กทม. 18 ต.ค.- ชายวัย 62 ปี บุกชกหน้า “ศรีสุวรรณ จรรยา” ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อที่ ปอท. กรณีแจ้งความดำเนินคดี “โน้ส อุดม” ผู้ก่อเหตุระบุตนเองเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง แค่ต้องการสั่งสอนที่ชอบไปร้องคนเห็นต่าง
เมื่อเวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิด “โน้ส อุดม แต้พานิช” กรณีการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญในการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13 ที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม โดยมีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่สำหรับตนมองว่า มีคำพูดบางถ้อยคำไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม รวมถึงเข้าผิดความผิดทางกฎหมาย โดยเฉพาะที่กล่าวว่า ปัญหารถติด ควรให้อภัยคนมาม็อบ เพราะทำหน้าที่แทน ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84/85/87 ระบุไว้ชัดเจนว่า การยุยงส่งเสริมให้บุคคลกระทำความผิด หรือการโฆษณา ให้บุคคลกระทำความผิด ถือเป็นความผิดทางอาญา ผู้ที่กระทำต้องรับโทษกึ่งหนึ่งของความผิดที่เกิดขึ้น ซึ่งการจัดชุมนุมที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 2-3 ปีนั้น เป็นที่รับทราบกันว่าเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมายเพราะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะขับไล่รัฐบาลอบ่างเดียว แต่ยังมีประเด็นเรื่องการยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 และการปฏิรูปสถาบันฯ ดังนั้น การที่ โน้ส อุดม พูดว่าม็อบทำหน้าที่แทนนั้น จึงเข้าข่ายยุยงส่งเสริมให้กระทำความผิด และตอนนี้การแสดงดังกล่าวก็ได้ถูกเผยแพร่ ทำซ้ำ ในสื่อโซเชียลมากมาย ตนจึงต้องมีแจ้งความต่อ บก.ปอท.ให้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้มาแจ้งความเพื่อแก้เกี้ยวให้รัฐบาล เพราะที่ผ่านมา เวลาที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้องตนก็ไปร้องเรียนเหมือนกัน ดังนั้น อย่ามองว่าเป็นแค่เรื่องทางการเมือง แต่ให้มองที่เนื้อหาการแสดง ซึ่งการพูดวิจารณ์รัฐบาล โน้ส อุดม ก็ทำมาตลอดทุกยุคทุกสมัย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ที่ตนไม่เห็นด้วย คือคำพูดที่ให้ท้ายม็อบ แต่อย่างไรก็ตาม การพูดวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ก็ต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 34 ด้วย ที่ระบุไว้ว่า สิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ แม้ทำได้ แต่มีข้อยกเว้นคือ ต้องไม่กระทบความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีในสังคม
ขณะที่นายศรีสุวรรณ กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่นั้น ได้มีชายรายหนึ่งเดินเข้าไปหานายศรีสุวรรณ พร้อมกับพูดว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ก็บอกว่าจะไปแจ้งความม็อบทุกม็อบที่ออกมาชุมนุม แต่ยังไม่ทันพูดจบ ชายคนดังกล่าว ก็พุ่งเข้าไปชกเข้าที่ใบหน้าของนายศรีสุวรรณ ทันทีหลายครั้ง จนลูกน้องของนายศรีสุวรรณ ที่เข้ามาช่วยห้าม ก็โดนชกไปด้วยเหมือนกัน ตำรวจต้องเข้ามาห้ามปราม
หลังเหตุการณ์สงบลง ชายคนดังกล่าวระบุว่า ตัวเองชื่อนายวีรวิชญ์ อายุ 62 ปี พร้อมประกาศว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง โดยวันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอนนายศรีสุวรรณ ที่ชอบไปร้องเรียนคนเห็นต่างอย่างไม่มีเหตุผล ถ้าจะร้องเรียน ควรร้องให้ถูกต้อง ซึ่งตนต้องขอโทษตำรวจ ปอท.ด้วย ที่มาก่อเหตุที่นี่ เพราะที่ผ่านมาไม่มีโอกาส และหากตนต้องถูกดำเนินคดี ตนก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ ก่อนขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ขับออกด้วนอารมณ์เบิกบาน
สำหรับประวัติของนายวีรวิชญ์ พบว่าเคยก่อเหตุตบหัวนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ อีสาน ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2564 มาแล้ว และยังเคยถูกฟ้องในคดีร่วมชุมนุม 21 ตุลาคม 2563 แต่ศาลแขวงดุสิตยกฟ้องไป.-สำนักข่าวไทย