ชี้ พท.ประกาศไม่ร่วมวง “พปชร-รทสช.” หลังคะแนนนิยมลด

นิด้า 24 เม.ย. –นักวิชาการนิด้า มอง “เศรษฐา-แพทองธาร”ประสานเสียงประกาศจุดยืนไม่จับขั้ว พปชร.-รทสช. กังวลหลังคะแนนนิยมลดลง อาจส่งผลเป้าหมายแลนด์สไลด์ ตั้งข้อสังเกตเกิดกลยุทธ์จับมือทิ้งพรรค 2 ลุง ขณะที่ตัวเปลี่ยนเกมคือ ปชป.


นายพิชาย  รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสินและน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ประกาศจุดยืนชัดเจนไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า พรรคเพื่อไทยคงมีความกังวล หลังช่วงกลางเดือนเมษายนมีคะแนนความนิยมลดลง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความไม่ชัดเจนเรื่องจุดยืนจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพปชร.และรทสช.ทำให้เกิดคำถามอย่างต่อเนื่อง และกังวลว่าจากความไม่ชัดเจนนี้ประชาชนจะหันไปเทคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล ซึ่งส่งผลกระทบกับเป้าหมายแลนด์สไลด์ได้ เช่นคะแนนลดลงไป 4-5 % จากที่ปัจจุบันมีคะแนน 47 % จะลงไปอยู่ที่ 42% จะทำให้เป้าหมายแลนด์สไลด์ยากขึ้นดังนั้นจึงต้องปรับตัว ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าการประกาศจุดยืนชัดจะทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นหรือไม่  

 เมื่อถามว่าจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการจับขั้วรัฐบาลส่งผลต่อคะแนนนิยมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิชาย กล่าวว่า ที่ผ่านมาจุดยืนพรรคก้าวไกลชัดเจนมาตั้งแต่แรกว่าต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนพรรคเพื่อไทยยังไม่ชัดเจนจนสุดท้ายต้องประกาศความชัดเจน แต่คนก็ยังไม่เชื่อมั่นเพราะผู้ที่ประกาศคือ นายเศรษฐา ซึ่งคนยังสงสัยว่าจะเป็นตัวจริงหรือไม่ที่จะมีอำนาจในการตัดสินใจ ทำให้น.ส.แพทองธาร ต้องออกมายืนยันเพิ่มอีกเสียง แต่สุดท้ายต้องดูว่าใครจะเป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจอย่างแท้จริงซึ่งอาจจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย 


 ด้านนายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” มองว่าการออกมาประกาศจุดยืนไม่จับมือตั้งรัฐบาลของ 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย อาจมีแผนอะไรหรือไม่ ตนเคยให้ความเห็นเรื่องให้รัฐบาลระวังยุทธการปราบ 3ป. คือ พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ต้องอาศัยเสียง ส.ว.ดังนั้นหลังการเลือกตั้งหากพรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเสียงรวมกันได้เยอะไม่พอ ยกตัวอย่างได้เสียง 120 เสียง ส่วนอีกฝั่งรวมกันได้ 380เสียง ถ้าเกิดการจับมือรวมกันได้แล้วโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยโดยไม่ต้องอาศัยเสียง ส.ว. และทิ้งพรรคของ 2 ป.เป็นฝ่ายค้าน จึงต้องลองดูให้ดีว่าจะมีกลยุทธนี้เกิดขึ้นหรือไม่ 

“กลยุทธ์นี้จะเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยต้องไปจับมือกับอีกหนึ่งพรรคให้ได้ คือพรรคประชาธิปัตย์ คำถามคือจะกล่อมได้หรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์คงต้องระวังตัวเอง เนื่องจากคะแนนไม่ค่อยดี อีกทั้งจะส่งผลกับการเลือกตั้งครั้งหน้าทันทีและไม่ว่าพรรคการเมืองจะตัดสินใจอย่างไรคงต้องรอติดตามดู แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการส่งสัญญาณไปยังพรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สังเกตกลยุทธ์นี้ไว้ด้วย ย้ำว่ากลยุทธ์นี้จะเกิดได้ขึ้นอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ หากตัดสินใจไม่ร่วมกลยุทธ์นี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้แน่นอน” นายสุวิชา กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่ประกาศชัดเจนและดูเหมือนไม่ปิดประตูตายกับพรรคเพื่อไทย นายสุวิชา กล่าวว่า หากดูจากนายเนวิน ชิดชอบ ก็เปิดประตูกว้างเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งโดยบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาย้ำเสมอว่ามีคอนเนคชันที่ดีกับคนแดนไกล ซึ่งการเมืองไทยไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร จึงเป็นไปได้ว่าอาจมีการพูดคุยกันมาแล้ว เพียงแต่ต้องรอความชัดเจนของตัวเลขอีกครั้ง มองว่าการเลือกตั้งรอบนี้มีหลายสูตรทางการเมืองในการจับขั้วรัฐบาล ยอมรับว่าการเลือกตั้งปี66 อะไรก็เกิดขึ้นได้ และทายยากว่าฝ่ายไหนจะได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งฝ่ายรัฐบาลเดิมคงทุ่มทุกสรรพกำลังเพื่อให้ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งเพราะเชื่อมั่นว่าจะสามารถฝ่ากระแสพรรคเพื่อไทยมาได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ใช้กระแสที่มีป้องกันทุกทางเพื่อเป้าหมายแลนด์สไลด์    


เมื่อถามว่าการที่หลายพรรคการเมืองกล้าตัดสินใจประกาศความชัดเจนทางการเมืองเป็นเพราะ ส.ว.เหลือวาระอีกเพียง 1 ปีหรือไม่ นายสุวิชา กล่าวว่า ใช่ เพราะอำนาจที่ยังมีเหลืออีก 1 ปี และต้องมาดูอีกว่า ส.ว.จะเอนไปทางไหน จะตัดสินใจอย่างไร และมี ส.ว.เพียงไม่กี่คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ และส่วนตัวมองว่า ส.ว.ส่วนหนึ่งอาจตัดสินใจไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย