คนบ่นค่าไฟแพง-แนะเปิดแอร์ควบคู่พัดลม

กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – บ่นกันระงมค่าไฟแพง หลังอากาศร้อนจัด คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก กินไฟเพิ่ม เข้าคิวยาวล้างแอร์ แนะเปิดแอร์ควบคู่พัดลม ด้านสำนักงาน กกพ. แจงพร้อมลดค่าเอฟทีงวด 2/66 อีก 7 สตางค์ หาก กฟผ. ทำหนังสือยืนยันยืดหนี้ที่เหลือ 1.3 แสนล้านบาท พร้อมลุ้นเอราวัณผลิตก๊าซเพิ่มตามแผน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อสังคมออนไลน์มีการโชว์บิลค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นมากในเดือนมีนาคม ในระดับพันบาท และคาดว่าบิลเดือนเมษายน จะจ่ายแพงกว่าอีก เพราะหลายคนหยุดสงกรานต์ เปิดแอร์คลายร้อน โดยค่าไฟฟ้าของไทยเป็นอัตราก้าวหน้า ยิ่งใช้แยอะยิ่งจ่ายแพง โดยค่าไฟบ้าน หากใช้ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน จะอยู่ที่หน่วยละ 3.2484 บาท ส่วน 250 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 151-400 ) หน่วยละ 4.2218 บาท และหากเกิน 400 หน่วย (หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป) หน่วยละ 4.4217 บาท

ขณะที่ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวด 1/66 (ม.ค.-เม.ย.) ในส่วนของบ้านอยู่อาศัย อยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่าไฟฐาน ทำให้ค่าไฟบ้านเฉลี่ย 4.72 บาทต่อหน่วย โดยรัฐบาลมีเงินอุดหนุนลดพิเศษสำหรับคนใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย แต่งวด 2/66 (พ.ค.-ส.ค.) ยังไม่มีเงินช่วยเหลือพิเศษ และค่าเอฟทีบ้านจะขยับขึ้นเป็น 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย


เรื่องนี้หลายพรรคการเมืองนำมาหาเสียงว่าหากได้รับเลือกตั้งจะรื้อโครงสร้างค่าไฟ โดยเฉพาะส่วนที่รับซื้อจากเอกชน แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาค่าไฟแพงสะท้อนค่าเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงนั่นเอง

นายเอกวรพันธุ์ เจริญวิไลสุข นายกสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทย กล่าวว่า ในส่วนยอดขายเครื่องปรับอากาศยอมรับว่ามีการสอบถามติดตั้งเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่ดีเท่ากับช่วงการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการติดตั้งรับทั้งการทำงานอยู่บ้าน และการติดตั้งห้องปลอดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม ช่วงหน้าร้อนมีผู้ต้องการล้างแอร์เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าไฟ ทำให้ในขณะนี้มีการต่อคิวล้างแอร์กันยาวนานถึง 2 สัปดาห์ จากเดิมประมาณ 3-4 วัน


ส่วนการใช้แอร์หน้าร้อน ยอมรับว่าหากเทียบเวลาการเปิดแอร์ในอุณหภูมิปกติแล้ว ค่าไฟฟ้าจะจ่ายแพงมากกว่า เพราะการระบายความร้อนหรือบีทียูที่ระบายออกมากในอุณหภูมิภายนอกที่สูงกว่า ระบายได้น้อยลง เช่น หากภายนอกปกติ 34 องศาเซลเซียส แล้วเพิ่มเป็น 40 องศาเซลเซียส ความเย็นในห้องจะน้อยลง คนส่วนใหญ่จะลดอุณหภูมิจะยิ่งจ่ายค่าไฟแพงขึ้น ขอแนะนำให้เปิดแอร์อุณหภูมิที่เหมาะสมและเย็นได้ คือประมาณ 27 องศาฯ แล้วเปิดพัดลมควบคู่จะทำให้เย็นเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าจะจ่ายน้อยลงได้ราวร้อยละ 10-30 ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของที่อยู่อาศัยนั้นๆ

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) กล่าวว่า การเปิดแอร์หน้าร้อน คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้นก็จะกินไฟมากขึ้น ขอแนะนำให้เปิดแอร์ควบคู่เปิดพัดลม และร่วมประหยัดพลังงานด้วยเทคนิคปิด (ปิดไฟที่ไม่จำเป็น) ปรับ (ปรับแอร์ในอุณหภูมิเหมาะสม) ปลด (ปลดปลั๊กที่ไม่ใช้) เปลี่ยน (เปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน) จะสามารถประหยัดค่าไฟลงได้

ส่วนค่าไฟฟ้างวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.66) ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าภาครัฐจะใช้เงินส่วนใดมาอุดหนุนค่าไฟสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินราว 8,000 ล้านบาท หากยังไม่มีการช่วยจะทำให้ค่าไฟฟ้าบ้านเฉลี่ยขยับขึ้น 5 สตางค์ต่อหน่วย ส่วนที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทำหนังสือถึงสำนักงาน กกพ. แจ้งเพียงว่าเป็นกรณีศึกษาที่จะยืดระยะเวลาคืนหนี้ที่รับภาระต้นทุนค่าไฟแทนประชาชนไปก่อน 1.5 แสนล้านบาท จาก 2 ปี เป็น 2 ปี 4 เดือน (โดยวงเงินค้างชำระอยู่อีกราว 1.3 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นการยื่นภายหลังการประกาศขึ้นค่าไฟฟ้าเอฟทีงวด 2/66 ไปแล้ว จึงไม่สามารถทบทวนค่าเอฟทีได้ แต่หาก กฟผ. ยื่นหนังสือมาใหม่ว่ายืนยัน พร้อมจะขยายเวลาการคืนหนี้เป็น 2 ปี 4 เดือน ทาง กกพ. ก็พร้อมจะพิจารณาทบทวนค่าไฟฟ้าเอฟทีงวด 2/66 ซึ่งตามที่ กฟผ. คำนวณจะสามารถลดค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลงได้ 7 สตางค์ จาก 4.77 บาท เหลือ 4.70 บาทต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม ทราบว่ากระทรวงการคลังมีความเป็นห่วงเรื่องหนี้ กฟผ. เพราะมีผลกระทบต่อวินัยการเงินการคลัง

“ค่าไฟฟ้างวดถัดไป (ก.ย.-ธ.ค.66) ค่าไฟฟ้าจะลดลงอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นก๊าซในอ่าวไทย แหล่งเอราวัณจะขึ้นมาตามแผนหรือไม่ เพื่อลดการพึ่งพาก๊าซแอลเอ็นจี รวมไปถึงต้องดูราคาแอลเอ็นจีปลายปีที่ปกติราคาแพงขึ้น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก รวมถึงหนี้สินที่ติดค้าง กฟผ. ซึ่งภาพรวมแล้วคงยังบอกไม่ได้ว่าแม้แอลเอ็นจีราคาจะลดลงในขณะนี้ แล้วจะทำให้ค่าไฟฟ้างวดถัดไปลดลง” นายคมกฤช กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังานแจ้งว่า ขณะนี้กระทรวงกำลังติดตามสถานการณ์การผลิตก๊าซแหล่งเอราวัณว่า บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) จะสามารถเพิ่มกำลังผลิตตามแผนหรือไม่ ล่าสุดในขณะนี้ประเมินอาจล่าช้ากว่าแผนลงอีก 2-3 เดือน จากเดิมจะทยอยนำก๊าซขึ้นมาใช้เดือน ก.ค.66 ในปริมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน, เดือน ธ.ค. 66 เพิ่มเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเดือน มิ.ย. 67 จะเพิ่มเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก