ตำรวจจี้ 3 เพื่อนชาย สาวไต้หวัน ให้ปากคำ

กทม. 29 ม.ค.-ตำรวจเร่งหา 3 เพื่อนชาย สาวไต้หวัน ให้ปากคำ คลี่ปมตำรวจตั้งด่านรีดไถ่เงิน 27,000 บาท ทำประเทศไทยเสียชื่อเสียง เผยหากไม่มาพบ จะส่งตำรวจไทยไปบันทึกปากคำถึงไต้หวัน

จากกรณี “อันหยู๋ชิง” ดาราสาวไต้หวัน ที่อ้างว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงิน 27,000 บาท หลังมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดมีการเช็กกล้องวงจรปิดพบขัดแย้งกับที่เธอโพสต์ก่อนหน้านี้ว่า ถูกตำรวจยื้อ 2 ชั่วโมง โดยจากวงจรปิดพบว่า เธออยู่ที่ด่านใช้เวลาประมาณ 47 นาที ขณะที่วงจรปิดในโรงแรมที่เธอพักก็พบในมือของเธอกำลังถืออุปกรณ์คล้ายบุหรี่ไฟฟ้า


วันนี้เวลา 15.00 ที่ บช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนนครบาล พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และตำรวจห้วยขวาง เพื่อเร่งคลี่คลายกรณีดังกล่าว

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนนครบาล เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุม ว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการมายังศูนย์สืบสวนตำรวจนครบาลเข้ามาร่วมคลี่คลายกรณีดังกล่าว หลังผ่านไปแล้วกว่า 25 วัน แต่ยังไม่มีความชัดเจน โดยสิ่งแรกที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) คือการประสานไปยังตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดต่อประสานไปยัง นางสาวอันยู่ชิง สาวไต้หวัน พร้อมเพื่อนรวม 4 คน เพื่อให้ปากคำอย่างเป็นทางการ และให้ชี้ชัดไปเลยว่า ในวันเกิดเหตุ ตำรวจนายใดเป็นผู้เรียกรับผลประโยชน์ หากไม่สะดวก จะมีการส่งตำรวจไทยไปบันทึกคำให้การถึงที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนมากยิ่งขึ้น


ขณะที่เรื่องของการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้นจากกล้องที่ตำรวจได้มามีเพียงภาพวงจรปิดระยะไกล ซึ่งไม่สามารถชี้ชัดถึงตัวบุคคล หรือเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้อย่างชัดเจนว่าตำรวจมีการรีดไถเงินจริงหรือไม่

ส่วนเพื่อนชายทั้ง 3 คน ที่เดินทางมาด้วยในวันเกิดเหตุ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทั้งหมดเป็นใคร หรือยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งก็อยากจะประชาสัมพันธ์ไปยังทั้ง 3 คน ให้ช่วยมาให้ปากคำกับตำรวจด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบ เบื้องต้นเชื่อว่าชาย 1 ใน 3 คนที่เดินทางมากับสาวชาวไต้หวันนั้น น่าจะเป็นไกด์นำเที่ยว

เมื่อสอบถามถึงประเด็นของบุหรี่ไฟฟ้า ว่า ดาราสาวไต้หวัน ที่ถูกตำรวจเรียกตรวจในวันเกิดเหตุ เป็นความผิดจริงหรือไม่ ทำไมตำรวจถึงต้องตรวจ ซึ่งฝั่งดาราสาวไต้หวันอ้างว่า ตำรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า และรีดไถ่เงิน จำนวน 27,000 บาท พล.ต.ต.ธีรเดช ไม่ได้ตอบประเด็นนี้


ประเด็นที่สาวไต้หวังอ้างว่าตำรวจยัดบุหรี่ไฟฟ้า และเธอยืนยันว่าไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุดมีเพจ ดาวแปดแฉก ได้ออกมาโพสต์ไทม์ไลน์ของเธอที่มีบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในมือ ช่วงวันที่ 4-5 มกราคม ขณะที่ใช้ลิฟต์ที่พักย่านห้วยขวาง โดยภาพแรก เวลา 15.59 น. ของวันที่ 4 มกราคม สาวไต้หวันถือบุหรี่ไฟฟ้าที่มือข้างซ้าย จากนั้นเวลา 16.02 น. เธอไปยืนสูบบุหรี่ไฟฟ้าหน้าที่พัก และเวลา 22.37 น. เธอกลับมาที่ห้องพัก และ เวลา 23.45 น. เธอเปลี่ยนชุดและออกจากห้องพัก และที่มือข้างซ้ายยังถือของลักษณะคล้ายบุหรี่ไฟฟ้า และมือข้างขวาถือโทรศัพท์ จากนั้นเวลา 03.12 น. ก็มีภาพเธอปรากฎว่าถือบุหรี่ไฟฟ้าโดยอ้างว่าตำรวจเป็นคนยัดใส่มือเธอ

ด้าน พล.ต.ต.ธิติ บอกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วย ซึ่งได้สั่งการให้ไปหาข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด ก่อนจะนำมารวบรวม และดูว่าข้อมูลที่ได้มามีความสัมพันธ์กันอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ข้อมูลที่ได้จะสามารถตอบข้อสงสัยของสังคมได้ทั้งหมดหรือไม่ ผบช.น. ตอบว่า “ตอบได้ในส่วนที่ตอบได้”

เวลา 17.20 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ร่วมกันแถลงผลประชุมติดตามความคืบหน้า กรณีสาวไต้หวันว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 คน เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่ามีการเรียกรับเงินตามถูกกล่าวอ้าง

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบวัตถุพยานอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด ทั้งกล้องวงจรตามจุดต่างๆ เช่น กล้องหน้ารถของคนชับแกรป กล้องคอมแบทคาเมรา ที่ติดตัวของตำรวจ ทั้งหมดถูกส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานแล้วเบื้องต้นยืนยันแล้วว่า กล้องหน้ารถของคนขับแกรป ไม่สามารถกู้ไฟล์ภาพวิดีโอได้ถึงวันที่เกิดเหตุ เนื่องจากระยะเวลาผ่านเลยมานานกว่า 20 วัน ส่วนภาพวงจรปิดบริเวณหน้าสถานทูตจีน ตรวจสอบพบเป็นภาพจริง ไม่มีการตัดต่อ และสาวไต้หวันกับเพื่อนที่ด่าน 47 นาที ไม่ปรากฏว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ และรอผลตรวจสอบส่วนอื่นๆ เช่น ภาพคอมแบทคาเมร่าของเจ้าหน้าที่ ประมาณ 1 สัปดาห์ จะทราบผลว่า สามารถกู้ภาพได้หรือไม่

นอกจากนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับตำรวจที่ปฎิบัตืหน้าที่ในวันดังกล่าว และการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย กลับไม่ดำเนินคดี แต่ความเป็นจริงนั้น สามารถดำเนินคดีได้ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ยืนยันว่าไม่มีใครยื่นบุหรี่ไฟฟ้าให้สาวชาวไต้หวันตามที่กล่าวอ้าง

ในส่วนของเพื่อนชายทั้งสามคน ที่มาด้วยกันในวันเหตุขณะนี้พบว่าทั้งสามคน เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 และวันที่ 9 มกราคม โดยเดินทางตามสาวชาวไต้หวันคนดังกล่าว ซึ่งปลายทางไม่ใช่ที่เดียวกัน

ขั้นตอนหลังจากนี้ จะให้กองบังคับการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประสานไปยังสำนักงานเศรษฐกิจและการไต้หวัน เพื่อให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันเข้าไปสอบปากคำหญิงสาวคนดังกล่าว ทั้งนี้หากตำรวจไต้หวันต้องการให้ตำรวจไทยร่วมสอบปากคำด้วย ก็พร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบทันที

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทบถึงความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงต้องการให้สาวชาวไต้หวันพยานเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับตำรวจเพื่อให้กระจ่างมากขึ้น

และขอให้สังคมออนไลน์ติดตามข้อมูลต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้ปกป้องหรือทำลายพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกล่าว ทั้งนี้หากพบว่ามีการรีดทรัพย์สาวชาวไต้หวันจริงก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้นทางวินัยและอาญา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท