ กล่าวว่า ต้องให้เกียรติ ส.ว. และ ส.ว.เองจะเป็นผู้ที่ต้องตอบสังคม ซึ่งบริบทขณะนี้ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

สำหรับหมัดเด็ดในช่วงโค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทย บอกว่า ต้องเดินไปในลู่ อย่าให้ตกลู่ ต้องดูคู่แข่งว่าเป็นอย่างไร และต้องประเมินสถานการณ์และแก้ไขปัญหาให้ได้ ด้านพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ทุกพรรคการเมืองเมื่อเดินเข้าด่านสุดท้ายก็จะมีกิมมิกออกมา ซึ่งต้องประเมินคู่แข่งด้วย

นายสุชาติ กล่าวว่า พรรคได้วางยุทธศาสตร์พรรคไว้แล้วว่าจะปล่อยหมัดเด็ดออกมาอย่างไร ในขณะที่ ส.ส. ก็ต้องลงพื้นที่ เช่นเดียวกับนายชัยวุฒิ ที่ต้องให้ ส.ส.ในพื้นที่ทำให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจมากที่สุด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย