กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 12 ปี ลูกสาวอาม่าฮวย ฐานลักทรัพย์มารดา 24 ล้านบาท โดยไม่รอลงอาญา ส่วนอีกคดีมีทุนทรัพย์ 200 ล้านบาท ชี้ชะตาอีก 2 สัปดาห์
ศาลอาญาพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนางฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 85 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบุตรสาว อายุ 56 ปี เป็นจำเลย กรณีเมื่อปี 2560 ก่อเหตุทยอยถอนเงินสดในบัญชีธนาคารกว่า 24 ล้านบาท และถ่ายโอนทรัพย์สินอื่น ๆ ขณะนางฮวย นอนพักฟื้นรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบที่โรงพยาบาล โดยขอให้ศาลลงโทษเรื่องลักทรัพย์
คดีนี้ศาลขั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้จำคุก 6 กระทง กระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 12 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ด้านนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความนางฮวย กล่าวว่า ศาลให้เหตุผลว่าจำเลยอาศัยความป่วยเจ็บของโจทก์พาไปเบิกเงินธนาคารต่าง ๆ โดยโจทก์ไม่ยินยอม ทั้งการซื้อกองทุน-ประกันชีวิตในนามจำเลย และนำเงินเข้าบัญชีในนามของจำเลยเอง การยักย้ายถ่ายโอนเงินของโจทก์ เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการทุจริต ผิดวิสัยของผู้เป็นบุตรที่พึงกตัญญูรู้คุณมารดา แต่กลับลักเอาเงินของโจทก์ ซึ่งเป็นมารดาไปโดยทุจริต และจำเลยนำเงินบางส่วนไปลงทุนในกิจการรีสอร์ทของจำเลย ตามภาพถ่ายการก่อสร้างที่ตั้งรีสอร์ทและสำเนาโฉนดที่ดิน
นอกจากนี้ พนักงานอัยการเป็นโจทก์ นางฮวย เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องบุตรกับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย ถูกกล่าวหาว่าลักเงินไปจากธนาคารกสิกรไทยกว่า 200 ล้านบาทนั้น ศาลอาญาพระโขนงนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 14 พ.ย. 2565 เวลา 13.30 น.-สำนักข่าวไทย