fbpx

เหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พบกำลังพลเสียชีวิตแล้ว 6 นาย

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – ผบ.ทร. ยืนยันกองทัพเรือมีระเบียบตรวจสอบเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ย้ำจะไม่ปกปิดการสอบสวน พร้อมเร่งติดตามกำลังพลกลับบ้าน วันนี้พบเพิ่ม 7 นาย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 6 นาย


พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอกชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ แถลงความคืบหน้าเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ยืนยันหลังเรืออับปางทางกองทัพเร่งดำเนินการค้นหากำลังพลมาโดยตลอด หลังเกิดเหตุการณ์ ในวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่เรือหลวงสุโขทัย ออกปฏิบัติการตามภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล แต่มาเจอกับช่วงมรสุมรุนแรง ทะเลมีคลื่นสูง 3 – 4 เมตร

เริ่มจากน้ำปริมาณมากเข้าเรือทางหัวเรือ ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้า แม้ลูกเรือพยายามสูบน้ำออก แต่ไม่ทันกับปริมาณน้ำจำนวนมาก ที่ทะลักเข้ามา โดยสาเหตุที่ไม่เร่งนำกำลังพลออกจากเรือแม้เรือมีสภาพเอียง 60 องศา สภาพเรือคงที่ ประกอบกับมีเรือหลวงกระบุรี มาให้ความช่วยเหลือ และมั่นใจว่าจะสามารถลางจูงเรือหลวงสุโขทัยได้ สุดท้ายเรือเริ่มเอียงมากขึ้น และจมจากด้านท้ายลงไป


กำลังพลจึงปลดแพชูชีพให้กับผู้ที่ไม่มีเสื้อชูชีพ เพื่อว่ายไปยังเรือหลวงกระบุรี ช่วยกำลังพลที่ลอยกระจัดกระจาย บางส่วนเรือสินค้าช่วยกำลังพลไว้ได้ 75 คน สูญหาย 30 คน ล่าสุดพบอีก 6 นาย เหลือต้องค้นหา 24 นาย

ผู้บังคับบัญชาทหารเรือ ยืนยันมีการรายงานถึงเหตุการณ์และแผนการช่วยเหลือตามระเบียบถึงผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้น โดยจะมีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นให้กองทัพภาคที่ 1 รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความสูญเสีย รวมทั้งข้อเท็จจริงหลังมีการระบุว่า เสื้อชูชีพไม่พอด้วย แม้ยอมรับว่าเสื้อชูชีพไม่พอต่อจำนวนกำลังพล แต่จากการช่วยเหลือก็พบว่า ผู้ไม่มีเสื้อชูชีพมีโอกาสรอดชีวิต เนื่องจากกำลังพลได้รับการฝึกวิธีการเอาตัวรอด โดยยืนยันว่ากองทัพเรือจะไม่ปกปิด การสอบสวนจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และปัจจุบันมีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ญาติผู้เสียหายไปสอบถามและเฝ้าติดตามการค้นหากำลังพลที่สูญหาย และตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ในการค้นหาเพื่อนำกำลังพลทุกนายกลับบ้าน

การค้นหาเริ่มจากจุดเรือจม ดูทิศทางกระแสน้ำ และกระแสลม เพื่อนำทางให้เรือรบ และการค้นหาทางอากาศยาน ซึ่งการค้นหาในช่วงกลางวัน ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุด จนทำให้ช่วงเวลา 15.00 น. วันนี้ พบกำลังพล 6 นาย ห่างจุดเรืออับปาง 60 กิโลเมตร หรือ 30 ไมล์ทะเล จากนี้จะประมาณการจากเวลา กระแสลมและน้ำ ว่าจะลอยไปในทิศทางไหน เบื้องต้นเน้นไปทางใต้และชายฝั่ง ขณะนี้ยังไม่พบ 24 นาย จากลูกเรือทั้งหมด 105 นาย การที่คลื่นลมสงบเป็นผลดีที่จะเร่งค้นหา และการพบกำลังพลบางส่วนยังมีชีวิตหลังเกิดเหตุไปแล้ว 41 ชั่วโมง ทำให้มีความหวังในการค้นหา


เมื่อเวลา 18.30 น. มีรายงานงานว่า พบกำลังพลในวันนี้ (18 ธ.ค.) จำนวน 7 นาย เสียชีวิต 6 นาย รอดชีวิต 1 นาย คือ พลทหารชนัญญู แก่นศรียา สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด