อุทธรณ์ยืนประหารชีวิต “บรรยิน” ฆ่าเสี่ยชูวงษ์

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนประหารชีวิต “บรรยิน” คดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์ ศาลชี้ “เสี่ยจืด” เสียชีวิตก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ขณะที่พี่สาวพอใจคำพิพากษา


วันนี้ (25 ส.ค.65) ศาลอาญาพระโขนง อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ลงโทษให้ประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัย เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

คดีนี้ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ และพนักงานอัยการ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 นายชูวงษ์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูสีดำ ชนต้นไม้ มี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ โดยชนต้นไม้ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ ถึงแก่ความตาย


ศาลอุทธรณ์ฟังว่าวันเกิดเหตุ จำเลยออกจากสนามกอล์ฟและอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายในเวลา 20.11 น. โดยไปถึงบริเวณริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ในเวลา 22.21 น. ทั้งที่ห่างจากสนามกอล์ฟเพียง 37 กม. แต่ใช้เวลาสองชั่วโมงจึงนานเกินไป ที่จำเลยให้การว่าขับเร็ว 80 กม./ชม. และหักหลบรถที่แซงล้ำมาในเลน พยานดูแล้วไม่มีรถขับสวนมาจริง และพบว่าจำเลยขับรถมาเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.

ขณะที่พบว่าการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากขับรถไปชนต้นไม้ แต่เกิดจากการถูกตีด้วยของแข็งที่ใต้ศีรษะ เมื่อพิจารณาจากรอยช้ำที่ใบหน้า เปลือกตา ม่านตา อาหารในกระเพาะ เชื่อว่านายชูวงศ์เสียชีวิตก่อนเวลา 22.00 น. โจทก์ร่วมและญาติ ได้พบหลักฐานการโอนหุ้นปลอมให้ น.ส.อุรชา และกลุ่มจำเลยที่ไม่ใช่ญาติ 2 ครั้ง คือ 30 ล้านบาท และ 228 ล้านบาท เชื่อว่ามีการโอนหุ้นโดยจำเลยมีส่วนร่วมด้วย อีกทั้งศาลอาญาใต้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 8 ปี จำเลยอื่นคนละ 4 ปี

ฟังได้ว่า การโอนหุ้นโดยทุจริตมีจำเลยเกี่ยวข้อง และผู้รับโอนก็มีความสัมพันธ์กับจำเลย ดังนั้น เชื่อว่าจำเลยต้องการปกปิดการโอนหุ้นไม่ให้ผู้ตายรู้ จำเลยจึงอาศัยความเป็นเพื่อนสนิทและผู้ตาย ชักชวนผู้ตายมาตีกอล์ฟแล้วจำเลยทำทีขับรถอาสาไปส่งผู้ตายโดยขับออกนอกเส้นทางไปประมาณ 37 นาที ก่อนร่วมกับพวกที่ยังได้ตัวมาดำเนินคดีใช้ของแข็งประทุษร้ายจนตาย จากนั้นจำเลยขับรถและใช้มือซ้ายประคองร่างมาจุดเกิดเหตุ


พิพากษาว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อปกปิดการกระทำผิดของตน พิพากษายืนให้ประหารชีวิต นอกจากนั้นเป็นไปตามศาลชั้นต้น

ภายหลังฟังคำพิพากษา นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด เผยว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาประหารชีวิตจำเลย เราต่อสู้กันยาวนาน วันนี้ครบ 7 ปี การสืบพยานมีความยากลำบาก เพราะจำเลยเป็นผู้รู้กฎหมายและเป็นอดีตตำรวจ การที่เราสามารถสืบพยานจนศาลลงโทษประหารจำเลยได้ ต้องขอบคุณกองปราบปราม และกองพิสูจน์หลักฐานที่เก็บหลักฐานด้วยความยากลำบาก รวมถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้พิสูจน์ความเร็วรถ และมีผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วน รวมทั้งแพทย์ที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิต แม้คดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน แต่บาดแผลบนศพถือเป็นประจักษ์พยานที่ทำให้ศาลรับฟังร่วมกับพยานทางวิทยาศาสตร์ และพยานผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ เท่ากับจำเลยคนนี้ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ประหารชีวิตทั้ง 2 คดี คือคดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์และคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ซึ่งตนพอใจกับคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม หากจำเลยยื่นฎีกา คิดว่าคดีก็ไม่น่าจะช้า ส่วนคดีแพ่งในส่วนของหุ้นก็รอศาลอุทธรณ์อยู่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร