กกต. 21 เม.ย.-ประธาน กกต. ชี้สีบัตรเลือกตั้ง “เขียว-ม่วง” ไม่ซ้ำกับสีของพรรคการเมือง เชื่อบัตรไม่อัดแน่นจนประชาชนตาลาย เพราะดูขนาดบัตรพอดีกับจำนวนพรรค ตั้งเป้าลดบัตรเสียเหลือร้อยละ 1
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงบัตรเลือกตั้งว่า บัตรมี 2 ประเภทเลือกตั้งแบบแบ่งเขตจะเป็นสีม่วง ส่วนแบบบัญชีรายชื่อเป็นสีเขียว ซึ่งเรื่องของสีบัตรนั้นมีหลายคนสงสัยว่าทำไมต้องเป็น 2 สี เพราะเวลาเราพิจารณาสีบัตรเราได้คำนึกถึงสีที่จะไม่ไปซ้ำกับสีที่พรรคการเมืองใช้ ฉะนั้นสีบัตรที่เราเลือกมานั้นจะไม่มีความเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองใดจึงได้เป็น 2 สีนี้
เมื่อถามว่า กรณีบัตรเลือกตั้งที่อัดแน่นหมายเลขในกระดาษใบเดียว อาจจะเป็นอุปสรรคต่อผู้สูงอายุ นายอิทธิพร กล่าวว่า เท่าที่เห็นบัตรตัวอย่างตอนประชุม กกต.ดูแล้วไม่ได้อัดแน่นมาก เพราะถ้ามันเกินจำนวนเราก็จะใช้กระดาษอีกขนาดหนึ่ง ฉะนั้นเราไม่ให้มันอัดแน่นจนตาลายแน่ ถ้าเป็นเรื่องหลักการถ้าในเขตเลือกตั้งนั้นมีผู้สมัครน้อยคนก็อาจจะเป็นกระดาษขนาดที่เหมาะสมหรือขนาด A4 แต่ถ้ามีจำนวนผู้สมัครเยอะก็อาจจะเป็นกระดาษขนาดที่ใหญ่ขึ้น
ส่วนที่มีหลายคนกังวลเรื่องคอลัมน์ในบัตรช่องที่ต้องกาลงคะแนนทั้งคอลัมน์แรกกับคอลัมน์หลังจะทำคนสับสนหรือไม่นั้น เรื่องบัตรเลือกตั้งที่ทำมาในครั้งนี้ก็เป็นบัตรที่ทำมาในทำนองเดียวกับเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และ 2557 ซึ่งช่วงนั้นมีบัตร 2 ใบแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อเหมือนกัน คราวนี้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.แก้ไขใหม่ ระบุว่าต้องทำ 2 อย่างแตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่เราทำสอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และข้อกฎหมายที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อถามถึงยอดบัตรเสียที่จะเกิดในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายอิทธิพร กล่าวว่า เราตั้งเป้าให้เสียน้อยที่สุด เราตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 2 ถ้าเป็นร้อยละ 1 ได้จะดีใจมาก ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเกินจนเป็นร้อยละ 4 ครั้งนี้มีบัตร 2 ใบเราตระหนักดีว่ามันต่างจากครั้งที่แล้วและเป็นความท้าทาย ฉะนั้นกระบวนการที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ต้องทำให้มากยิ่งขึ้น หวังว่าจะช่วยลดความสับสนเรื่องบัตรเสียได้ และหน้าหน่วยเลือกตั้งเองก็จะมีบอร์ดประชาสัมพันธ์เป็นข้อมูลเบื้องต้น นอกเหนือจากประวัติของผู้สมัครแล้ว เช่น ข้อควรที่ต้องระวังไม่ไปถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งที่กาแล้ว อย่านำบัตรเลือกตั้งออกนอกหน่วย อย่าทำให้บัตรชำรุด
นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องบัตรเขย่งเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ และทราบดีว่าประชาชนให้ความสนใจ บัตรเขย่งปี 2562 นั้น ตามข้อมูลที่เรามีเขย่งไป 8 หน่วยเลือกตั้งจาก 92,320 หน่วย ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วไม่ถึง 0.01 แต่นั้นไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราจะไม่พยายามทำให้มันไม่เกิดขึ้น เรื่องนี้เรามีการอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) อย่างเข้มข้นอีกทีว่าสิ่งที่พึงปฏิบัติไม่ให้เกิดบัตรเขย่งทำอย่างไร ซึ่งตัวอย่างที่ดีมีให้เห็นในครั้งเลือกตั้งกรุงเทพมหานครปี 2565 ไม่มีบัตรเขย่งเลย ดังนั้นครั้งนี้เราก็หวังว่าจะไม่มีบัตรเขย่ง หรือถ้ามีก็ให้น้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย