“พล.อ.ประยุทธ์” อ้อนชาวใต้ “รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ”

ชุมพร 10 พ.ค.-“พล.อ.ประยุทธ์” นำสมาชิก “รวมไทยสร้างชาติ” ชุดใหญ่ลงพื้นที่ จ.ชุมพร หาเสียงช่วยผู้สมัครช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง อ้อนขอคะแนน “รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ” ขอแรงเลือกรวมไทยสร้างชาติทั้งจังหวัด สานต่องานบริหารประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหารพรรค เดินทางมาพบปะประชาชน และปราศรัยหาเสียง แนะนำผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 3 เขต


ทั้งนี้ ประกอบด้วย  เขต 1 เบอร์ 11 นายวิชัย สุดสวาสดิ์,เขต 2 เบอร์ 12 นายสันต์ แซ่ตั้ง และ เขต 3 เบอร์ 9 นายสุพล จุลใส โดยทันทีที่เดินทางถึงสนามบินชุมพร มีคณะผู้บริหารพรรคในพื้นที่ภาคใต้ และประชาชนชาว จ.ชุมพรมารอต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์อย่างคึกคักเหมือนทุกจังหวัดที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปหาเสียงโดยหลังจากทักทายกับประชาชนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ และคณะได้เดินทางเข้าตัวอำเภอประทิว เพื่อขึ้นรถแห่หาเสียงพร้อมผู้สมัครทันที โดยขึ้นปราศรัยบนรถแห่ กลางตลาดสด อำเภอปะทิว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้น่าชื่นใจที่ทุกคน ทุกวัยมาพบกัน แต่สิ่งที่ต้องดูคือตอนนี้คนไม่ค่อยแต่งงานมีครอบครัวกัน ทำให้ประเทศไทยมีเด็กเกิดน้อยลง อนาคตจะขาดแคลนแรงงานดังนั้นสิ่งที่จะต้องมองต่อไปข้างหน้าคือจะทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหานี้ ที่อาจจะต้องนำเข้ามาบ้าง แต่ส่วนของคนไทยเองจะต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานฝีมือดี มีงานที่ดีทำ จัดหาตำแหน่งงานให้ เพื่อสร้างมูลค่า ในส่วนของเด็กๆ เยาวชนการศึกษาอยากให้เด็กๆ เรียนและคิดไปด้วยอย่าให้ใครมายุยง เพระโอกาสในประเทศไทยของเรามีมากมาย ต่างประเทศแย่กว่าเรา คนต่างประเทศอยากมาประเทศไทยเพราะรอยยิ้ม อะไรก็ดี วันที่ 14 พ.ค.นี้ก็ขอให้ออกไปเลือกตั้งกัน ขอให้จำเบอร์ของผู้สมัครให้ได้ เบอร์ 12 นายสันต์ แซ่ตั้ง และเบอร์ 22 เบอร์พรรค เลือกให้พรรครวมไทยสร้างชาติเข้าไป เพื่อเดินหน้าไปด้วยกัน สัญญาก็คือสัญญา มีคนบอกว่า รักน้อยๆ รักนานๆ แต่ตนไม่เอา อยากให้ รักมากๆ และรักนานๆ ด้วย หน้าตาตนก็พอดูได้ เมื่อวานที่ปัตตานีเรียกตนว่า “แบยุ” ตอนนี้จะเรียกว่าอะไรก็ได้ แต่ขอให้รักมากๆ และรักกันนานๆ  “รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ”


“ผมคิดไว้หมดแล้ว เพราะทำมา 8 ปี รู้ปัญหาทั้งหมด ก่อนอื่นต้องหาเงินเข้ากระเป๋าเราก่อน ไม่งั้นมันทำไม่ได้ ผมก็พยายามเชื่อมต่อกับต่างประเทศวันนี้เขามั่นใจประเทศไทย ว่าเป็นประเทศที่น่าจะเข้ามาลงทุนมากที่สุด ภาษีรายได้เราก็มากขึ้น เงินกระเป๋าซ้ายเรามากขึ้น ก็สามารถนำมาจ่ายในกระเป๋าขวาให้กับพวกเราได้ ในการดูแลสวัสดิการต่างๆ ให้กับทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ และคณะได้เดินทางต่อไปยัง อ.ท่าแซะ พร้อมขึ้นรถแห่หาเสียงต่อ โดยระบุว่า วันนี้แม้จะต้องตื่นแต่เช้าขึ้นเครื่องบินมาที่นี่ แต่เมื่อพบหน้าทุกคนก็รู้สึกดีใจหายเหนื่อย ไม่ใช่คนใต้ แต่ภรรยาเกิดที่ใต้ วันนี้มาด้วยความคิดถึง อยากให้ทุกคนเลือก รวมไทยสร้างชาติเข้าไปเป็นรัฐบาลก็จะทำงานต่อให้กับทุกคนได้มีรอยยิ้ม โดยการแก้ปัญหาให้กับคนตั้งแต่เกิด โต ไปจนถึงสูงอายุ เรื่องสวัสดิการ ทั้งเรื่องสุขภาพ การศึกษาเล่าเรียน เศรษฐกิจ ประมง ปัญหาที่ดินต่างๆ

ถ้า รทสช.ได้เป็นรัฐบาลจะทำเรื่องเหล่านี้ให้ดีขึ้นๆ ไป หลังจากที่ทำมาแล้ว วันที่ 14 พ.ค.นี้ขอให้เลือกคนดีที่จะเข้าไปทำงานให้กับประเทศ เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติมากๆ เพื่อให้เข้าไปเป็นรัฐบาลสานงานที่เคยทำมาแล้วต่อไป ไม่ต้องไปเริ่มใหม่ โดยใน จ.ชุมพร ขอให้เลือกตัวแทนของ พรรค ทั้ง 3 คน ได้แก่ เขต 1 เบอร์ 11 นายวิชัย สุดสวาสดิ์,เขต 2 เบอร์ 12 นายสันต์ แซ่ตั้ง และ เขต 3 เบอร์ 9 นายสุพล จุลใส เลือกทั้งหมดรวมทั้งเบอร์ 22 เบอร์ของ “ลุงตู่” เบอร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย


“รักทุกคน รักจังฮู้ รักนานๆ รักทุกวันไม่มีวันหยุด เสาร์อาทิตย์ก็รัก ตัวจะอยู่หรือไม่อยู่ก็คิดถึงทุกคน วันที่ 14 นี้เลือกรวมไทยสร้างชาติเยอะๆ เราจะได้เข้าไปทำงานให้ แต่ถ้าไม่เลือกเราก็ทำอะไรให้ไม่ได้นะจ๊ะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้นเดินทาง ไปเทศบาลเมือง จ.ชุมพร เข้าสักการะศาลหลักเมือง จ.ชุมพร พร้อมขึ้นรถแห่ปราศรัยไปตามถนนสายหลักท่ามกลางประชาชนที่มารอต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์สนั่นตลอดสองข้างทาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก 

โดยระหว่างการปราศรัยบนรถแห่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงเน้นผลงานความสำเร็จที่เคยทำมาแล้ว และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในทุกเรื่องเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ภายใต้การบริหารจัดการที่มีคุณภาพ  เพราะตนเคยทำมาแล้วจึงรู้ว่าควรทำเรื่องไหนก่อน หรือเรื่องไหนทำได้ทำไม่ได้ ภายใต้งบประมาณที่จำกัด

“ผมยืนยันว่า หากได้เป็นรัฐบาลอีกครั้งจะทำให้ประชาชนมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำเรื่องของความรักสามัคคี ขอให้ประชาชนทุกคนยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรักษาความเป็นปึกแผ่นของแผ่นดิน เยาวชนต้องดูแลรักเคารพพ่อแม่ ที่ผ่านมาในฐานะนายกฯ ได้พยายามทำงานเพื่อความสุขของประชาชน ทั้งเรื่องการทำมาหากินที่อยากให้ทุกคนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุข

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องสวัสดิการรัฐ ที่ได้เคยทำมาให้ทุกคนแล้ว โดยเฉพาะการแก้ปัญหาในช่วงวิกฤติโควิด 19  เชื่อว่าทุกคนเห็นผลงานมาแล้ว หลายทำมาอย่างต่อเนื่อง ตนสู้ทุกอย่าง ทุกเม็ด แม้ว่ารวมไทยสร้างชาติจะสู้มาอย่างโดดเดี่ยวแต่ตอนนี้มีประชาชนมาสนับสนุน จึงไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

“ผมขอให้เชื่อมั่นในรวมไทยสร้างชาติ อยากให้เลือกรวมไทยสร้างชาติเข้าไปทำงานเป็นรัฐบาลเดียว เพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงาน มีคนมาบอกว่าข้าราชการเป็นช้างป่วย เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีใครชอบที่จะให้ใครมาดูถูกดูหมิ่นกัน อย่าให้ใครมาพูดแบบนี้ทุกคนต้องช่วยกันเลือกทั้ง ส.ส.เขต และเบอร์ 22 เบอร์ลุงตู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ” พล.อ.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล..อ.ประยุทธ์ ย้ำด้วยว่า ใครที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ก็รีบตัดสินใจ อย่าลังเล ตอนนี้มีเวลาเหลืออีกไม่นานจะถึงวันเลือกตั้งขอให้ เลือกเรา พรรครวมไทยสร้างชาติ เราจะเข้าไปทำต่อ ทำงานทุกอย่างให้คนทุกรุ่นทุกวัย รักทุกคน ถ้าไม่รักจริงไม่อยู่มานานขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนจากหัวใจของ “ลุงตู่”

ขณะที่การปราศรัยจุดสุดท้าย ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร มีประชาชนชาวหลังสวนสวมเสื้อเหลืองมารอต้อนรับ

โดย พล.อ.ประยุทธ์ และคณะได้ขึ้นรถแห่หาเสียง และปราศรัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวว่า วันนี้ดีใจที่มา อ.หลังสวน ที่เป็น อำเภอที่สุขสงบ มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ตนขอชื่นชมคนใต้ทุกคนที่รักสถาบันหลักของประเทศ ตนมาด้วยความรักความคิดถึง เอาความรักมาฝาก ขอให้เลือกสุพล จุลใส เบอร์ 9 การเลือกตั้งก็คือการเลือกตั้งเพื่อให้ประเทศสุขสงบ ไม่แตกเป็นฝักเป็นฝ่าย ครอบครัวต้องรักกันเหมือนเดิม อย่าให้ใครมายุแหย่ เด็กและเยาวชนจะต้องมีอนาคตที่ดีบนแผ่นดินไทยผืนนี้  วันนี้รู้สึกอบอุ่นใจมากเพราะมีคนต้อนรับตลอดทาง เพราะเป็นคนที่มีใจตรงกัน ขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติไปพร้อมกับลุง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องทำเพื่อคนทั้งประเทศ ทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ ขอให้เชื่อมั่น สิ่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติให้ความสำคัญคือการดูและเรื่องปากท้องของประชาชน มีสวัสดิการให้ทุกคน ทุกช่วงวัย เรื่องเศรษฐกิจต้องทำให้ดีขึ้น ทุกวันนี้ก็มีการลงทุนเข้ามามากแล้ว และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การพัฒนาทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานความมั่นคง บ้านเมืองที่มีวินัย ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายก็อยู่ไม่ได้ เราไม่เคยขัดแย้งกับกฎหมาย กฎหมายไม่เคยรังแกใคร เราต้องรื้อ ลด ปลด สร้างกฎหมายหลายตัว เพื่อให้การพัฒนาประเทศไม่สะดุด

วันนี้มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตผู้พิพากษา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดังนั้นผมจึงเชื่อมั่นว่าเราจะทำได้และประเทศจะปลอดภัยมีกฎหมายที่ดี ที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน “ลุงตู่ตัวจริงมาแล้ว เสียงดังเหมือนเดิม หน้าตาเหมือนเดิม รักทุกคน ทุกวัยทุกเพศ ทุกอาชีพ ที่ห่วงที่สุดคือเด็กน้อยเหล่านี้เขาต้องมีอนาคต อย่าทิ้ง ส.ส.สุพล เบอร์ 9 ขอให้เลือกเข้ามา และอย่าลืมเบอร์ 22 ให้ลุงตู่เข้าไปทำงาน เราต้องเลือกคนของเราเข้าสภาให้มากขึ้น ลุงตู่จะได้ทำงานให้มากขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย