สำนักข่าวไทย 31 ส.ค.- GISTDA เปิดเผยข้อมูลภาพจากแผนที่แสดงสถานการณ์น้ำท่วมช่วงเดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งขณะนั้นประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมขัง 5.59 ล้านไร่ และเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์น้ำท่วมในเดือน ส.ค.65 พบประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมขังแล้ว 1.85 ล้านไร่ หรือต่างกันราวๆ 3 เท่าตัว
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลกลับไปในช่วงปี 2563 และปี 2564 ของเดือนสิงหาคม จะพบว่าในขณะนั้นประเทศไทยมีปริมาณน้ำท่วมขังน้อยกว่าปี 2565 สาเหตุหลักๆ เป็นเพราะภัยแล้ง อีกทั้งปีนี้ (2565) ฝนมาเร็ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าปีนี้ประเทศไทยยังไม่เจอกับพายุแบบทางตรง ที่ผ่านมาก็จะเป็นแค่ทางอ้อมเท่านั้น ซึ่งทำให้ได้รับผลกระทบทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศ ขณะนี้หลายหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สทนช. กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา สสน. ปภ. รวมถึง GISTDA เป็นต้น เพื่อร่วมกันวางแผนและประเมินสถานการณ์ต่อไป
หากมองย้อนกลับไปปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่มีเหตุการณ์มหาอุทกภัยอย่างรุนแรง สาเหตุหลักๆ มีดังนี้
- เกิดพายุหลายลูกเคลื่อนตัวผ่านและส่งผลให้ประเทศไทยได้รับอิทธิพลโดยตรง ซึ่งยังไม่นับรวมร่องมรสุมอื่นๆ ที่พาดผ่านประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลมประจำถิ่น ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกอย่างหนักในหลายพื้นที่
- ฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ทำให้ปริมาณฝนตกสะสมทั้งประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ยมากถึง 35%
- ช่วงครึ่งปีแรก เกิดปรากฏการณ์ลานีญาที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้มีปริมาณฝนมากกว่าปกติทุกเดือน
- เกิดน้ำทะเลหนุนบ่อยครั้ง ส่งผลให้การระบายน้ำค่อนข้างยาก และเป็นไปอย่างล่าช้า
- เขื่อนใหญ่ๆ อย่างเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างอย่างต่อเนื่องในปริมาณสูงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำผลให้ไม่สามารถระบายน้ำออกได้ทัน เนื่องจากบริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
- มีสิ่งกีดขวางทางน้ำมากมายทั้งจากธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
- ส่องสถานการณ์น้ำ ปี 2565 ณ ขณะนี้
- เดือนสิงหาคม ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมขังแล้วกว่า 5.59 ล้านไร่ ถือว่ายังน้อยกว่าอยู่ 3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2554
- เกิดปรากฏการณ์ลานีญาเช่นกัน ทำให้ฝนมาเร็ว ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศมีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงขึ้น แต่ไม่รุนแรงเท่าปี 2554
- ในช่วง 1-2 เดือนนี้ อาจเกิดพายุขึ้น 2-3 ลูก ซึ่งบางลูกประเทศไทยอาจไม่ได้รับอิทธิพลโดยตรง
- สิ่งกีดขวางทางน้ำ เช่น ผักตบชวา ต้นไม้ กิ่งไม้ ขยะ ฯลฯ ได้รับการจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำ
- หลายหน่วยงานด้านน้ำเร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย ในช่วงที่ไม่เกิดน้ำทะเลหนุนสูง
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกช่วงเวลา
GISTDA วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียมมากกว่า 1 ดวง เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยท่านสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://flood.gistda.or.th.-สำนักข่าวไทย