กกต.มั่นใจระบบคุ้มกันการขนส่งบัตรเลือกตั้ง

ไปรษณีย์ไทย แจ้งวัฒนะ 10 เม.ย.-กกต.โชว์ความพร้อมการจัดส่งบัตรและอุปกรณ์เลือกตั้ง มั่นใจในความพิเศษปลอมไม่ได้  จัดตร.อาวุธครบมือพร้อมระบบจีพีเอสตามตลอดเส้นทางขนส่ง


นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ว่าที่ร.ต.ศราวุธ จันทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมการจัดการเลือกตั้ง และภารกิจการขนส่งคือการจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง การจัดส่งบัตรเลือกตั้งส.ส.นอกราชอาณาจักรล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้ว การจัดส่งและตอบกลับหนังสือแจ้งเจ้าบ้านที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง / ในเขตเลือกตั้ง และการจัดส่งบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ ไปยัง 400 เขตทั่วประเทศ ซึ่งไปรษณีย์ไทยเตรียมรถขนส่งไว้กว่า 500 เที่ยว มีมาตรการควบคุมความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกำลังชาติและระบบติดตามที่สามารถรายงานผล 24 ชั่วโมง รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้ง 

“ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามที่กกต.กำหนด พร้อมเลือกตั้งหลังการรับสมัครส.ส.ทั้งสองแบบ ซึ่งจะได้นำยอดผู้สมัครหลังการรับสมัครไปพิมพ์บัตรเลือกตั้ง  และประชาชนจะเห็นความแตกต่างของบัตรเลือกตั้งอย่างชัดเจน ให้ความมั่นใจได้ว่าบัตรเลือกตั้งจะไม่สามารถปลอมแปลงได้ เนื่องจาก ใช้เนื้อกระดาษพิเศษ มีรหัสเข้า เป็นบัตรเฉพาะหน่วยเลือกตั้ง ป้องกันใครนำบัตรอื่นหรือทำเพิ่มเติม มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง” เลขาธิการกกต. กล่าว


นายแสวง กล่าวว่า การเลือกตั้งในปีนี้คาดว่าประชาชนกว่า 52 ล้านรายชื่อ   จะให้ความสนใจมากกว่าการเลือกตั้งช่วงปี 2562 เนื่องจากจำนวนผู้มีสิทธิ์มากขึ้น สิ่งที่ กกต. ให้ความสำคัญควบคู่กับการรณรงค์การใช้สิทธิ์เลือกตั้งคือมาตรการด้านความปลอดภัยและความโปร่งใส ขอให้เชื่อมั่นในการทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ในการรักษาความปลอดภัยการขนบัตรเลือกตั้ง โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งจัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมดูแลบัตรเลือกตั้งตลอดการขนส่งโดยมีรถนำขบวนและรถปิดท้ายขบวน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธและนอกเครื่องแบบที่ติดตามอย่างใกล้ชิด

ด้านนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า ได้จัดส่งเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกแล้ว มีความพร้อมอย่างมากในการอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่อยู่ต่างแดนที่มีความประสงค์ใช้สิทธิ์ล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ต่อไปกรมการกงสุลจะเร่งให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เรื่องวัน เวลา สถานที่และช่องทางการใช้สิทธิ์ เนื่องจากสถานทูตและสถานกงสุลแต่ละแห่งกำหนดไว้ไม่เหมือนกัน

“นอกจากอำนวยความสะดวกเรื่องการใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว กรมการกงสุลยังเข้มงวดเรื่องการส่งบัตรเลือกตั้งที่ทำเครื่องหมายอยู่ลงคะแนนแล้ว กลับมานับคะแนนที่ประเทศไทย โดยกำชับให้สถานทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ เร่งรัดและติดตามการส่งบัตร ให้กลับมาถึงประเทศไทยภายในเวลาที่กำหนด กรมการกงสุลมั่นใจว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นไปตามมาตรฐานและแนวทางที่กกต.วางไว้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะในส่วนของบัตรเลือกตั้ง ที่หลังจากลงคะแนนล่วงหน้าแล้ว มั่นใจว่าจะขนกลับมาได้ทันเวลา เพื่อนำไปนับคะแนนได้ 100%  นอกจากนี้ได้พัฒนาระบบติดตามการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งสามารถตรวจสอบและติดตามสถานะการดำเนินงานของสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก และรายงานความเคลื่อนไหวได้แบบเรียลไทม์” อธิบดีกรมการกงสุล กล่าว


นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัดกล่าวว่า ในเดือนเมษายนนี้ไปรษณีย์จะเริ่มจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนกว่า 52 ล้านรายชื่อ และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งไปยังประชาชนกว่า 18 ล้านครัวเรือน ภายใน 20 วันก่อนวันเลือกตั้ง พร้อมจัดส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไปยัง 66 ประเทศ 94 เมืองปลายทางผ่านระบบขนส่งทางอากาศยาน ในช่วงระหว่างวันที่ 14 ถึง 15 เมษายน และการขนส่งด้วยระบบภาคพื้นสำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศทั้ง 77 จังหวัด

“หลังจากการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว  ระหว่างวันที่  7 ถึง 13 พฤษภาคม จะเร่งจัดส่งบัตรเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง /  ในเขตเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วไปยังกกต. โดยระดมเจ้าหน้าที่กว่า 500 คนคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าจะ ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์” นายดนันท์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายดนันท์ได้เชิญเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้เกี่ยวข้องเยี่ยมชมห้อง “ฮอตวอร์รูม” ซึ่งเป็นห้องที่มีจอภาพขนาดใหญ่ และถ่ายทอดภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อดูกระบวนการขนส่งบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ทั้งกระบวนการ.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย