ภท.พบทูตอียู ย้ำจุดยืนค้านนายกฯ คนนอก

พรรคภูมิใจไทย 26 เม.ย.- “ภูมิใจไทย” เปิดพรรครับ 15 ทูตอียู แจงสถานการณ์หลังเลือกตั้ง ย้ำจุดยืนไม่เอา ม.112 ค้านนายกฯ คนนอก จับขั้วกับ “ก้าวไกล” ได้หรือไม่ ขอดูก่อน คุย “อียู” ดันปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด ประกาศรื้อกฎหมาย เตรียมปราศรัยใหญ่ กทม. 12 พ.ค.นี้ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตจากกลุ่มสหภาพยุโรป 15 ประเทศ โดยเป็นการหารือ เพื่อสอบถามนโยบายและสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศว่า จะเกิดอะไรขึ้นหลังเลือกตั้ง ซึ่งนายอนุทินได้แสดงเจตนารมณ์ ของพรรคภูมิใจไทย รวมถึงจะมีการช่วยเหลือการอย่างไรในอนาคต ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งนี้ มากว่า 1 ปี ตั้งแต่ ส.ส.ชุดปัจจุบัน ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 เมื่อยุบสภาเราพร้อมส่งผู้สมัครที่มีความนิยมชื่นชมของประชาชนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ทางทูตอียู ได้สอบถาม ถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยหลังเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ได้ย้ำ 5 ประเด็นคือ 1.ยังไม่ได้พูดคุยกับใครในการกำหนดทิศทาง ทั้งที่จะเป็นผ่านรัฐบาลหรือบทบาทหน้าที่อื่น


2.ภูมิใจไทยจะยึดมั่นในกติกาทางการเมืองสากล ใครได้ส.ส.มากกว่า ก็เป็นแกนนำดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พรรคลำดับแรกจัดตั้งรัฐบาลก่อน พร้อมสนับสนุนวิถีทางประชาธิปไตยให้มากที่สุด  ไม่ว่าจะอยู่ขั้วไหน ส่วนตำแหน่งก็เป็นกติกาสากล

3. ได้หารือถึงปัญหาของผู้ประกอบการชาวประมง ซึ่งได้ฟังกับหูขณะเดินสายหาเสียง ถึงอุปสรรคและโอกาสที่ถูกปิดกั้นของประชาชน จากมาตรฐานที่กำหนดของอียู ซึ่ง เรา ได้ หยิบ ยก เรื่องนี้ ขึ้นมาในวงพูดคุย ว่าขณะนี้เวลาเปลี่ยนไปหลายปีแล้ว รัฐบาลก่อนมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามสถานการณ์ ประเทศที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาและอุปสรรคเหล่านี้ จุดยืนพรรคภูมิใจไทยหากได้กลับเข้ามาบริหารประเทศ เราจะนำมาแก้ไข เจรจาใหม่ กำหนดเงื่อนไข และนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากและไม่มีทางที่พรรคภูมิใจไทย จะเห็นคนที่ไม่ได้อยู่เมืองไทยดีกว่าคนไทย

ส่วนท่าทีของทูตเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีใครปฏิเสธ ทุกคนรับทราบปัญหาของประมงไทยมาระยะหนึ่ง ซึ่งปัญหาอุตสาหกรรมประมง ขณะนี้ได้ขยายวงกว้าง เชื่อว่าการเรียกร้องของเราผู้ค้ารับทราบ เพราะขณะนี้ปัญหาไม่ได้ยาก  ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบที่ต้องแก้ไข ที่ทำให้อุปสรรคถูกกำจัดออกไป เพราะอย่างไร เขาต้องบริโภคอาหารของเรา ถ้าเรามั่นใจในคุณค่าอาหารทะเลของเรา เราต้องใช้จุดแข็งเพื่อเจรจาต่อรองเราต้องปกป้องเกษตรกรของเราเป็นภารกิจที่พรรคภูมิใจไทยต้องเข้ามาแก้ไข 


4. เราถูกถามถึงสถานการณ์การเลือกตั้ง ว่าจะยุติธรรมโปร่งใส มีการยุบพรรคหรือไม่ว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เข้าใกล้ระบอบประชาธิปไตยมากที่สุดแล้ว ติดอยู่อย่างเดียวคือการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ให้ส.ว.โหวตร่วมด้วย ซึ่งตนได้แจ้งว่า ขอให้หมดไปตามกาลเวลา 24 มีค 67 บทเฉพาะกาลจะหมดไปแล้ว ป่วยการที่ จะไปคิดไปพูดเพราะเราต้องรักษาประชาธิปไตย ให้มากที่สุด ป้องกันไม่ให้อำนาจนอกระบบเอาประชาธิปไตยออกไปจากมือประชาชน ถ้าเป็นฝ่ายค้านต้องทานเพื่อประโยชน์ประชาชนไม่ใช่ค้านเพื่อสาดสีสาดโคลนทำให้เกิดการด้อยค่า เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งผู้บริหารประเทศต้องหันมาสาดโคนด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยจะไม่มีวันทำ เพราะที่ผ่านมาเราถูกสาดสี ด้อยค่า สบประมาท แต่เราพิสูจน์ด้วยผลงาน

5. พร้อมย้ำจุดยืนในการเทิดทูนสถาบัน ใครที่แตะมาตรา 112 เราร่วมงานไม่ได้ เป็นข้อจำกัดที่เราจะไม่ร่วม และไม่จะเอามาตรา 272 เพราะนายกรัฐมนตรีต้องมาจากส.ส. และต้องมาจากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนนอก ไม่มีวันสนับสนุน ไม่ว่าพรรคจะได้ร่วม หรือไม่ร่วมรัฐบาล เพราะถือเป็นกระบวนการที่ แฝงอยู่ในประชาธิปไตยแต่ไม่เป็นประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลไม่เสนอแก้มาตรา 112 จะสามารถจับขั้วกันได้หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากัน ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วม เพราะขณะนี้อยู่ที่ข้อเสนอของแต่ละพรรคของเราต้องผลักดันกฎหมายกัญชาเข้าสภาก่อน 

ส่วนเหตุใดที่คณะทูตอียูเลือกพรรคภูมิใจไทย  เพื่อมาหารือในครั้งนี้ นายอนุทิน ชี้แจงว่า ทางคณะแจ้งว่า เขาไปหาพรรคที่เชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญ ในการกำหนดทิศทางทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ส่วนอียูอยากเห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เขาสนับสนุนประชาธิปไตยเต็มที่

ส่วนได้มีการสอบถามนโยบายกัญชาหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า มีทูต 1 ประเทศ สอบถาม และเรายืนยันว่าเราทำสำเร็จคือการปลดล็อคกัญชาออกจากพืชยาเสพติด และใช้กฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อควบคุมป้องกัน และเมื่อเราสามารถกลับเข้าไปในสภาได้อีกครั้งอันดับต้นๆ  คือเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ที่ค้างแต่ไม่ได้ตก เข้าสู่สภา เอาเป็นร่างที่ผ่านการลงมติ กมธ. วิสามัญร่างพ.ร.บ.กัญชงกัญชาแล้ว

เมื่อถามถึง ประเด็นเรื่องยุบพรรค มองว่าอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า ให้เขาไปดูสิ พรรคที่ถูกยกยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวันคนที่สิ้นสภาพคือพรรคและผู้บริหารแต่สมาชิก ไม่ได้สิ้นสภาพไปด้วย ดังนั้นการยุบพรรคจึงไม่ใช่การแก้ไขปัญหา แต่จะยิ่งขยายความแตกแยกความเกลียดชังเข้าไป หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เคยอยู่บ้าน 111 ย้อนถามว่าหยุดได้หรือไม่ ดังนั้นการหยุดพักไม่ใช่คำตอบสุดท้าย และไม่ใช่หนทางการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองแต่อย่างใด ส่วนข่าวการยุบพรรคจะจริงหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะขณะนี้ภูมิใจไทยไม่ได้ติดต่อกับใคร เสพข่าวเหมือนชาวบ้านทั่วไป นายอนุทิน ยัง เปิดเผยว่าพรรคภูมิใจไทยมีกำหนดการปราศรัยใหญ่ ปิดท้าย ในวันที่ 12 พฤษภาคม  ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่ได้กำหนดสถานที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]