เจนีวา 26 ส.ค. – องค์การอนามัยโลก เผยทั่วโลกมียอดผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ลดลงร้อยละ 21 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณชี้ว่าการระบาดของโรคดังกล่าวในทวีปยุโรปอาจเริ่มมีแนวโน้มลดลง หลังพบการระบาดเพิ่มขึ้นติดต่อกันนานนับเดือน
องค์การอนามัยโลก ระบุในรายงานอัปเดตสถานการณ์ระบาดของโรคฝีดาษลิงประจำสัปดาห์ เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ทั่วโลกพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเพิ่มขึ้น 5,907 คน ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และมี 2 ประเทศที่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายแรก ได้แก่ อิหร่าน และอินโดนีเซีย
ขณะนี้ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงกว่า 45,000 คน ใน 98 ประเทศ นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน ทั้งยังระบุว่าสหรัฐพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงสูงสุดร้อยละ 60 จากยอดผู้ป่วยทั้งหมดในรอบเดือนที่ผ่านมา และทวีปยุโรปพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงร้อยละ 38 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายอดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในสหรัฐยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ร้อยละ 98 ของผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผู้ชาย และร้อยละ 96 เป็นผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย
ในขณะเดียวกัน ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุในงานแถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า แม้มีข้อบ่งชี้ว่าการระบาดของโรคฝีดาษลิงในทวีปยุโรป ซึ่งเคยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงมากถึงร้อยละ 90 ของยอดผู้ป่วยทั้งหมด มีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงพบการระบาดที่น่าวิตกกังวลในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคลาตินอเมริกา ที่ขาดมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุข และไม่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เกิดการระบาดรุนแรงขึ้นได้ในภายหลัง.-สำนักข่าวไทย