กรุงพนมเปญ 12 พ.ย.- นายกฯ เผยอาเซียนและประเทศคู่เจรจาห่วงสันติภาพในเมียนมาและยูเครน ย้ำไทยพยายามผลักดันให้เกิดการเจรจาและเกิดสันติภาพ หวั่นส่งผลกระทบบานปลาย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ว่า ได้มีการหารือกันถึงการรักษาสันติภาพในภูมิภาค และเห็นพ้องที่จะหาวิธีการที่เหมาะสมในการทำให้สถานการณ์ไม่ลุกลามบานปลาย ด้วยการเจรจาสันติวิธี ซึ่งภูมิภาคนี้ จะเจอกับ 2 สถานการณ์ คือรัสเซียยูเครน ที่ส่งผลกับเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยสำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ตนได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า ประเทศไทยพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้เกิดสันติภาพกลับคืนมาโดยเร็ว เพราะไทยและเมียนมามีชายแดนที่ติดกันเกือบ 3,000 กิโลเมตร ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์อะไรไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าต้องปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ จึงต้องการทำให้เมียนมากลับคืนสู่สันติภาพโดยเร็วที่สุด
“ขณะนี้ยังมีปัญหาอยู่ทั้งสองฝ่าย ทางรัฐบาลเมียนมาและชนกลุ่มน้อย แต่ไทยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกันมายาวนานก็ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม อธิบายทำความเข้าใจร่วมกัน ช่วยกันคิดและช่วยกันทำ เพราะหากปล่อยไว้จะบานปลายเหมือนผลกระทบ กรณีรัสเซียกับยูเครน จึงต้องเน้นความเป็นหนึ่งเดียวกันในวิธีของอาเซียน ยึดฉันทามติโดยใช้การเจรจาเพิ่มเติม โดยนอกจากอาเซียนแล้วยังมีตัวแทนกลุ่มอื่นที่จะสามารถเจรจาได้อีกหรือไม่ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลเมียนมาด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว.- สำนักข่าวไทย