กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทานระบุให้ “นายโบว์แดง ทาแก้ว” ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ไปทำหน้าที่หน้าห้องรองอธิบดีกรมชลประทาน แล้วมอบหมายให้บุคคลอื่นมาทำหน้าที่แทนเพื่อความเหมาะสม
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้มีคำสั่งให้ “นายโบว์แดง ทาแก้ว” ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ สำนักงานชลประทานเขต 11 ไปทำหน้าที่หน้าห้องนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายบำรุงรักษา โดยมอบหมายให้นายปิยะ ลืออุติกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ไม่ใช่การโยกย้าย แต่เป็นการมอบหมายหน้าที่ตามความเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ทำให้มีการมอบหมายหน้าที่ใหม่ เนื่องจากปัญหาเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์เสีย โดยสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ซึ่งเครื่องสูบน้ำที่มี 20 เครื่อง เสียถึง 9 เครื่อง ทำให้การสูบน้ำทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เมื่ออธิบดีกรมชลประทานทราบจึงสั่งการให้สำนักเครื่องจักรกลนำเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง ไปติดตั้งเสริมทันที รวมถึงให้นำเครื่องสูบน้ำไฮโดรโฟล 2 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง ไปติดตั้งด้วย โดยให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง และควบคุมการปฏิบัติงานด้วยตัวเอง จนสามารถเดินเครื่องเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนตกหนักต่อเนื่องในจังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะในวันที่ 8 กันยายน ปริมาณฝนจังหวัดปทุมธานี มากที่สุดในประเทศถึง 157 มิลลิเมตร จนระดับน้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์สูงกว่าระดับวิกฤติ ทำให้เทศบาลนครรังสิตต้องยกระดับการเตือนภัยเป็น “ธงแดง”
ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน อธิบดีกรมชลประทานย้ำโครงการชลประทานทั่วประเทศให้ปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2565 ของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) อย่างเคร่งครัด โดยต้องเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือทุกชนิดให้พร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลาเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน.-สำนักข่าวไทย