รดน้ำศพ “ร.ต.อ.สุทธิรักษ์” เสียชีวิตจากเหตุระเบิดแฟลต ตร. ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น

นราธิวาส 24 พ.ย. – ผู้บัญชาการระดับสูง ตำรวจ ทหาร ประชาชน ร่วมรดน้ำศพ “ร.ต.อ.สุทธิรักษ์” เสียชีวิตจากเหตุระเบิดแฟลตตำรวจ ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น เลื่อนยศเป็น พล.ต.อ. ขณะที่มีเบาะแสว่าระเบิดประกอบโดยกลุ่มแกนนำใน อ.ตากใบ


เหตุระเบิดแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ทำให้ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ อายุ 52 ปี รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม ปฏิบัติงานจราจรและความมั่นคง สภ.เมืองนราธิวาส เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ 45 คน

แหล่งข่าวความมั่นคงทางทหารซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงนายหนึ่ง เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนและการข่าวระบุว่าระเบิดประกอบมาจากพื้นที่ อ.ตากใบ โดยกลุ่มนายซากีมัน กูบารู ซึ่งเป็นแกนนำสั่งการและครูสอนประกอบระเบิด ปฏิบัติการรับผิดชอบพื้นที่ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก อ.เมืองนราธิวาส พร้อมสมุนไม่ต่ำกว่า 4 คน มีส่วนรู้เห็นและร่วมแผนการก่อเหตุระเบิดแฟลตตำรวจในครั้งนี้


ล่าสุดมีการเชิญตัวหญิงสาวอายุ 32 ปี เจ้าของรถ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ที่ถูกตำรวจทางหลวงออกใบสั่งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยให้การว่าซื้อขายโอนลอย ให้หญิงที่นราธิวาส ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวหญิงสาวรายนี้มาสอบสวน

ครอบครัว-ตำรวจร่วมรดน้ำศพ “ร.ต.อ.สุทธิรักษ์”
บรรยากาศที่วัดบางนรา ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด และวางพวงหรีดเคารพศพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ มีผู้บัญชาการระดับสูง ข้าราชการตำรวจ ทหาร และประชาชน ร่วมไว้อาลัยในพิธี

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ ขอเลื่อนเงินเดือนให้ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศเป็น พล.ต.อ. และเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงขึ้นไม่เกิน 2 ชั้นตรา รวมทั้งช่วยเหลือดูแลสิทธิประโยชน์อื่นเป็นกรณีพิเศษ อาทิ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ตำรวจ เงินช่วยพิเศษ 3 เท่าเงินเดือนสุดท้าย เงินบำเหน็จตกทอด เงินบำนาญพิเศษรายเดือนสำหรับทายาท เงินช่วยเหลือทุนการศึกษารายปี เงินยังชีพรายเดือนสำหรับบุตร และอื่นๆ รวมทั้งบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจเป็นกรณีพิเศษ สำหรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นรวมแล้วจำนวน 3,774,760 บาท


ภรรยาร่ำไห้ ยังทำใจไม่ได้
นางเสาวรัตน์ พันธนิยะ ภรรยาของ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุสามียืนอยู่หน้าบ้าน รถคันที่ก่อเหตุขับเข้ามา สามีรู้ว่าเป็นรถต้องสงสัยจึงเข้าไปดู พอรู้ว่าเป็นรถต้องสงสัยมีระเบิดก็ตะโกนบอกทุกคนที่อยู่ในแฟลตว่าเป็นรถต้องสงสัยจะมีระเบิด แล้วก็หันหลังเข้าบ้าน แต่วิ่งเข้าไปในบ้านไม่ทันก็เกิดระเบิดตามหลัง สามีเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ตอนนั้นเหตุการณ์ชุลมุนไปหมด ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร และมีผู้บาดเจ็บหลายคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก