1 ม.ค. – ชาติเอเชีย แปซิฟิก และยุโรป เฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2023 จัดงานเคาท์ดาวน์ คึกคักที่สุดในรอบ 2 ปี หลังการระบาดของโควิด-19
นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย เป็นเมืองใหญ่แห่งแรก ๆ ของโลกที่ได้ต้อนรับปีใหม่ 2023 เฉลิมฉลองด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟสุดตระการตาจากสะพานฮาร์เบอร์ บริดจ์ และซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ อันโด่งดังเหมือนทุกปี ใช้ดอกไม้ไฟกว่า 9,000 ดอก
ไต้หวัน เริ่มแสดงดอกไม้ไฟสีสันสวยงามต้อนรับปีใหม่ จากอาคารระฟ้าไทเป 101 ขณะที่เข็มนาฬิกาเดินไปถึงเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม นอกจากการแสดงดอกไม้ไฟแล้ว ยังมีการยิงแสงเลเซอร์ ทั้งสี่ด้านของอาคารเป็นเวลา 5 นาที เป็นการฉลองเข้าสู่ศักราชใหม่ของไต้หวันแบบเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบ 2 ปี ตั้งแต่ การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก
ฮ่องกง ต้อนรับปีใหม่ด้วยการแสดงแสงสีแบบมัลติมีเดีย เหนืออ่าววิกตอเรีย ในกิจกรรมนับถอยหลังที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ซึ่งกลับมาจัดอีกครั้งเพียง 3 วัน หลังจากที่มีการยกเลิกข้อจำกัดในการรวมกลุ่ม การฉลองเคาท์ดาวน์ปีใหม่นาน 25 นาที เริ่มต้นขึ้นในเวลา 23.45 น. ของคืนวันเสาร์ และนาฬิกาเริ่มนับเวลาถอยหลัง 30 วินาทีสุดท้ายของปี 2022 มีการแสดงมัลติมีเดียที่ประสานแสงและเสียง ทำให้ท้องฟ้าและท่าเรือสว่างไสวด้วยแสงเลเซอร์และลำแสงที่พุ่งออกจากหลังคาของอาคารสูงมากมายบนเกาะฮ่องกง และในเกาลูน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของปี 2023
ที่ญี่ปุ่น ผู้คนไปรวมตัวยังศาลเจ้าเมจิ จิงกู ในกรุงโตเกียวกันหนาแน่น ตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงคืน เพื่อสวดขอพรให้ชีวิตพบเจอแต่สิ่งที่ดี และมีความสุขในปีใหม่ 2023 หลายคนโปรยเงินข้ามเขตรั้วกั้นเข้าไปในศาลเจ้า ตามธรรมเนียม บางคนนอกจากขอพรให้ตัวเองแล้ว ยังวิงวอนขอให้ญี่ปุ่นผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงยังขอให้เอเชียมีแต่ความสงบสุข เลิกการเผชิญหน้าทางทหารที่กำลังก่อให้เกิดความขัดแย้งกันเสียที
ส่วนที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี ซึ่งเป็นศูนย์การท่องเที่ยวในตะวันออกกลาง จัดกิจกรรม นับถอยหลังเข้าสู่ปี 2023 ด้วยการจุดพลุ และการแสดง แสงเลเซอร์อย่างยิ่งใหญ่ ที่ตึกเบิร์จคาลิฟา ในนครดูไบ ที่มีความสูง 828 เมตร และเป็นตึกที่มีความสูงมากที่สุดในโลก มีคนมาดูการจุดพลุยามค่ำคืนนับหมื่นคน
ฝั่งยุโรป ที่กรุงปารีส ชาวฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวต่างชาตินับล้านคน ร่วมงานเคาท์ดาวน์คืนส่งท้ายปีต้อนรับปีใหม่ 2023 ที่บริเวณถนนฌ็องเซลิเซและประตูชัย ปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากเว้นการจัดงานมา 2 ปี เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ไฮไลต์เป็นการแสดงพลุดอกไม้ไฟอย่างยิ่งใหญ่ ผู้เข้าร่วมงานต่างปรารถนาให้ปีใหม่นี้เต็มไปด้วยสันติภาพ ความสุข และความสำเร็จ
ที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ จัดกิจกรรมนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ และจุดพลุดอกไม้ไฟยิ่งใหญ่บริเวณชิงช้าสวรรค์ยักษ์ หรือลอนดอน อาย มีผู้คนนับแสนมารวมตัวกันเพื่อชมการแสดงพลุประกอบดนตรี และเสียงสีเสียงความยาว 12 ชั่วโมง ที่ว่ากันว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป งานนี้ยังจัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของทีมฟุตบอลหญิงอังกฤษที่คว้าแชมป์ยุโรปมาครองในปีที่แล้ว และร่วมรำลึกถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ด้วย
ปิดท้ายที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงส่งสารปีใหม่ที่ออกอากาศผ่านโทรทัศน์ทั่วประเทศ ก่อนเข้าสู่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม หรือวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในแต่ละเขตเวลาของรัสเซียที่มีทั้งหมด 11 เขตเวลา ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า ปี 2565 เป็นปีแห่งความยากลำบาก และเป็นปีแห่งการตัดสินใจครั้งสำคัญ และมีความจำเป็นต้องตัดสินใจ ขอให้ชาวรัสเซียให้การสนับสนุนทหารที่ต่อสู้ในปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเพื่อมาตุภูมิ ความจริง และความยุติธรรม เพื่อว่าความมั่นคงของรัสเซียจะได้รับการรับประกัน พร้อมประกาศให้คำมั่นเพื่อชัยชนะเหนือกลุ่มนาซีใหม่ในยูเครน และกลุ่มประเทศตะวันตกที่มุ่งทำลายรัสเซีย. – สำนักข่าวไทย