ภท.พบทูตอียู ย้ำจุดยืนค้านนายกฯ คนนอก

พรรคภูมิใจไทย 26 เม.ย.- “ภูมิใจไทย” เปิดพรรครับ 15 ทูตอียู แจงสถานการณ์หลังเลือกตั้ง ย้ำจุดยืนไม่เอา ม.112 ค้านนายกฯ คนนอก จับขั้วกับ “ก้าวไกล” ได้หรือไม่ ขอดูก่อน คุย “อียู” ดันปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด ประกาศรื้อกฎหมาย เตรียมปราศรัยใหญ่ กทม. 12 พ.ค.นี้ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตจากกลุ่มสหภาพยุโรป 15 ประเทศ โดยเป็นการหารือ เพื่อสอบถามนโยบายและสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศว่า จะเกิดอะไรขึ้นหลังเลือกตั้ง ซึ่งนายอนุทินได้แสดงเจตนารมณ์ ของพรรคภูมิใจไทย รวมถึงจะมีการช่วยเหลือการอย่างไรในอนาคต ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งนี้ มากว่า 1 ปี ตั้งแต่ ส.ส.ชุดปัจจุบัน ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 เมื่อยุบสภาเราพร้อมส่งผู้สมัครที่มีความนิยมชื่นชมของประชาชนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ทางทูตอียู ได้สอบถาม ถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยหลังเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ได้ย้ำ 5 ประเด็นคือ 1.ยังไม่ได้พูดคุยกับใครในการกำหนดทิศทาง ทั้งที่จะเป็นผ่านรัฐบาลหรือบทบาทหน้าที่อื่น


2.ภูมิใจไทยจะยึดมั่นในกติกาทางการเมืองสากล ใครได้ส.ส.มากกว่า ก็เป็นแกนนำดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พรรคลำดับแรกจัดตั้งรัฐบาลก่อน พร้อมสนับสนุนวิถีทางประชาธิปไตยให้มากที่สุด  ไม่ว่าจะอยู่ขั้วไหน ส่วนตำแหน่งก็เป็นกติกาสากล

3. ได้หารือถึงปัญหาของผู้ประกอบการชาวประมง ซึ่งได้ฟังกับหูขณะเดินสายหาเสียง ถึงอุปสรรคและโอกาสที่ถูกปิดกั้นของประชาชน จากมาตรฐานที่กำหนดของอียู ซึ่ง เรา ได้ หยิบ ยก เรื่องนี้ ขึ้นมาในวงพูดคุย ว่าขณะนี้เวลาเปลี่ยนไปหลายปีแล้ว รัฐบาลก่อนมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามสถานการณ์ ประเทศที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาและอุปสรรคเหล่านี้ จุดยืนพรรคภูมิใจไทยหากได้กลับเข้ามาบริหารประเทศ เราจะนำมาแก้ไข เจรจาใหม่ กำหนดเงื่อนไข และนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากและไม่มีทางที่พรรคภูมิใจไทย จะเห็นคนที่ไม่ได้อยู่เมืองไทยดีกว่าคนไทย

ส่วนท่าทีของทูตเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีใครปฏิเสธ ทุกคนรับทราบปัญหาของประมงไทยมาระยะหนึ่ง ซึ่งปัญหาอุตสาหกรรมประมง ขณะนี้ได้ขยายวงกว้าง เชื่อว่าการเรียกร้องของเราผู้ค้ารับทราบ เพราะขณะนี้ปัญหาไม่ได้ยาก  ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบที่ต้องแก้ไข ที่ทำให้อุปสรรคถูกกำจัดออกไป เพราะอย่างไร เขาต้องบริโภคอาหารของเรา ถ้าเรามั่นใจในคุณค่าอาหารทะเลของเรา เราต้องใช้จุดแข็งเพื่อเจรจาต่อรองเราต้องปกป้องเกษตรกรของเราเป็นภารกิจที่พรรคภูมิใจไทยต้องเข้ามาแก้ไข 


4. เราถูกถามถึงสถานการณ์การเลือกตั้ง ว่าจะยุติธรรมโปร่งใส มีการยุบพรรคหรือไม่ว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เข้าใกล้ระบอบประชาธิปไตยมากที่สุดแล้ว ติดอยู่อย่างเดียวคือการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ให้ส.ว.โหวตร่วมด้วย ซึ่งตนได้แจ้งว่า ขอให้หมดไปตามกาลเวลา 24 มีค 67 บทเฉพาะกาลจะหมดไปแล้ว ป่วยการที่ จะไปคิดไปพูดเพราะเราต้องรักษาประชาธิปไตย ให้มากที่สุด ป้องกันไม่ให้อำนาจนอกระบบเอาประชาธิปไตยออกไปจากมือประชาชน ถ้าเป็นฝ่ายค้านต้องทานเพื่อประโยชน์ประชาชนไม่ใช่ค้านเพื่อสาดสีสาดโคลนทำให้เกิดการด้อยค่า เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งผู้บริหารประเทศต้องหันมาสาดโคนด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยจะไม่มีวันทำ เพราะที่ผ่านมาเราถูกสาดสี ด้อยค่า สบประมาท แต่เราพิสูจน์ด้วยผลงาน

5. พร้อมย้ำจุดยืนในการเทิดทูนสถาบัน ใครที่แตะมาตรา 112 เราร่วมงานไม่ได้ เป็นข้อจำกัดที่เราจะไม่ร่วม และไม่จะเอามาตรา 272 เพราะนายกรัฐมนตรีต้องมาจากส.ส. และต้องมาจากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนนอก ไม่มีวันสนับสนุน ไม่ว่าพรรคจะได้ร่วม หรือไม่ร่วมรัฐบาล เพราะถือเป็นกระบวนการที่ แฝงอยู่ในประชาธิปไตยแต่ไม่เป็นประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลไม่เสนอแก้มาตรา 112 จะสามารถจับขั้วกันได้หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากัน ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วม เพราะขณะนี้อยู่ที่ข้อเสนอของแต่ละพรรคของเราต้องผลักดันกฎหมายกัญชาเข้าสภาก่อน 

ส่วนเหตุใดที่คณะทูตอียูเลือกพรรคภูมิใจไทย  เพื่อมาหารือในครั้งนี้ นายอนุทิน ชี้แจงว่า ทางคณะแจ้งว่า เขาไปหาพรรคที่เชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญ ในการกำหนดทิศทางทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ส่วนอียูอยากเห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เขาสนับสนุนประชาธิปไตยเต็มที่

ส่วนได้มีการสอบถามนโยบายกัญชาหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า มีทูต 1 ประเทศ สอบถาม และเรายืนยันว่าเราทำสำเร็จคือการปลดล็อคกัญชาออกจากพืชยาเสพติด และใช้กฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อควบคุมป้องกัน และเมื่อเราสามารถกลับเข้าไปในสภาได้อีกครั้งอันดับต้นๆ  คือเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ที่ค้างแต่ไม่ได้ตก เข้าสู่สภา เอาเป็นร่างที่ผ่านการลงมติ กมธ. วิสามัญร่างพ.ร.บ.กัญชงกัญชาแล้ว

เมื่อถามถึง ประเด็นเรื่องยุบพรรค มองว่าอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า ให้เขาไปดูสิ พรรคที่ถูกยกยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวันคนที่สิ้นสภาพคือพรรคและผู้บริหารแต่สมาชิก ไม่ได้สิ้นสภาพไปด้วย ดังนั้นการยุบพรรคจึงไม่ใช่การแก้ไขปัญหา แต่จะยิ่งขยายความแตกแยกความเกลียดชังเข้าไป หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เคยอยู่บ้าน 111 ย้อนถามว่าหยุดได้หรือไม่ ดังนั้นการหยุดพักไม่ใช่คำตอบสุดท้าย และไม่ใช่หนทางการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองแต่อย่างใด ส่วนข่าวการยุบพรรคจะจริงหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะขณะนี้ภูมิใจไทยไม่ได้ติดต่อกับใคร เสพข่าวเหมือนชาวบ้านทั่วไป นายอนุทิน ยัง เปิดเผยว่าพรรคภูมิใจไทยมีกำหนดการปราศรัยใหญ่ ปิดท้าย ในวันที่ 12 พฤษภาคม  ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่ได้กำหนดสถานที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย