ภูมิภาค 9 พ.ย. – ประชาชนแห่ชมปรากฏการณ์ “จันทรุปราคา” เต็มดวงเหนือท้องฟ้าทั่วไทย ในคืนวันลอยกระทง คึกคักหลายพื้นที่
ประชาชนชาวเชียงใหม่และพ่อค้าแม่ค้าที่เข้าร่วมงานเทศกาลลอยกระทงขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่จัดขึ้นบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หลังศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งช่วงหัวค่ำเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคา ส่วนใหญ่ทราบข่าวและรอชมปรากฏการณ์ดังกล่าวไปด้วย โดยมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนมาก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ชาวบ้านบางคนที่มีความเชื่อมาแต่โบราณ ช่วงที่เกิดจันทรุปราคา หรือ “กบกินเดือน” ใช้ไม้เคาะต้นไม้ โดยเชื่อว่าจะทำให้ต้นไม้ออกผลลูกดก ส่วนแม่ค้าลอตเตอรี่ที่มาขายในงาน สายตาก็มองจันทรุปราคา และใช้มือตบกระเป๋าเงิน เชื่อว่าจะทำให้เงินทองไหลเข้ากระเป๋า มีโชคลาภ นอกจากนั้นยังใช้มือเคาะและลูบบนแผงลอตเตอรี่ เชื่อว่าจะทำให้ขายดีขึ้น ซึ่งระหว่างที่ตบกระเป๋าเงิน เป็นช่วงที่เกิดจันทรุปราคาบางส่วนเกินครึ่งดวงไปแล้ว และค่อยๆ คลาย จนเป็นจันทรุปราคาเว้าแหว่งบางส่วน และหลังเวลา 20.00 น.ไปแล้ว ดวงจันทร์เคลื่อนออกจากเงามัวของโลก จนพระจันทร์กลับมาเต็มดวง สว่างไสวตามปกติ ช่วงเกือบจะ 21.00 น. ซึ่งได้รับความสนใจจากคนเชียงใหม่และชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ขณะที่ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงคืนวันลอยกระทงเหนือท้องฟ้าเมืองพิษณุโลก มีผู้ปกครองพาบุตรหลานออกมาสังเกตการณ์บริเวณนอกบ้านจำนวนมาก แต่การเกิดจันทรุปราคารอบนี้ ในเมืองไทยไม่สามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงที่เงาโลกกำลังเคลื่อนเข้าบดบังดวงจันทร์ เนื่องจากดวงจันทร์ยังไม่พ้นขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันออก กระทั่งเวลาประมาณ 18.41 น. จึงเริ่มสังเกตเห็นได้จากขอบฟ้าทิศตะวันออก พระจันทร์จะออกสีเลือด เป็นช่วงที่เงาโลกบังดวงจันทร์หมดแล้ว จากนั้นเป็นจังหวะที่เงาของโลกเริ่มคลายตัวออกจากดวงจันทร์ ในช่วงเวลาประมาณ 19.00-19.50 น. จะสังเกตเห็นการคลายตัวออกอย่างชัดเจนด้วยตาเปล่าและกล้องจากโทรศัพท์มือถือ และพระจันทร์ก็กลับมาส่องสว่างเต็มดวงอีกครั้งในคืนวันลอยกระทง
ส่วนบรรยากาศปรากฏการณ์จันทรุปราคา หรือราหูอมจันทร์ ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี บรรดาช่างภาพและนักท่องเที่ยวต่างถ่ายรูปเก็บภาพจันทรุปราคากันคึกคัก โดยท้องฟ้าที่พัทยาไม่มีเมฆบัง สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ ดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าขณะอยู่ในช่วงคราสเต็มดวงพอดี หรือก็คือดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวง ทำให้เราเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เวลาประมาณ 17.44-18.41 น. รวมระยะเวลา 57 นาที จากนั้นดวงจันทร์เคลื่อนออกจากเงามืดเข้าสู่เงามัวของโลก เกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วน มองเห็นเป็นดวงจันทร์เว้าแหว่งบางส่วน และเมื่อดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวของโลกทั้งดวง เกิดเป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเงามัว มองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีความสว่างลดลงเล็กน้อย ก่อนสิ้นสุดปรากฏการณ์ในเวลา 20.56 น.
สำหรับบริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนข้าวเม่าริมโขง ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ มีประชาชนที่มาร่วมงานวันลอยกระทง นั่งรอชมปรากฏการณ์จันทรุปราคา หรือ “กบกินเดือน” ภาษาอีสาน หลังจากลอยกระทงเสร็จ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เห็นชัดเต็มตา โผล่ขึ้นมาจากฝั่ง สปป ลาว ในช่วงเวลา 1 ทุ่มกว่าๆ
ส่วนบรรยากาศที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ครั้งสำคัญ โดยทางหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ได้จัดเตรียมกล้องโทรทรรศน์หลายขนาด จำนวน 4 ตัว ไว้ให้บริการประชาชนชมปรากฏการณ์ ซึ่งเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.65) ท้องฟ้าในตัวเมืองนครราชสีมา ปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆบดบัง สามารถมองเห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน สร้างความประทับใจแก่ผู้มาร่วมชม นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ระบายสีรูปภาพโมเดลปรากฏการณ์จันทรุปราคา เพื่อเรียนรู้ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย. – สำนักข่าวไทย