นครศรีธรรมราช 5 ต.ค. – เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ทำป้ายเตือนห้ามเข้าในโพรงไม้ “ช้าม่วง” ชมค้างคาว หลัง นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เตือนพบผู้ป่วยโรคฮิสโตพลาสโมซิส หลังเข้าโพรงต้นไม้ดังกล่าว
จากกรณีนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุ “ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าการเดินเข้าไปในโพรงต้นไม้ใหญ่ในป่าพื่อชมค้างคาวในเวลาเพียง 2-15 นาที จะหายใจสปอร์ของเชื้อราฮิสโตพลาสมา แคปซูลาตุม (Histoplasma capsulatum) ลอยขึ้นมาในอากาศจากมูลค้างคาวที่ตกลงบนพื้นดิน เข้าไปในปอด ทำให้ป่วยเป็นโรคฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis) เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 65 มีคณะเดินทางศึกษาธรรมชาติเข้าไปในโพรงต้นไม้ เท่าที่ทราบ 7 ใน 10 คนของคณะนี้ 2-3 สัปดาห์ หลังเข้าโพรงต้นไม้ บางคนเริ่มป่วย ไอ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เอกซเรย์ปอด 7 คน มีจุดขนาดแตกต่างกันกระจายทั่วปอด ไล่ตั้งแต่คนมีจุดเล็กที่สุดในปอดขนาด 3 มิลลิเมตร ไปถึงคนที่มีลักษณะเป็นก้อนขนาด 1 เซนติเมตร กระจายทั่วปอด คนที่มีก้อนในปอดพิสูจน์แล้วว่า เป็นโรคฮิสโตพลาสโมซิส ด้วยการตัดชิ้นเนื้อจากปอดพบเชื้อรา Histoplasma capsulatum เจริญเติบโตแบ่งตัวในปอด
ต้นไม้ที่มีโพรงนี้ชื่อไทย “ช้าม่วง” เป็นต้นไม้กลุ่มวงศ์ยาง อายุกว่า 100 ปี สูงกว่า 40 เมตร โพรงต้นไม้นี้เกิดตามธรรมชาติ แคบเข้าได้ทีละคน ต้องก้มศีรษะเพื่อเข้าในโพรง มีพื้นที่ในโพรงให้คนเข้าไปได้ 6-7 คน ความสูงของโพรง 3 เมตร เป็นที่พักอาศัยของ “ค้างคาวแวมไพร์แปลงเล็ก” Lesser false vampire bat บริเวณที่ค้างคาวอยู่สูงถึง 5 เมตร จากพื้น ค้างคาวชนิดนี้อาศัยในถ้ำและโพรงต้นไม้ ต้นไม้ต้นนี้อยู่ในป่าที่สมบูรณ์ โชคดีไม่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชม เพราะต้องให้คนในพื้นที่พาเดินเข้าไป อยู่ในบริเวณคลองวังหีบ หนานตากผ้า ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
ตนได้แนะนำให้ติดป้ายเตือนที่หน้าโพรงต้นไม้ต้นนี้ “อันตราย ห้ามเข้าในโพรงต้นไม้ อาจติดเชื้อราจากมูลค้างคาว” และใครที่เคยเข้าไปในโพรงต้นไม้ต้นนี้ โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย ควรไปหาแพทย์ ขอทำเอกซเรย์ปอด และแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยว่าตัวเองอาจติดเชื้อราที่ก่อโรคฮิสโตพลาสโมซิส คนที่อายุน้อยสุขภาพแข็งแรง ถึงติดเชื้อราส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ หายเองได้ ไม่ต้องรักษา คนที่อายุมากมีโรคประจำตัวต้องรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อรา เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีคณะเดินทางศึกษาธรรมชาติเข้าไปในโพรงต้นไม้ใหญ่ชื่อช้าม่วง เป็นต้นไม้กลุ่มวงศ์ยาง อายุกว่า 100 ปี สูงกว่า 40 เมตร โพรงต้นไม้เกิดตามธรรมชาติ แคบเข้าได้ที่ละคนจำนวน 10 คน”
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สสจ.นครศรีธรรมราช เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะสถานที่เกิดเหตุเป็นที่บ้านวังหีบ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยทางเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สสจ.นครศรีธรรมราช บอกว่าได้ประสานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุ่งสง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ขั้นตอนแรกคือมีการทำป้ายห้ามเข้าไปในโพรงไม้ดังกล่าวเพื่อนำไปติด โดยจะนำไปติดในวันนี้ (5 ต.ค.) ในส่วนของรายละเอียดของโรคดังกล่าวนั้น ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุ่งสง จะมีการแถลงวันนี้ (5 ต.ค.) .-สำนักข่าวไทย