กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – นายกฯ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ฮ.ศ.1444 อวยพรให้พี่น้องชาวมุสลิมมีจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง ดำรงตนเป็นคนดีของสังคม มีความอารีต่อสาธารณะ เป็นกำลังสำคัญสรรค์สร้างให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (28 มีนาคม 2566) เวลา 19.20 น. ณ โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพฯ ถนนรามคำแหง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1444 โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอรุณ บุญชม ประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี เป็นผู้แทนจุฬาราชมนตรี เอกอัครราชทูตประเทศมุสลิมประจำประเทศไทย คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และตัวแทนมุสลิม เข้าร่วมงาน
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง นายชาติชาย บัลบาห์ อัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงละศีลอดรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1444 ในวันนี้ ซึ่งเป็นห้วงเวลาสำคัญทางศาสนาอิสลาม ที่พี่น้องชาวมุสลิมทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศและต่างประเทศ จะได้ร่วมกันปฏิบัติศาสนกิจอันประเสริฐยิ่งอย่างสมบูรณ์ตามหลักศาสนาที่ได้บัญญัติไว้อีกครั้ง ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง ด้วยการถือศีลอดด้วยจิตใจที่มั่นคง แน่วแน่ และอดทน อันเป็นการส่งพลังแห่งศรัทธาต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และยังเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องชาวมุสลิมจะได้น้อมจิตรำลึกถึงพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมาให้ เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำรงตนให้เป็นผู้ที่อยู่ในกรอบแห่งความดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นำมาซึ่งความรัก ความสามัคคี และความสุขต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ รวมถึงการจัดงานเลี้ยงละศีลอดในวันนี้ เป็นวาระโอกาสแห่งความสิริมงคลในการเริ่มต้นเดือนรอมฎอน
นายกรัฐมนตรี กล่าวขออวยพรให้พี่น้องชาวมุสลิมได้ปฏิบัติศาสนกิจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ขอให้บรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งมั่นไว้ และขออานุภาพแห่งองค์อัลลอฮ์ที่พี่น้องมุสลิมทุกคนนับถือ ได้โปรดประทานพรอันประเสริฐ ความสุขสวัสดีปลอดภัย และความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งอวยพรให้พี่น้องชาวมุสลิมมีจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง ดำรงตนเป็นคนดีของสังคม มีความอารีต่อสาธารณะ และเป็นกำลังสำคัญในการสรรค์สร้างให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ ประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี กล่าวขอบคุณว่า ท่านจุฬาราชมนตรีได้นำความขอบคุณและความปรารถนาดีมายังรัฐบาลที่จัดงานนี้ให้กับชาวมุสลิมในประเทศไทย ถือว่าเป็นช่วงเวลาอันประเสริฐที่ชาวมุสลิมทั่วโลกถือศีลอดเดือนรอมฎอน เป็นการทดสอบความศรัทธาอันแรงกล้าต่อองค์ท่านนบีมูฮัมมัด ซึ่งเป็นศาสดาของศาสนาอิสลาม ที่ประทานพระบัญญัติแก่มวลมนุษย์ เพื่อฝึกฝนให้มวลมนุษย์รู้จักความอดกลั้นอดทน มีจิตใจหนักแน่น และไม่ท้อถอยอย่างง่ายดายต่อความยากลำบาก มีสติ รู้จักยับยั้งชั่งใจ มีความรับผิดชอบ และอดทนต่ออุปสรรค เป็นเดือนแห่งการประทานมหาคัมภีร์พระอัลกุรอานถูกประทานลงมาให้แก่องอาจ เพื่อเผยแผ่เป็นการนำทางคุณธรรมชีวิตแก่มนุษยชาติด้วย อีกทั้งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตลักษณ์ มีความเป็นพหุสังคมที่โดดเด่นและหล่อหลอมเข้าด้วยกัน และในฐานะที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแสดงความห่วงใยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ซึ่งทุกคนต้องรู้รักสามัคคี มีไมตรีจิตที่ดี มีความเกื้อกูล พยายามเรียนรู้และสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้สังคมไทยมีความร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป. – สำนักข่าวไทย