กรุงเทพฯ 7 เม.ย.-ร้อนจัด คนไทยเปิดแอร์ดับร้อนไฟฟ้าพีคอีกค่ำ 6 เม.ย. เตือนบิลค่าไฟฟ้าพุ่งตามอัตราค่าไฟก้าวหน้า
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรายงายสถิติการใช้ไฟฟ้าในระบบ 3 การไฟฟ้าพบว่า วานนี้ 6เม.ย. เกิดความต้องใช้สูงสุด (พีค) ในปีนี้เมื่อเวลา 20:52 น. ด้วยอุณหภูมิ 31.2 องศาเซลเซียส ซึ่งการใช้ไฟฟ้าที่พีคเกิดเกิดจากอากาศร้อนจัดคนไทยเปิดแอร์คลายร้อน อย่างไรก็ตามยังไม่ทำลายสถิติพีคในระบบของประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2565 เวลา 22.36 น. ที่เกิดขึ้น 32,254.5 เมกะวัตต์ ที่ 32.0 องศาเซลเซียส
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คาดพีคในระบบ 3 การไฟฟ้าปีนี้ จะนิวไฮไม่ต่ำกว่า 3.4 หมื่นเมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามหากรวมกับไฟฟ้าของเอกชนที่ผลิตเพื่อใช้เอง (ไอพีเอส) อีก 5 พันเมกะวัตต์แล้ว ความต้องการไฟฟ้าของประเทศอาจสูงถึง 3.9 หมื่นเมกะวัตต์ในปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงสร้างค่าไฟฟ้าของไทยเป็นอัตราก้าวหน้ายิ่งใช้ไฟฟ้ามากคลายร้อนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยก็จะเพิ่มขึ้น โดยหากมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือนจะมีอัตราการคิดค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้าดังนี้ 150 หน่วยแรก (หน่วยที่ 1-150) หน่วยละ 3.2484 บาท 250 หน่วยถัดไป (หน่วยที่ 151-400) หน่วยละ 4.2218 บาท หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป ราคาหน่วยละ 4.4217 บาท (อย่างไรก็ตาม ครม.ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน300หน่วยต่อเดือนตั้งแต่ม.ค.-เม.ย 66ส่วนเดือนถัดไป รอครม. จะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่)
นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวงกล่าวว่า MEA แนะนำการประหยัดไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศ มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้น เป็นเหตุให้เสียค่าไฟมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย คือการหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี โดยยึดหลัก “ปิด – ปรับ – ปลด – เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมควบคู่ จะเป็นการช่วยให้ประหยัดพลังงาน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็น ตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) และควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมทั้งติดตั้งสายดิน พร้อมเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
ในช่วงนี้ที่มีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อน มีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงนั้น MEA ขอแนะนำให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากพายุ รวมถึงป้ายโฆษณากลางแจ้ง ควรมีการตรวจสอบโครงสร้างป้ายให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรงมั่นคงปลอดภัย และตรวจสอบระยะห่างของป้ายโฆษณากับสายไฟฟ้าให้มากขึ้น เพราะอาจส่งผลกระทบกับระบบไฟฟ้าอาจทำให้ไฟฟ้าดับ และขอให้ประชาชนอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงใกล้แนวสายไฟฟ้า เพราะกิ่งไม้อาจหักโค่นจากลมกระโชกแรงและพาดลงมาทำให้เสาไฟฟ้าล้ม หรือสายไฟฟ้าขาด เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งขอแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าหากชำรุดเร่งซ่อมแซมแก้ไข และสำรวจต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านของตนเอง ให้กิ่งไม้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่ระสายไฟฟ้าเพราะอาจทำให้ไฟฟ้าดับ รวมไปถึงอาจจะทำให้มีกระแสไฟฟ้ารั่วมาตามกิ่งไม้ที่เปียกน้ำจากฝนฟ้าคะนองได้.-สำนักข่าวไทย