“ชาติไทยพัฒนา” ปิดท้ายหาเสียงตลาดสุพรรณบุรี

ชาติไทยพัฒนา 11 พ.ย. – “วราวุธ” ปิดท้ายหาเสียงลุยตลาดสุพรรณบุรี พรุ่งนี้ (12 พ.ค.) เข้าใจอยู่มานาน แต่มีประสบการณ์ ตั้งใจ สั่งผู้สมัคร ส.ส.เร่งทำความเข้าใจประชาชนเรื่องกาบัตร หวั่นสับสนทำคะแนนเสีย ไม่ท้อแท้ผลโพล แนะ กกต. ผิดพลาดต้องแก้ให้เร็ว แจงสาเหตุให้ชัดเจน ประกาศเงื่อนไขร่วมรัฐบาลต้องยั่งยืน-เทิดทูนสถาบัน ถ้าไม่ได้ไม่ร่วม


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. ให้สัมภาษณ์ถึงโค้งสุดท้ายในการเลือกตั้ง ว่า ในส่วนของผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่เราคาดหวังยังเดินหน้าเต็มที่ อย่าง จ.สุพรรณบุรี หากพื้นที่ไหนน่าเป็นห่วงเราจะไปย้ำ ไปพบปะประชาชน โดยวันที่ 12 พ.ค. จะหาเสียงที่ จ.สุพรรณบุรี จะไปเดินตลาดสดใน อ.เมือง เพื่อหาเสียงขอคะแนน  เชิญชวนมาลงคะแนนในวันที่ 14 พ.ค.

ส่วนในพื้นที่ กทม. ภาคอีสาน ภาคเหนือ ผู้สมัคร ส.ส.ของเรายังเดินหน้าเต็มที่ เคาะประตูทุกบ้าน เพราะการลงคะแนนในวันที่ 14 พ.ค.นี้ สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และสับสน ต้องไปทำความเข้าใจว่าบัตรสีเขียวคือเลือกพรรค บัตรสีม่วงคือเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต ผู้สมัคร ส.ส.ต้องมีหน้าที่ทำความเข้าใจเรื่องนี้ เพราะการหาคะแนนทำกันมาเยอะแล้ว จึงต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงคะแนนให้ถูกต้อง ซึ่งสำคัญ เพราะหากจำสลับขึ้นมาจะเสียทั้งคนทั้งพรรค


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในช่วงที่ผ่านมา นายวราวุธ กล่าวว่า การจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนกว่า 50 ล้านคน การทำงานในแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่จะมีความยากง่ายแตกต่างกัน เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย บางพื้นที่เจ้าหน้าที่อาจต้องใช้ความระมัดระวังกว่านี้ ความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดขึ้นแล้วต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อลดความกังขา ทำความเข้าใจกับประชาชนต่อข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนสบายใจ ขอเป็นกำลังใจให้กับ กกต.

เมื่อถามว่า ครั้งที่แล้วมีเรื่องบัตรเขย่ง ครั้งนี้มีการมองว่า กกต.พิมพ์บัตรเกิน กกต.ต้องระวังอะไรหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า การกระทำของ กกต.ต้องชี้แจงต่อประชาชนให้ชัดเจนในทุกประเด็น เพราะการทำงานกับประชาชนกว่า 50 ล้านคนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ใช่ข้อแก้ตัว เราเข้าใจถึงความยาก แต่ กกต.ทุกคนต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด ถ้าชี้แจงชัดเจนเชื่อว่าประชาชนจะให้อภัย เมื่อผิดพลาดแล้วต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด แต่ดีที่สุดอย่าให้ผิดพลาดดีกว่า

เมื่อถามว่า กังวลเรื่องการซื้อเสียงหรือไม่ เพราะขณะนี้เริ่มมีข่าวการซื้อเสียงในบางจังหวัดภาคอีสาน  นายวราวุธ กล่าวว่า มีทุกครั้ง จะมีประมาณเขาเล่าว่า คนนั้นบอกว่า คนนี้บอกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ามันยากเหลือเกินที่จับได้คาหนังคาเขา แต่ต้องจับ และเมื่อจับได้แล้วเป็นหน้าที่ของตำรวจ และ กกต. ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แล้วต้องดูให้ดีว่าเป็นความผิดหรือกลั่นแกล้งกัน การเลือกตั้งเป็นเกมการเมืองที่ใหญ่ที่สุด ทุกฝ่ายจับตาดูกันอย่างใกล้ชิด ฝ่ายรัฐต้องทำให้เต็มที่ ภาคเอกชนและองค์กรอิสระต้องจับตาใกล้ชิดเช่นกัน


เมื่อถามว่า ขณะนี้กระแสพรรคก้าวไกลมีมากพอสมควรพรรคชาติไทยพัฒนาจะต้องปรับกลยุทธ์ในพื้นที่คาดหวังหรือไม่ นายวราวุธ  กล่าวว่า เน้นการทำงานที่ผ่านมาของพรรค ประสบการณ์ ความตั้งใจของเราอย่างที่ จ.สุพรรณบุรี เข้าใจว่าอยู่มานาน มีความต้องการที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เราจึงตอกย้ำให้เห็นถึงความเข้าใจ ความตั้งใจ และประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถครองใจชาวสุพรรณและอีกหลายจังหวัดได้อีกครั้ง ส่วนในพื้นที่ใหม่ที่เราเป็นผู้ท้าชิง ยอมรับว่าการทำงานไม่ง่าย และแม้รอบนี้อาจจะยังไม่ได้ แต่ถ้าทิ้งไปเลย มันจะสะท้อนให้เห็นความตั้งใจของผู้สมัคร ส.ส.ของเรา ดังนั้น ชทพ.จะทำงานต่อไม่ว่าอยู่ในสถานะไหน

เมื่อถามว่า ขณะนี้หลายพรรคประกาศไม่เอาลุง จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยากขึ้นหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลครั้งไหนง่าย และสมการที่จะเกิดหลังเลือกตั้งถ้าถามตอนนี้ตอบลำบาก ดังนั้น ตอนนี้อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และวันนี้ยังไม่มีพรรคไหนที่มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะได้เท่าไหร่ และได้แล้วจะมีการฟ้องร้อง กกต.เท่าไหร่อย่างไร

เมื่อถามว่า ชาติไทยพัฒนาได้ทำโพลหรือไม่ และผลโพลที่ออกมายังเป็นไปตามเป้าหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า พรรคทำในทุกพื้นที่ ซึ่งออกแบบหนึ่ง แต่ถ้าฟังจากหน่วยงานอื่นจะออกมาอีกแบบหนึ่ง 10 โพลออกมาไม่เหมือนกันสักโพล และประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแม้แต่เอ็กซิทโพลยังเคยคว่ำถล่มทลายมาแล้ว อย่างไรก็ดี โพลที่ออกมาทำให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไม่ประมาท และได้ย้ำในพื้นที่ว่าให้ไปขอคะแนน อย่าเอาผลโพลมาทำให้เราท้อแท้ โพลแม่นที่สุดคือ 14 พ.ค. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนยังมั่นใจอยู่ว่าจะทำได้ตามเป้า คือ ไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง

เมื่อถามว่า มองว่ามีโอกาสจะเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยขึ้นหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย การทำงานในสภา เวลาลงคะแนนเสียง 250 เสียงของ ส.ว.ไม่สามารถเข้ามาร่วมได้ และการทำงานถ้าพึ่งแต่เสียง ส.ว. การทำงานจะไปไม่รอด เช่น การพิจารณากฎหมายร่าง พ.ร.บ.ประมาณวาระ 1 ซึ่งหากกฎหมายฉบับนี้ไม่รอด แปลว่ารัฐบาลต้องยุบสภา คงไม่มีพรรคการเมืองไหนอยากให้มีการเลือกตั้งสองครั้งในปีเดียวกัน มันเป็นอะไรที่เหนื่อย สิ้นเปลืองงบประมาณประเทศ ชะลอการพัฒนาของประเทศ ดังนั้น รัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่เป็นประโยชน์ในการทำงานให้กับประเทศไทย

เมื่อถามว่า หากมีการแย่งกันจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงจำนวน ส.ส.เสียงข้างมาก ชทพ.จะมีหลักการพิจารณาอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า  คงต้องดูก่อน เพราะ ชทพ.พูดอยู่เสมอว่าเราไม่ได้จ้องแต่เป็นรัฐบาลอย่างเดียว แนวทางการทำงานและจุดยืนของ ชทพ.  คือ หลังเลือกตั้ง 14 พ.ค.ต้องมาดูว่าแต่ละพรรคได้จำนวนเท่าไหร่ มีสมการเป็นอย่างไร ซ้ายหรือขวาได้คะแนนเท่าไหร่ แล้วจะจับมือทำงานกันอย่างไร ซึ่งหลังจากวันที่ 14 พ.ค.จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเกิดการแย่งชิงในการจับขั้วรัฐบาล โดยไม่รอพรรคอันดับ 1 จัดตั้งก่อน ชทพ.จะใช้อะไรที่จะเป็นจุดตัดสินใจที่จะไปซ้ายหรือขวา นายวราวุธ กล่าวว่า พูดเสมอว่า ภายใน 100 วันอยากเห็นการขับเคลื่อนเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีที่พูดกันคือ เรื่องการเกณฑ์ทหาร ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เหล่านี้เราต้องไปถกกันใน สสร.ให้เรียบร้อย ถึงแม้ว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ แต่กระทบกับบางมาตราในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการร่างรัฐธรรมนูญจาก สสร.ที่สะท้อนจากประชาชน คือแนวทางที่ ชทพ.เร่งทำงาน และนำนโยบายของพรรคที่มีแนวทางเน้นความยั่งยืน เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะเป็นแนวทางที่สำคัญ ถ้าประเด็นเหล่านี้ไม่ได้รับการตอบสนอง แปลว่า ชทพ.ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมในรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

เร่งแกะรอยวงจรปิดเส้นทางหนีโจรชิงทอง 163 บาท

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทองคำ 163 บาท มูลค่ากว่า 8.6 ล้านบาท เช้าวันนี้ (15 ส.ค.) ทีมสืบสวน สภ.บางบ่อ ประชุมชุดและไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) มุ่งหน้า จ.ชลบุรี เน้นจุดเสี่ยงตลอดแนวถนนเทพรัตน รวมถึงเส้นทางรองที่เชื่อมต่อออกพื้นที่ โดยวางแนวทางสอบสวนที่จะนำไปสู่การพิสูจน์ตัวผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะประเด็นชุดไรเดอร์ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ได้เชิญพยานแวดล้อม พนักงานร้านทอง สอบปากคำอย่างละเอียด ขอเวลาตำรวจทำงาน พร้อมกำชับหากพบตัวคนร้ายให้ใช้ยุทธวิธีจากเบาไปหาหนักด้วยความรอบคอบ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน.-สำนักข่าวไทย

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]