“ชัยธวัช” ปลุกประชาชนฝันใหญ่ สู้ฝ่ายอนุรักษ์นิยม

กทม. 23 เม.ย.-“ชัยธวัช” ปลุกประชาชนฝันใหญ่สู้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมแช่แข็งประเทศ กาก้าวไกล ทำในสิ่งที่นักการเมืองเก่าๆ ไม่ทำ เอา “ประยุทธ์” ออกไปแล้วต้องเอา “ประวิตร” ออกด้วย

สามย่านมิตรทาวน์ วานนี้ (22 เม.ย.) บนเวทีปราศรัยใหญ่พรรคก้าวไกล “รัฐบาลก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 3 พรรคก้าวไกล ปราศรัยหาเสียงปลุกฝ่ายประชาธิปไตยกล้าคิด กล้ามีความฝันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ความเปลี่ยนแปลงของอนาคตใหม่-ก้าวไกลเกิดขึ้นแล้วทั้งในสภา และการที่ทุกพรรคแข่งกันขายนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหาร-สมรสเท่าเทียม หยุดวาทกรรมเลือกก้าวไกลได้ประยุทธ์ขอให้ประชาชนดูการทำงานจริงตลอด 4 ปีเป็นเครื่องพิสูจน์


นายชัยธวัช เริ่มปราศรัยว่า มีคนบอกการเมืองแบบอนาคตใหม่ การเมืองแบบก้าวไกลเป็นเรื่องเพ้อฝันเป็นไปไม่ได้ ทุกคนได้รับการกล่อมเกลาตั้งแต่ในโรงเรียนมีการกล่อมเกลาอยู่เสมอว่าประเทศนี้ดีพออยู่แล้ว อย่าคิดเปลี่ยนแปลงอะไร ความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมที่เป็นความคิดที่หลงผิด หรือความคิดที่ผิด เพื่อต่อสู้กับความคิดนี้ทำให้ตนเก็บกระเป๋าเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อมาร่วมกับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และมิตรสหายรื้อฟื้นความคิดเปลี่ยนประเทศไทยผ่านการทำพรรคการเมือง เพื่อให้มีพรรคที่เกิดมาเพื่อทำในสิ่งที่นักการเมืองในอดีตไม่ทำ
“นี่จึงเป็นที่มาของพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกลในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าเราต้องฝันและความฝันของเราเป็นไปได้” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัชกล่าวในตอนหนึ่ง ว่าไม่กี่วันก่อนมีแกนนำพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ปราศรัยบอกว่าแผ่นดินประเทศนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ใครไม่ชอบก็ไปอยู่ที่อื่น ประเทศนี้ต้องเป็นเหมือนเดิม นายชัยธวัช ย้ำว่าที่ชีวิตความเป็นอยู่และประเทศเราตกต่ำมาถึงทุกวันนี้เพราะเราปล่อยให้ฝ่ายหนึ่งที่ต้องการแช่แข็งประเทศไทยกล้าฝันใหญ่ ฝันเห็นประเทศไทยที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง กล้าฝันว่าการรัฐประหาร หนึ่งครั้งยังไม่พอ กล้ารัฐประหารซ้ำสองให้สาแก่ใจ กล้าที่จะล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้วไปตั้งรัฐบาลใหม่ในค่ายทหาร กล้าแม้กระทั่งล้อมปราบยิงประชาชนเกือบร้อยคนกลางเมืองหลวง เขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ สร้างยุทธศาสตร์ชาติ ครอบงำองค์กรอิสระ แต่งตั้ง ส.ว.เอง ยังไม่นับการออกกฎหมายหลายฉบับย้อนยุคการบริหารราชการแทบจะเป็นแบบจารีตโบราณ


“เวลาฝ่ายจารีตโบราณย้อนยุคประเทศไทยเขากล้าฝัน เขาก็เดินหน้าไปสู่ความฝันของเขาเต็มที่ ขณะที่นักการเมืองแบบไทยๆ ส่วนใหญ่อยู่เป็น และนั่งรอวันไหนมีการเลือกตั้งก็รอไปแบ่งอำนาจกับเขาบ้างสลับกันไป” นายชัยธวัชกล่าว

นายชัยธวัช ชี้ให้เห็นว่าตรงข้ามกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม เมื่อพูดถึงความฝันของประชาชน กลับมีแต่การบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ทำไมเราต้องถูกกดบีบให้เจียมเนื้อ เจียมตัว พอเพียง คิดได้ไกลที่สุดอย่างมากก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปะผุเล็กๆ น้อยๆ รอวันที่ฝ่ายที่ฝันอีกแบบกลับมาแช่แข็งประเทศ

“เราอยากเห็นระบบการศึกษาที่ทำให้ลูกหลานของเราเท่าเทียมกันเท่าทันโลก ระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ ไม่ถูกผูกขาดโดยทุนใหญ่ ระบบสวัสดิการของรัฐที่ดูแลเราตั้งแต่เกิดจนตาย เห็นระบบราชการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ประชาชนเป็นเจ้านาย ไม่ใช่เห็นคนอื่นเป็นเจ้านาย กองทัพที่อยู่ภายใต้พลเรือนจริงๆ ไม่อนุญาตให้นายพลคนไหนลากรถถังมาทำรัฐประหารอีก ไม่ต้องการเห็นนายพลคนไหนเบิกปืนจากค่ายทหารมายิงประชาชนตายบนถนนอีก ตำรวจที่ไม่มีตั๋วช้าง แต่เติบโตในหน้าที่การงานเพราะแข่งกันทำงานให้เรา ระบบการเมืองที่ตรงไปตรงมากับประชาชน อยากเห็นระบบการเมืองที่ไม่ใช่ข้างหน้าคุยอย่าง แต่ของจริงคุยข้างหลังระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ทุกคนมีคุณค่าเสมอกัน ไม่มีใครต้องถูกติดคุกเพราะแค่แสดงความคิดเห็น ทำไมเราจะฝันไม่ได้” นายชัยธวัช ตั้งคำถาม เพราะพรรคอนาคตใหม่กล้าฝันและก้าวไกลก็สืบต่อ ถึงเกิดความเปลี่ยนแปลงในสภาตลอด 4 ปีที่ผ่าน ประชาชนจึงเห็นได้ว่าสภาผู้แทนราษฎรเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน แนวคิดนโยบายแบบยกเลิกการเกณฑ์ทหาร-ปฏิรูปกองทัพทุกพรรคถึงเอาไปแข่งกันหาเสียง นโยบายความเท่าเทียมทางเพศที่เคยถูกกดเอาไว้ ถึงกลายเป็นนโยบายที่แข่งกันผลักดันตอนนี้ ถ้าไม่กล้าคิด กล้าฝัน ไม่มีพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกลใน 4 แล้ว ลองจินตนาการว่าประเทศนี้จะเป็นอย่างไร สุดท้ายนายชัยธวัชกล่าวถึงวาทกรรมที่บอกว่า “เลือกก้าวไกล ได้ประยุทธ์” นายชัยธวัช กล่าวว่า ความเชื่อพิสูจน์กันยาก แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้ดีที่สุด คือการกระทำ


“เมื่อก่อนหลังการเลือกตั้ง 2554 ผมเคยเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์และพวกที่เคยล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง และไปตั้งรัฐบาลใหม่ในค่ายทหาร พล.อ.ประยุทธ์และพรรคพวกที่เคยปราบปรามประชาชนอย่างนองเลือดและไม่มีใครต้องรับผิดชอบสักคน จะพ้นจากอำนาจ แต่พอถึงเดือนพฤษภาคม 2555 หลังการล้อมปราบปี 2553 เพียง 2 ปี หลังจากได้ยินผู้นำทางการเมืองท่านหนึ่งบอกว่า ส่งผมพอแล้ว ผมจะขึ้นสู่ภูเขาด้วยตัวเอง หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเชื่ออีกเลยว่า พรรคการเมืองที่มีอยู่เดิมจะสามารถสร้างประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าว ความเชื่อมีความหลากหลายไม่บังคับให้ทุกคนต้องเชื่อเหมือนกัน ท่านเชื่อแบบไหน รักแบบไหน ท่านเลือกแบบนั้น เพราะเราไม่เชื่อว่าประชาชนมีเจ้าของ ประชาชนไม่ใช่ปลาในบ่อใคร แต่ประชาชนเจ็บแล้วจำ ท่านเลือกแบบไหนท่านเลือกเลย สำหรับก้าวไกลเราคิดและพิสูจน์แล้ว 4 ปีที่ผ่านมาเราทำอย่างไร เราทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เราพยายามทำงานอย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อตอบแทนทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนมอบให้ ไม่เกรงใจใครเกรงใจคนเดียวคือพี่น้องประชาชน ถ้าท่านชอบการเมืองแบบนี้ 14 พฤษภาคมนี้กาก้าวไกลเพื่อไปสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง กาก้าวไกลเพื่อเอาประยุทธ์ออกไป เอาประวิทย์ออกไปด้วย กาก้าวไกลเพื่อเอาคนใหม่ไปบริหารประเทศและทำในสิ่งที่นักการเมืองเก่าทำไม่สำเร็จ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]