สำนักงาน ป.ป.ช. 13 มี.ค.-“ชูวิทย์” ร้อง ป.ป.ช.สอบทุจริต 4 เรื่อง ประกาศจะตามทำลายพรรคภูมิใจไทย พร้อมแบล็กเมล์ “เศรษฐา” ถ้าเป็นนักการเมืองไร้อุดมการณ์
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยภายหลังยื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งช่าติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบกรณีทุจริต 4 เรื่อง คือ 1. กรณีนายศักดิ์สยาม ให้นอมินีถือหุ้นในบริษัท บุรีเจริญฯ เพื่อไปรับงานในกระทรวงคมนาคม รวม 40 โครงการ ในช่วงปี 2563-2565 แล้วนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย 2. ตรวจสอบนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ของผู้บุกรุกที่ดิน รฟท. ทั้งที่ ป.ป.ช. เคยมีหนังสือเมื่อปี 2554 ให้เพิกถอนที่ดินของตระกูลชิดชอบ ที่บุกรุกที่ของ รฟท. แต่ปัจจุบันผ่านมา 13 ปี ยังไม่มีการดำเนินการ โดย รฟท.อ้างว่าเป็นที่ดินที่มีโฉนด ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่ติดกับที่ดินตระกูลชิดชอบ กลับถูก รฟท.ยื่นฟ้องเพิกถอนที่ดินไปหมดแล้ว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า 3. ตรวจสอบนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. กรณีขาดคุณสมบัติ เนื่องจากก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งอธิบดีหรือเทียบเท่าไม่ถึง 5 ปี และกรณีใช้อำนาจครอบงำสั่งการช่วยเหลือผู้กระทำผิด ในการเป็นคณะอนุกรรมการไต่สวนคดี GT200 และ Alpha 6 กรณีไม่ชี้มูลความผิดนายกฤษฎา บุญราช อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจพัสดุรุ่น GT200 และ Alpha 6 รวมทั้งข้อครหาปล่อยให้มีการวิ่งเต้นรับเคลียร์คดีต่าง ๆ โดยมีที่ปรึกษาหน้าห้องชื่อย่อ ธ. คอยรับวิ่งเคลียร์คดี ทำตัวเป็นคัตเอาต์ ถ้า ป.ป.ช.เคลียร์ได้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วเรื่องการปราบทุจริต และ 4. ตรวจสอบเลขาธิการ ส.ป.ก. กรณีปล่อยปละละเลยให้พนักงานบริษัท ช.การช่าง ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จำนวน 68 ไร่ ทั้งที่ไม่ใช่ผู้ยากไร้
นายชูวิทย์ กล่าวว่า การยื่นตรวจสอบในครั้งนี้ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ต้องการให้ทรัพย์สมบัติกลับมาเป็นของประชาชน และขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้นำธนบัตรกงเต็ก และกระดาษเงินกระดาษทอง ที่ระบุว่า นายศักดิ์สยามชอบเงิน หาเงินทอนจากโครงการต่าง ๆ รวมทั้งโฉนดที่ดินเขากระโดง เผาไปให้ เพื่อนำไปใช้ในปรโลก
“จะตามทำลายพรรคภูมิใจไทย และจะไปจังหวัดบุรีรัมย์ จะไปเคาะประตูบ้านนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม เพราะไม่ใช่บ้านของนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม แต่เป็นที่สาธารณะที่ รฟท. และหลังจากยุบสภาในวันที่ 20 มีนาคม จะยื่นให้ กกต.ตรวจสอบเพื่อยุบพรรคภูมิใจไทย กรณีนอมินีที่ถือหุ้นในบริษัท บุรีเจริญ แทนนายศักดิ์สยาม นำเงินที่ได้จากโครงการของกระทรวงคมนาคมไปบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือเป็นเงินที่ไม่ชอบ เมื่อพรรคนำไปใช้ก็ต้องถูกยุบ และจะบอกให้ กกต.พิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน และทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 เพราะถ้ายุบหลังการเลือกตั้ง บุคคลเหล่านี้ได้เป็น ส.ส. ก็จะเปล่าประโยชน์ เพราะสามารถย้ายพรรคได้” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังจับจ้องนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่มีเบื้องหลังเรื่องสำคัญ ซึ่งมีหลักฐานไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่ขอนำมาเปิดเผย ขอดูพฤติกรรมนายเศรษฐาก่อน หากจะเรียกว่าตนแบล็กเมล์ก็ว่าได้ จะดูว่านายเศรษฐามีความตั้งใจจริงในความเป็นนักการเมืองแค่ไหน ถ้าดูแล้วไม่เข้าท่า เป็นนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ จะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ทั้งนี้ เห็นว่าผู้ที่เคยเป็นนายหน้าที่ดินอย่างนายเศรษฐา นายศักดิ์สยาม นายอนุทิน ไม่ควรจะมาดูแลกระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แต่ควรอยู่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อปรับปรุงตัว.-สำนักข่าวไทย