กรุงเทพฯ 23ส.ค. – คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติคงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท ด้านฐานะกองทุนน้ำมันติดลบ 1.18 แสนล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เพื่อช่วยประคองผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชน ถึงแม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกยังมีความผันผวน โดยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 137.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 6.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า (12 ส.ค.65) ซึ่งอยู่ที่ 130.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ในส่วนราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลของประเทศ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้วางมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน 2565)
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 21 สิงหาคม 2565 ติดลบ 118,010 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 76,741 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 41,269 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลตลาดสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นมาจาก การคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งตลาดได้รับแรงหนุนจากการห้ามการส่งออกน้ำมันของรัสเซียโดยสหภาพยุโรป ซึ่งอาจทำให้อุปทานตึงตัวขึ้นอย่างมากและส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นักวิเคราะห์ระบุว่า การคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปจะบังคับให้การผลิตน้ำมันของรัสเซียต้องปิดตัวลงประมาณ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในสิ้นปี 2565 และเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2566
นอกจากนี้ ด้านกลุ่มโอเปกโดย Haitham Al Ghais เลขาธิการคนใหม่ของโอเปก กล่าวว่า การลงทุนในภาคน้ำมันและก๊าซที่ไม่เพียงพอ หลังจากที่ราคาน้ำมันตกต่ำในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้กำลังการผลิตสำรองของโอเปกลดลงอย่างมาก .-สำนักข่าวไทย