กกต.เปิดศูนย์เฟคนิวส์ หวังป้องปรามข่าวปลอม

กกต. 2 พ.ค. – กกต. เปิดศูนย์ต้านเฟคนิวส์ ยันไม่ใช้เป็นเครื่องจ้องทำลาย แต่หวังป้องปราม หลังมีบทเรียนเลือกตั้ง 62 ข่าวปลอมสะพัดไม่ต่างเลือกตั้งครั้งนี้ จับตาดีเบต “ธนาธร-นพ.พรหมมินทร์” ใส่ร้าย กกต. เปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส. หวังคะแนนเสียง แย้มอีก 2 วันมีข่าวใหญ่ อุบรายละเอียด


นายปกรณ์ มหรรณพ และนายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวเปิดศูนย์ปฏิบัติงานคณะกรรมการต่อต้านข่าวเท็จ ที่จัดขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และสำนักงาน กกต. และชี้แจงทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และสำนักงาน ให้ประชาชนรับทราบ และเกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.

นายฐิติเชฎฐ์ กล่าวว่า กกต. มีมติให้จัดตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อให้มีคณะกรรมการต่อต้านข่าวเท็จ ขึ้นมาคอยตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริง จากนั้นจะรายงานให้คณะกรรมการเลือกตั้งได้รับทราบ โดยจะเน้นการชี้แจงข่าวเท็จจริงและไม่เป็นความจริงเพื่อให้ทันต่อการแก้ไขสถานการณ์ เนื่องจากในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 2562 พบว่ามีข่าวเท็จจำนวนมากที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของ กกต. ซึ่งในครั้งนั้นอาจเกิดจากการว่างเว้นการเลือกตั้งถึง 7 ปี


“ข่าวที่ไม่เป็นความจริงเป็นการทำลายและทำให้การทำงานของ กกต. ไม่ราบรื่น และในครั้งนั้นได้มีการแจ้งความดำเนินคดี และศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว และในการเลือกตั้งปี 2566 คาดว่าจะมีข่าวเหมือนเช่นปี 2562 โดยผู้ที่ไม่หวังดียังมีอยู่ แม้ กกต. จะให้ข้อมูลมากเพียงไร ยังมีผู้ที่มีอคติต่อการทำงานของ กกต. ไม่สามารถหลีกเลี่ยง จึงยังมีข่าวเท็จเผยแพร่ในโซเชียล โดยได้มีการแจ้งต่อผู้โพสต์หากยังไม่แก้ไข จะดำเนินคดีต่อผู้ให้ข่าวและผู้ไม่ประสงค์ดีกับ กกต. อย่างไรก็ตาม กกต. ยังเปิดโอกาสให้แสดงความเห็นได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ใช่การใส่ร้ายหรือให้ความเท็จจริง”  นายฐิติเชฏฐ์ กล่าว

ด้านนายปกรณ์ กล่าวถึงข่าวก่อนหน้านี้ กรณีการยุบพรรคติดเทอร์โบ ชี้แจงว่าเป็นการออกระเบียบตามกฎหมาย ซึ่งถ้าดูตามระเบียบแล้วจะเป็นการให้อำนาจเลขาธิการ กกต. สามารถดำเนินการได้โดยเร็ว และการพิจารณาเป็นการทำ โดยไม่มีเวลา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องยื่นหลักฐานต่อสู้ได้เต็มที่ รวมทั้งเรื่องการแบ่งเขตที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นการแบ่งเขตแบบไม่มีเขตหลัก เอาแต่ใจ ยืนยันว่าเรื่องนี้เราถูกด่าเป็นเดือน และศาลปกครองได้มีคำพิพากษาแล้วว่าเราทำโดยถูกต้องตามกฎหมาย  ซึ่ง กกต. ทำตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด สิ่งที่เราทำเราให้เกียรติท่านที่เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ผู้แทนเขต รวมทั้งกรณีบัตรเลือกตั้งที่ยังถูกต้องข้อสังเกตรายละเอียดบัตรทั้งสองใบ ซึ่งรายละเอียดในบัตรเลือกตั้ง กกต. ไม่ได้เป็นผู้กำหนด แต่มาตรา 84 ของ พ.รป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นผู้กำหนด

ส่วนเรื่องพิมพ์บัตรเลือกตั้งสำรองเกิน 7 ล้านเล่ม นายปกรณ์ ยืนยันว่าเป็นเรื่องเกินจริง ที่จริงแล้วมีการพิมพ์บัตรสำรองแค่ 5 ล้านใบเท่านั้น เนื่องจากการพิมพ์บัตรต้องพิมพ์เป็นเล่มและสำรองแต่ละหน่วยเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งละ 1 เล่ม ซึ่งประเทศไทยมีประมาณ 1 แสนหน่วย ฉะนั้นก็สำรองส่วนนี้ 2 ล้านใบ รวมทั้งสำรองให้กรรมการประจำหน่วยและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่จะใช้สิทธิในหน่วยดังกล่าวอีก 1 เล่ม ทั้งสองส่วนนี้ก็เกือบ 4 ล้านใบแล้ว นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความผิดพลาดในการพิมพ์ ที่บางเล่มมีจำนวนไม่ครบ หรือการพิมพ์ผิดพลาด ก็ต้องสำรองไว้อีก 1 ล้านใบ รวมแล้วก็เกือบ 5 ล้านใบ เรื่องการพิมพ์บัตรสำรองดูตัวอย่างได้จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้สิทธิ 94 คนที่ซูดาน ที่เราต้องทิ้งบัตรเลือกตั้งนอกราชของทั้ง 94 คน  หากเกิดกับประเทศใหญ่จะทำอย่างไร 


“เราไม่จำเป็นต้องพิมพ์บัตรมากเกินไป แต่ต้องสำรองไม่ให้ผิดพลาด ไม่มีการทุจริตในเรื่องบัตรเลือกตั้ง ซึ่งในการเลือกตั้งเมื่อปิดการลงคะแนนทุกหน่วยจะติดให้ทราบว่าใช้บัตรเลือกตั้งไปเท่าไร ผู้ใช้สิทธิเท่าไร เราถึงให้ความมั่นใจกับท่าน หากเกิดความผิดพลาดเล็กน้อย เราได้แก้ไขในทันทีและจัดให้ถูกต้องโดยเร็ว การผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่ต้องไม่เกิดจากการเกิดทุจริต” นายปกรณ์กล่าว

นายปกรณ์ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าจะมีการยุบพรรคก่อนการเลือกตั้ง โดยย้ำว่าไม่มีสัญญาณเรื่องการยุบพรรค แต่มันอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ ซึ่งเรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้องจะแจ้งให้ทราบ ไม่มีอะไรปิดบัง กกต. มีวาระอีกไม่นาน ยืนยันจะการทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ขอให้สัญญาด้วยตำแหน่ง

เมื่อถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายปกรณ์ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นเรื่องอะไร แม้สื่อมวลชนพยายามจะถามว่าเรื่องการยุบพรรคหรือไม่ นายปกรณ์ ปฏิเสธว่าอย่าไปคิดขนาดนั้น

ขณะที่นายฐิติเชฎฐ์ กล่าวเสริมว่า 4 ปีที่ผ่านมา ไม่มีประวัติ ในเรื่องการไม่สุจริต เที่ยงธรรม ตำแหน่งที่ผ่านมาเป็นเครื่องการันตี ข่าวที่เป็นเท็จจะต้องยุติ

นายปกรณ์ ชี้แจงถึงการติดตามข่าวที่มีผลกระทบต่อการทำงานของ กกต. โดยจะเน้นไปที่ต้นตอของข่าวที่จะมีการพิจารณาถึงการดำเนินคดี เบื้องต้นมี 2 เรื่อง กรณีการจัดดีเบตที่ จ.ชลบุรี ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ใช้คำพูดระบุว่า “ปี 62 กกต. เปลี่ยนแปลงสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรณี นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช แกนนำพรรคเพื่อไทย ดีเบตในเวทีเนชั่น ระบุว่า กกต. เปลี่ยนสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการดำเนินการของ กกต. ชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังใช้คำพูดเหล่านี้เพื่อให้ตนได้คะแนนนิยม ซึ่ง กกต. จะพิจารณาเรื่องนี้หลังการเลือกตั้ง เพราะถ้าทำตอนนี้จะมีผลต่อคะแนนเสียง เบื้องต้นให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูล ซึ่งการจะดำเนินคดีกับใครนั้นจะเป็นมติของ กกต. อย่างไรตามต้องขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ที่สื่อมวลชนพยายามขอให้วิจารณ์การทำงานของ กกต. แต่นายเศรษฐาไม่พูดถึง กกต. เป็นการส่วนตัว

“มีหลายเรื่องจบไปแล้ว แต่ยังเอามาพูดให้ได้คะแนนเสียงว่า กกต. ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันถูกต้องสมควรหรือไม่ ท่านมีสิทธิเราเคารพในสิทธิของท่าน ท่านก็ต้องเคารพในสิทธิของเราด้วย” นายปกรณ์ กล่าวและว่า ต้องยอมรับตรงๆ ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหว ซึ่งเราพยายามอดทนไม่ให้เป็นคดี ทั้งนี้ ในการประชุม กกต. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการพิจารณาเรื่องคนที่ด่าเรา ว่าเรา แต่ที่ประชุมก็มีมติไม่ดำเนินคดี จะดำเนินคดีเฉพาะต้นตอ และเรื่องที่ไม่ความจริง ส่งผลต่อให้การเลือกตั้งไม่สุจริต และอดทนและใช้ช่องทางชี้แจง” นายปกรณ์ กล่าว

นายปกรณ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการปล่อยข่าวอย่างการเลือกตั้งปี 62 ที่มีการปล่อยข่าวเรื่องขนบัตรเลือกตั้งเถื่อนที่ลานจอดรถสำนักงาน กกต. ที่สุดท้ายหลังการเลือกตั้งก็มาขอโทษ 

“ยืนยันทำงานด้วยความสุจริต โดยตนได้รับการสรรหาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา พร้อมด้วยนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี แต่ถูกมองว่า กกต. มาจาก คสช. 4-5 ปีที่มาทำงานไม่เคยคุยหรือรับประทานอาหารร่วมกับนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ไม่เคยพูดคุย เคยเจอในงานพิธี ตนรู้จักเขา เขาไม่รู้จักตน จึงยืนยันได้ว่าตนไม่ได้มาจากใคร” นายปกรณ์ กล่าว

ด้านนายฐิติเชฎฐ์ กล่าวว่า ไม่สมควรนำมาพูดอีก เพราะจะทำให้ประชาชนสับสน โดยเฉพาะเยาวชนวัย 18 ปี ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะเมื่อปี 62 เขาอาจจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่ทราบคำวินิจฉัยของศาล จึงเป็นจุดเปราะบางที่อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน

นายฐิติเชฎฐ์ กล่าวถึงการตั้งศูนย์แก้ไขข่าวว่า ไม่ต้องการเพื่อมุ่งทำลายฝ่ายใด แต่ป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามเหมือนการเลือกตั้งปี 62 การดำเนินคดีผู้ไปแสดงความคิดเห็นไม่สามารถดำเนินคดีได้กับทุกคน เราจะดำเนินคดีกับต้นตอ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วหลังเลือกตั้งก็มาขอขมา เราจึงต้องตั้งศูนย์เพื่อมาปกป้ององค์กร ไม่ให้มาก้าวล่วง ไม่เป็นธรรมกับการทำงาน อะไรที่ไม่ทำให้การเลือกตั้ง เสี่ยงต่อการไม่สุจริตเราอาจจะปล่อยผ่าน แต่หากผิดซ้ำซาก กลุ่มคนเดิมๆ ต้องดำเนินดคดีแน่ แต่ไม่ดำเนินการกับความคิดเห็นที่สุจริต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]