นครพนม 21 ต.ค. – “โตโน่” พร้อมว่ายน้ำข้ามโขง พรุ่งนี้ (22 ต.ค.) ปลื้มยอดบริจาคช่วยโรงพยาบาลไทย-ลาว เกินคาดทะลุกว่า 7 ล้านบาท คาดถึงวันว่ายน้ำข้ามโขง จะมียอดบริจาคไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
วานนี้ นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ อายุ 36 ปี ลงพื้นที่พบปะหัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงนายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าฯ นครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อยืนยันความพร้อมการจัดกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อการกุศล รับบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว นำค่าใช้จ่ายไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลน
โดยมีทีมออแกไนซ์ดูแลความพร้อมทุกด้าน ในการจัดกิจกรรม และดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ส่วนทางหน่วยงานภาครัฐเอกชนในพื้นที่ จ.นครพนม มีเพียงการสนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรม ที่ไม่มีการใช้งบประมาณของภาครัฐบแต่อย่างใด โดยนายชาญชัย ได้มอบเหรียญองค์พญาศรีสัตตนาคราช เพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นขวัญกำลังใจ และทำให้กิจกรรมลุล่วงไปด้วยดี อีกทั้งได้โอนเงินบริจาคส่วนตัว เป็นเงินจำนวน 999 บาท สนับสนุนเข้ากองทุน

ทางด้าน “โตโน่” ยังโชว์พระเครื่องคู่กาย คือ เหรียญกรมหลวงชุมพร ที่ห้อยคอแขวนไว้ติดตัวตลอดเวลามาหลาย 10 ปี และในวันที่ว่ายน้ำจะแขวนติดตัวไปด้วย เป็นความเชื่อความศรัทธาส่วนตัว ที่จะคุ้มครองปกปักรักษา
กิจกรรมจะมีขึ้นในเช้าพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) ล่าสุดได้เส้นทางจากจุดเริ่มต้นฝั่งตัวเมืองนครพนม ไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว ระยะทางไป-กลับประมาณ 15 กิโลเมตร โดยกิจกรรมหลังจากว่ายน้ำออกจากฝั่งไทย ไปขึ้นที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญ คู่บ้านคู่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว คือ พระธาตุศรีโคตรบอง ก่อนที่จะเดินทางไปพบปะให้กำลังใจ แพทย์ พยาบาล ที่โรงพยาบาลเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว และเดินทางไปยังจุดว่ายน้ำกลับมายังฝั่งไทย เงินที่ได้จากการสมทบทุน จะนำไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ตามที่โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ขาดแคลน อาทิ เครื่องเอกซเรย์หญิงตั้งครรภ์ เครื่องไอซียูเด็ก
ทั้งนี้ หลังเตรียมความพร้อมเปิดกองทุน รับบริจาคมาประมาณ 1 เดือน เริ่มต้นกองทุนเงินส่วนตัวประมาณ 1 ล้านบาท และผู้ใจบุญสมทบทุนอีก 1 ล้านบาท รวมเป็นทุน 2 ล้านบาท ในเบื้องต้น ล่าสุดถือว่าเกินคาด มีผู้ใจบุญ ร่วมบริจาคแล้วกว่า 7 ล้านบาท คาดว่าถึงวันว่ายน้ำข้ามโขง จะมียอดบริจาคไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย