คลื่น FM 96.5 จัดเวที “MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง66 The Last War”

อสมท 6 พ.ค. – “คลื่น FM 96.5 จัดเวที MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง66 The Last War” ผ่านรายการเสาร์เสวนา สเปเชียล ตัวแทน 6 พรรคการเมือง ร่วมแลกเปลี่ยนกลยุทธ์สู้ศึกเลือกตั้งโค้งสุดท้าย ประสานเสียงไม่เห็นด้วยมีรัฐบาลเสียงข้างน้อย เชื่อทำให้เกิดความวุ่นวายหลังการเลือกตั้ง ขอ 250 ส.ว. ปิดสวิตช์ตัวเอง อย่างัดข้อกับประชาชน


รายการเสาร์เสวนา สเปเชียล คลื่น FM 96.5 จัดเวที MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง66 The Last War ดำเนินรายการโดย มนตรี จอมพันธ์ และสุปัน รักเชื้อ เชิญตัวแทน 6 พรรคการเมือง ร่วมแลกเปลี่ยนกลยุทธ์สู้ศึกเลือกตั้งโค้งสุดท้าย ประกอบด้วย 1.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ 2.นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 3.นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์ 4.นายนิมิตร สมเจริญ รองโฆษกพรรคเสรีรวมไทย 5.นายวรภพ วิริยะโรจน์ ทีมเศรษฐกิจ พรรคก้าวไกล 6.นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา

ช่วงแรกให้แต่ละพรรคสะท้อนว่ามองผลโพลที่ออกมาเป็นอย่างไร นายวรวุฒิ พรรคชาติพัฒนากล้า มองว่าปัจจุบันประเทศไทยมีโพลหลายสำนัก และจัดทำถี่เกินไป เปรียบเสมือนใช้โพลชี้นำทางการเมือง ถือเป็นอันตราย แม้รัฐธรรมนูญจะเปิดให้มีพรรคการเมืองได้มากรอบนี้ 69 พรรคการเมือง แต่ก็ทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็กไม่ได้รับความสนใจ เพราะสื่อจะสนใจไปที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ลำดับต้นๆ ของโพล จึงไม่เหมาะกับการสนับสนุนประชาธิปไตย และในต่างประเทศจะไม่มีการทำโพลถี่ขนาดนี้ อีกทั้งจะมีเพียงไม่กี่สำนักโพลที่จัดทำและเชื่อถือได้ อ้างอิงตามหลักวิชาการ มีฐานกลุ่มตัวอย่างที่มากกระจายตามหลักวิชาการ แต่ตอนนี้ประเทศไทยไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ


นายนิกร พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า บางสำนักโพลต้องใช้มือถือในการโหวต และค่อนข้างทำได้ยาก ไม่เหมาะกับคนทุกกลุ่ม จากนั้นก็นำมาเผยแพร่ทำให้ผู้ที่ถูกจัดอันดับเชื่อ ทั้งที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น และเรื่องโพลมีผลทางการเมืองอยู่มาก เพราะมีการนำไปใช้ส่งผลกระทบเยอะ แต่พรรคชาติไทยพัฒนาไม่หวั่นไหวเรื่องนี้ เพราะมีแผนที่วางไว้ เพียงแต่มีปัญหากับการเลือกตั้งโดยรวมแน่

ด้านนายวรภพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า แต่ละโพลมีวิธีจัดทำแตกต่างกัน เพียงแต่ต้องดูว่าโพลครั้งที่ผ่านมากับครั้งล่าสุดแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งการที่ผลโพลออกมาสามารถสื่ออะไรบางอย่างได้ และไม่ใช่เพียงโพลเท่านั้น การลงพื้นที่ การปราศรัย นโยบาย ก็สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงได้ จึงเป็นที่มาว่าผลโพลล่าสุด พรรคก้าวไกลเริ่มนำขึ้นมาเมื่อเทียบกับครั้งก่อน

นายพิสิฐ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทำโพลเป็นเรื่องที่ดี ทำให้รู้ว่าพรรคมีเรทติ้งอย่างไร และผลสะท้อนออกมาอย่างไร แต่ในทางปฏิบัติต้องดูว่ามีการใช้โพลชี้นำหรือไม่ จึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบด้วยว่าการจัดทำโพลเหล่านั้นถูกหลักวิชาการหรือไม่


ขณะที่นายนิมิตร พรรคเสรีรวมไทย มองว่าผลโพลที่ออกมา พรรคเสรีรวมไทยน้อมรับ เพราะเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชน และเป็นสิ่งที่พรรคต้องขยันทำงานให้หนักขึ้น

นายธีระชัย กล่าวว่า ผลโพลสะท้อนการเมืองและบรรยากาศทางการเมืองมากเกินไป หลายพรรคมีนโยบายที่ดีมาก แต่การทำผลโพลที่ออกมาไม่ได้สะท้อนว่าประชาชนชื่นชอบในนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองอย่างไร

จากนั้นช่วงสุดท้ายของเวทีเสวนาได้ให้ตัวแทนพรรคการเมืองสะท้อนคำถามของสังคม เรื่องจะสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่

นายนิกร พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะไม่สามารถทำงานในสภาฯ โดยเฉพาะการผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ ซึ่งเดิมทีประเทศไทยให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุดได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ปัจจุบันพบว่าหากเป็นแกนนำในการรวมเสียงได้มากก็จัดตั้งรัฐบาล ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมสภาฯ และหากใครเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็จะสามารถบอกได้ ดังนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาไม่หนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนหลังเลือกตั้งตนมองว่าจะเกิดความวุ่นวาย และปัญหาจะมาจาก ส.ว. ที่ยังมีวาระสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ จะทำให้สภาฯ บิดตัวไปมา ทำให้มองยาก แต่หลังจากมี ส.ว.ชุดใหม่ ที่ไม่มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้นจะเป็นหลุมใหญ่ที่สภาฯ ไม่น่าจะผ่านจุดนั้นไปได้ และมีปัญหาจนอาจเกิดการยุบสภาฯ ในช่วงรอยต่อนั้น

นายวรภพ พรรคก้าวไกล ระบุว่า เห็นว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้มีผลอะไร และสุดท้ายก็มีคนใหม่ที่มีชุดความคิดเหมือนกัน อุดมการ เหมือนกันขึ้นมาทำงาน และความต้องการของประชาชนก็ยังอยู่ เท่ากับว่าไม่ได้มีการยึดติดตัวบุคคล แต่เป็นความต้องการของประชาชนที่ต้องการเห็นการขับเคลื่อนประเทศไทยไปในสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการนำเสนอ

นายนิมิตร พรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า สนับสนุนหลักการประชาธิปไตย เคารพในเสียงส่วนมาก ในเมื่อฉันทามติเห็นควรให้พรรคใดพรรคหนึ่งมีเสียงส่วนมากในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเสรีรวมไทยต้องเคารพ และจุดยืนคือไม่เข้าร่วมกับผู้ยึดอำนาจ

นายพิสิฐ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มองโลกทุกวันนี้ด้วยความเป็นห่วง เพราะกำลังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายออกเป็นสองพวก และเอเชียกำลังร้อนแรง ดังนั้น ในการกำหนดชะตาอนาคตของประเทศไทยต้องดูตามสภาวะของโลกที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการบริหารประเทศด้วยการยึดอำนาจ เรามองว่าประเทศต้องการผู้นำที่มีความสุขุมรอบคอบ และพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นสถาบันการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน

นายนิกร พรรคชาติพัฒนากล้า ยืนยันว่า ไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย และ ส.ว. ควรปิดสวิตช์ตัวเองได้แล้ว อย่าทำให้ประชาชนมองว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมาถูก คนไม่กี่คนมาล้มล้างสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศคิดและตัดสินใจ และหากยังดึงดันในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตนเชื่อว่าเหตุการณ์จะบานปลาย จบไม่สวย ดังนั้น วิงวอน ส.ว. 250 ท่าน ปิดสวิตช์ตัวเอง เพราะไม่ควรงัดข้อกับประชาชนทั้งประเทศ

นายธีระชัย พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าไม่เข้าร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่หากมีพรรคการเมืองที่พยายามจะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประวิตร มีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร และตนมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยภายในบริบทขณะนี้ ความเข้าใจของตนคือคงต้องใช้เสียง ส.ว. เข้ามาโหวตด้วย และคงทำให้เกิดข้อวิจารณ์ว่าใครเป็นผู้แต่งตั้ง ส.ว. เมื่อมาถึงตอนนี้กลับไม่ได้เสียงไว้วางใจจากประชาชน ผลงานไม่เข้าตา และมาจากอาศัย ส.ว. ที่ตนเองตั้งไว้ เพื่อจะทำให้จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย คงจะเกิดข้อวิจารณ์

ส่วนข้อวิจารณ์อีกประการคือเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเสียงข้างน้อย คือการจัดตั้งรัฐบาลไปก่อน จากนั้นจะมีเสียงเข้ามาเพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากไปเองในที่สุด จึงทำให้เกิดคำถามว่าสิ่งที่จะเข้ามาเป็นงูเห่าหรือไม่ และถ้าเป็นงูเห่า เป็นเรื่องดี สำหรับระบบการเมืองไทยหรือไม่ ในเมื่อไม่ตรงใจกับสิ่งที่ประชาชนลงคะแนนเอาไว้จะยิ่งทำให้การบริหารเศรษฐกิจในอนาคตยากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย