ภท.โต้ “ทีดีอาร์ไอ” ยันนโยบายหาเสียงไม่ได้ใช้งบมากกว่าพรรคอื่น

พรรคภูมิใจไทย 8 พ.ค.-พรรคภูมิใจไทย โต้ ‘ทีดีอาร์ไอ’ แก้ไขข้อสังเกต หลังระบุนโยบายพรรคใช้เงินมากสุดถึง 1.9 ล้านล้านบาท ทำเสียคะแนนนิยม ยันใช้งบฯรัฐเพียง 2.23 แสนล้านบาท ที่เหลือมาจาก เอกชนทั้งในและต่างประเทศ-แก้กฎหมาย  แจง ‘โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง’ ใช้วิธี PPP ด้าน ‘พุทธิพงษ์’ ติงถูกบิดเบือน มั่นใจใช้เงินรัฐไม่ติด 1ใน 5 ของพรรคการเมือง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย(ภท.) มีการแถลงชี้แจงกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ออกมาระบุถึงนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งปี2566 ของพรรคภูมิใจไทยใช้งบประมาณมากที่สุด จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกทม. พรรคภูมิใจไทย และน.ส.เพียงออ เลาหะวิไลย นักวิจัยมูลนิธิสถาบันเพื่อพัฒนานวัตกรรม Innova Foundataion อาจารย์วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันชี้แจง

โดย น.ส.เพียงออ กล่าวว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยมีทั้งสิ้น 21 นโยบาย ไม่ได้อาศัยงบประมาณการลงทุนจากรัฐเพียงอย่างเดียว แต่จะหางบประมาณจากแหล่งอื่น ได้แก่ ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการแก้กฎหมาย อาทิ นโยบายพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก ใช้งบฯจากแหล่งอื่นด้วยการระดมเงินจากประชาชน และลงทุนออกพันธบัตร 4 รุ่น จำนวน1.6 ล้านล้านบาท จะสามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเมื่อจบโครงการจำนวน 4.79แสนล้านบาท,โครงการเงินกู้ฉุกเฉิน  50,000 บาท เพื่อคนไทย ใช้งบฯจากแหล่งอื่นเช่นกันจำนวน  2.5 ล้านล้านบาท ด้วยการแก้กฎหมายของกระทรวงการคลัง เพื่อเปิดโอกาสสถาบันการเงินอื่นๆ (Non Bank) และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เข้ามาเปิดโอกาสให้ประชาชนมากขึ้น จากเดิมที่จำกัดเพียงไม่กี่สถาบันการเงิน


น.ส.เพียงออ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีนโยบายแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง สร้างเศรษฐกิจไทยมั่งคั่ง ใช้งบฯ จากแหล่งอื่น จำนวน 1 ล้านล้านบาท ใช้วิธีการส่งเสริมการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน หรือ PPP ซึ่งจะได้ผลตอบแทน 1.3 ล้านล้านบาท เป็นต้น  รวมถึงโครงการส่งภาษีสู่บ้านเกิดเมืองนอน ไม่ต้องใช้งบฯ รัฐ แต่เป็นการจัดสรรภาษีกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ใครที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดไหน ก็จะส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวน  30 % ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลงสู่ท้องถิ่นโดยตรง ขณะที่นโยบายที่ใช้การลงทุนของภาครัฐ คือกองทุนประกันชีวิตผู้สูงอายุ จำนวน  37,098 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับ 21 นโยบายพรรคภูมิใจไทย ใช้งบฯ จากภาครัฐจำนวน 223,629 ล้านบาท งบฯจากแหล่งอื่น 7,225,880 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 7,449,509 ล้านบาท ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเฉพาะส่วนรัฐ 6,138,892 ล้านบาท และผลตอบแทนมากกว่าการลงทุน 5,915,262 ล้านบาท

ด้านนายศุภชัย ยืนยันว่านโยบายของพรรคได้ผ่านการศึกษาร่วมกับนักวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี แล้วว่าสามารถทำได้จริงไม่เป็นภาระกับรัฐและประชาชน ผ่านทั้ง 21 นโยบายของพรรค ยึดแนวทางเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาสให้ประชาชน และสร้างโอกาสให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน


นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ทีดีอาร์ไปดูตัวเลขคลาดเคลื่อน และระบุว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยใช้งบประมาณมากที่สุด เป็นการเข้าใจผิด เพราะไปดูตัวเลขสุดท้าย โดยไม่ได้ไปดูแหล่งที่มาของเงิน ซึ่งหลายโครงการพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ใช้งบประมาณของประเทศ ทั้งที่เราใช้งบประมาณของรัฐเพียง 223,629 ล้านบาท ไม่ใช่ตัวเลขที่ทีดีอาร์ไอบอกไว้ว่าพรรคภูมิใจไทยต้องใช้เงินถึง 1.9 ล้านล้านบาท สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ยืนยันว่าเราไม่ใช่งบฯ แต่จะเชิญเอกชนเข้ามาลงทุนเหมือนโครงการอีอีซี รวมทั้งออกกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้

“ขณะนี้ได้ทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับการใช้งบประมาณไปให้ทีดีอาร์ไอแล้ว ระหว่างนี้ที่กำลังดูข่าว อยากเรียกร้องให้ทีดีอาร์ไอที่เป็นสถาบันที่เป็นที่ยอมรับของประเทศ ช่วยแก้ไขข้อมูลที่เผยแพร่มาก่อนหน้านี้ เพราะมันมีผลต่อคะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทย ก็ฝากท่านไปดูตัวเลขใหม่ ขอย้ำว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยเป็นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ประชาชน โดยไม่ให้กระทบต่องบประมาณแผ่นดิน เราใช้งบฯน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆ พรรคการเมือง รวมทั้งนโยบายของพรรคยังสร้างรายได้เข้ามาอย่างมหาศาลอีกด้วย”  นายศุภชัย กล่าว

ขณะที่นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีการบิดเบือนงบประมาณเกี่ยวกับการผลักดันนโยบาย ซึ่งทุกนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ได้คำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง หลายโครงการไม่ได้เป็นรูปแบบใหม่ หรือรัฐต้องมาลงทุนเต็ม พรรคภูมิใจไทยเน้นนโยบายที่ไม่ใช่ประชานิยม นโยบายนอกจากทำได้จริงแล้วยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชน สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ที่ทีดีอาร์ไอออกมาระบุว่าพรรคภูมิใจไทยใช้งบฯ1.7ล้านล้านบาท ข้อเท็จจริงไม่ได้ใช้งบประมาณเลย หากไปดูพรรคการเมืองอื่นมีการใช้งบณที่มากกว่านี้ ถ้าทีดีอาร์ไอใช้มาตรฐานเดียวกัน ตนมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยใช้งบฯไม่ติด1ใน5ของพรรคการเมืองที่ใช้งบประมาณมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]