เปิดไทม์ไลน์อดีต ตร.คลั่ง กราดยิง ตายแล้ว 38 ราย

หนองบัวลำภู 6 ต.ค. – เปิดไทม์ไลน์เหตุสะเทือนขวัญ อดีตตำรวจกราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 38 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กเล็กกว่า 20 คน


เหตุการณ์ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ (ตร.นอกราชการ) ใช้อาวุธปืนยิงประชาชน และเด็กเล็ก ที่ศูนย์เด็กเล็ก ใน อ.นากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู รวมถึงใน อบต.นากลาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก่อนขึ้นรถกระบะ สีขาว ทะเบียน 6 กธ 6499 กทม. หลบหนี ระหว่างทางได้ขับรถชนและทำร้ายชาวบ้าน

ตัวเลขผู้เสีย ล่าสุดอยู่ที่ 38 คน แบ่งเป็น


  • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 24 คน เป็นเด็กเล็ก 22 คน ผู้หญิง 2 คน
  • ที่ทำการ อบต.อุทัยสวรรค์ เสียชีวิต 2 คน เป็นเด็กชาย 1 คน ผู้ใหญ่เพศชาย 1 คน
  • บ้านท่าอุทัย ซึ่งเป็นบ้านผู้ก่อเหตุ เสียชีวิต 5 คน แยกเป็นเด็กชาย ลูกผู้ตาย 1 คน ผู้ชาย 2 คน 1 ในนั้นคือผู้ก่อเหตุ และผู้หญิง 2 คน
  • กลางบ้านท่าอุทัย มีหญิงเสียชีวิต 1 คน
  • บ้านหนองกรุงศรี ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน
  • เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 5 คน

และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู จนทางโรงพยาบาลต้องประกาศรับบริจาคเลือดทุกกรุ๊ปด่วน ปรากฏว่าหลังประกาศไปไม่นาน มีประชาชนแห่ไปบริจาคจำนวนมาก เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ในเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก รพ.หนองบัวลำภู ได้ประกาศปิดการรับบริจาค เนื่องจากเลือดเพียงพอกับความต้องการแล้ว และมีผู้บาดเจ็บสามารถกลับบ้านได้แล้ว 3 คน ส่งต่อโรงพยาบาลอื่นอีก 7 คน รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด 47 คน

ขณะที่มีครูที่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด โดยเพื่อนโดนยิง แต่ปีนกำแพงหนีออกมาได้ทัน เล่าถึงวินาทีคนร้ายบุกเข้ามาในศูนย์เด็กเล็ก เข้าไปสังหารโหดเด็กและเพื่อนร่วมงาน เป็นครูท้องแก่ต่อหน้าต่อตา

โดยช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่เด็กนอนกลางวัน ครูได้ยินเสียงดังเหมือนประทัด แต่เมื่อได้ยินหลายนัด จึงรู้ว่าเป็นเสียงปืน เมื่อเดินไปดู เห็นคนร้ายกำลังใส่กระสุน ชุดใหม่ จึงวิ่งหนีไปหลบ พร้อมตะโกนบอกเพื่อนครูคนอื่นให้หลบเอาตัวรอด ลักษณะคนร้าย เหมือนคนเมายา ไม่ฟังใคร หลังใช้ปืนยิงแล้ว ยังเอามีดฟันครู 2 คน บาดเจ็บด้วย อย่างไรก็ตาม ได้พบหนูน้อยรอดชีวิตมาได้ 1 คน ซึ่งไม่ได้วิ่งไปหลบที่ไหน แต่นอนหลับอยู่ในห้อง คาดว่าคนร้ายน่าจะไม่เห็น


หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไล่ล่า จนสืบทราบว่า ส.ต.อ.ปัญญา กลับไปที่บ้านพัก ที่บ้านท่าอุทัย อำเภอนาวัง ห่างจากจุดเกิดเหตุ 5 กิโลเมตร จึงเข้าปิดล้อม เจรจา ก่อนพบว่า ส.ต.อ.ปัญญา ฆ่าตัวตายพร้อมลูกชายและภรรยา ในสภาพนอนกอดลูกและภรรยาบนที่นอน ส่วนด้านนอกบ้านพัก พบรถยนต์ที่ใช้ขับหลบหนีถูกเผาทำลาย ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ และชนิดปืนที่ใช้ก่อเหตุ ว่าเป็นปืนของรัฐ ปืนส่วนตัว หรือเป็นปืนเถื่อนนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ย้อนดูไทม์ไลน์เหตุการณ์

  • เวลาประมาณ 12.10 น. คนร้ายเข้ามาใช้ปืนกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตอำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู ก่อนขึ้นรถกระบะ วีโก้ 4 ประตู สีขาว หลบหนี ระหว่างทางได้ขับรถชนและทำร้ายชาวบ้าน
  • เวลา ประมาณ 14.00 น. เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองหนองบัวลำภู ประกาศติดตามตัว นายปัญญา คำราบ ผู้ก่อเหตุ
  • เวลา 14.29 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. บินด่วนลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.
  • 14.41 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ยืนยัน คนร้ายเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ อ.นาวัง ห่างจุดเกิดเหตุ 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้สกัด และอยู่ระหว่างการปิดล้อมและเจรจา ก่อนพบคนร้ายตัดสินใจปลิดชีพ พร้อมลูกเล็กและภรรยาภายในบ้านพัก

สำหรับ ส.ต.อ.ปัญญา เคยรับราชการตำรวจมาเป็นเวลา 10 ปี ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2555 และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เป็น ผบ.หมู่ ป้องกันปราบปราม สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ในยศสิบตำรวจตรี ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาวัง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562

เมื่อย้ายมาที่ สภ.นาวัง เริ่มมีปัญหาทะเลาะกับแฟน เนื่องจากแฟนไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และเริ่มมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจนร่างกายซูบผอม มีอารมณ์ฉุนเฉียว ซึ่งเพื่อนข้าราชการตำรวจต่างทราบดีและไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคาร ส.ต.อ.ปัญญา ไม่ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ กลับไปนอนอยู่ในรถซึ่งจอดไว้หน้าธนาคาร เมื่อผู้จัดการธนาคาร ได้ขอความช่วยเหลือโดยให้คุ้มกันการเคลื่อนย้ายนำเงินเข้าเครื่อง ATM กลับแสดงอาการไม่พอใจ ทำท่าจะชักปืนขู่ ทำให้ผู้จัดการต้องโทรศัพท์แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

สภ.นาวัง ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตามโครงการตำรวจสีขาว ไม่ให้ข้าราชการตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังได้รับรายงานว่า ส.ต.อ.ปัญญา ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และต่อมา เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เข้าตรวจค้นจับกุม ปรากฏหลักฐานตามบันทึกจับกุม ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ส.ต.อ.ปัญญา ให้การรับสารภาพ

เมื่อถูกจับกุมได้ซักถาม ส.ต.อ.ปัญญา ได้ให้ถ้อยคำว่า “สูบยาบ้ามาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนมียาบ้าเป็นร้อยๆ เม็ด ไม่เห็นมีใครมาจับกุม” อย่างไรก็ตาม ส.ต.อ.ปัญญา รับสารภาพว่ายาบ้าของกลางที่ชุดจับกุมพบเป็นของตนเอง โดยได้รับมาจากอดีตตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]