fbpx

ถนนประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ดถูกน้ำกัดเซาะขาด เตือน 3 อำเภอรับมือ

พระนครศรีอยุธยา 18 ต.ค. – ถนนริมประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด ในพื้นที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำกัดเซาะขาด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลทะลักรุนแรง เตือน 3 อำเภอเตรียมรับมือ


เมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (17 ต.ค.) ถนนภายในชุมชนถูกกระแสน้ำกัดเซาะ ทำให้ถนนขาด ความกว้างประมาณ 4 เมตร ช่วงเส้นทางก่อนถึงประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด (เส้นคลองเก่า) เป็นเหตุให้มวลน้ำจากแม่น้ำน้อย ซึ่งอยู่บริเวณหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ต.รางจรเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ไหลผ่านมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา

หลังจากนั้น เวลาประมาณ 23.00 น. นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ ลงพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.รางจรเข้ เพื่อติดตามสถานการณ์ พร้อมต่อโทรศัพท์สายตรงไปยังอธิบดีกรมชลประทาน เพื่อประสานการช่วยเหลือ จัดเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรช่วยซ่อมแซม เบื้องต้นโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ นำกระสอบทรายปิดกั้นจุดน้ำกัดเซาะบริเวณดังกล่าว จนถึงเวลา 04.30 น. ผู้ว่าฯ จึงเดินทางกลับ


สำหรับถนนที่ขาด มีความกว้างประมาณ 6 เมตร เป็นคันประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด เป็นน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลเข้าไปในทุ่งเจ้าเจ็ด ซึ่งจะมีผลกระทบกับเขต อ.บางซ้าย 4 ตำบล ได้แก่ ต.เจ้าฟ้า ต.บางซ้าย ต.บางพัฒนา และ ต.เทพมงคล และเขต อ.เสนา บางส่วน เลยไปถึง อ.ลาดบัวหลวง แต่ตอนนี้น้ำที่ผ่านช่องขาดนี้อยู่ที่ประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เนื่องจากน้ำจะผ่านทุ่งเจ้าเจ็ด เป็นทุ่งกว้าง 3.5 แสนไร่ จะไม่มีผลกระทบ ส่วนการแก้ไขและซ่อมแซม คาดว่าใช้เวลาดำเนินการไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ต.เจ้าเจ็ด ต.ชายนา ต.มารวิชัย ต.สามตุ่ม ต.ดอนทอง รวมทั้งประชาชนที่อยู่ริมฝั่งคลองสาน และคลองสายสี่ ให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง