พปชร.ทําบัญชี ส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์เสร็จแล้ว

พปชร. 24 มี.ค. – “สันติ” เผย พปชร.ทําบัญชี ส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ เสร็จแล้ว รอขั้นตอนไพรมารีโหวต ยืนยันบัญชีรายชื่อเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เมิน “นฤมล” ทิ้งปาร์ตี้ลิสต์ ไม่สะเทือน แค่ขยับคนอื่นเสียบแทน


นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ที่นายสันติเป็นประธาน ว่า ขณะนี้ ส.ส.แบบแบ่งเขตทั้ง 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะนําเข้าสู่ที่ประชุมตัวแทนสาขาประจําจังหวัด เพื่อจัดทำไพรมารีโหวต แล้วจะส่งกลับมาที่คณะกรรมการสรรหาเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ในช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคม เพื่อตรวจดูว่าใครมีความเห็นอย่างไรในขั้นสุดท้าย จากนั้นก็จะนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้ความเห็นชอบว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้งหมด ในวันที่ 30 มีนาคม

เมื่อถามว่า ในวันที่ 28 มีนาคม จะมีการเคาะชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า จะมีการเคาะโดยกรรมการบริหารพรรคในวันดังกล่าว ว่าจะมีแคนดิเดตกี่คน มีใครบ้าง แล้วจะประกาศในวันที่ 30 มีนาคม ยืนยันว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังคงเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. คนเดียวอยู่ แต่จะมีเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องรอกรรมการบริหารเคาะในวันดังกล่าว ส่วนบัญชีรายชื่อก็จะจบในวันนั้นด้วย


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ขอสละสิทธิ์ หลังจากมีชื่อปรากฏอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ อันดับที่ 7 ในบัญชีฉบับแรก นายสันติ กล่าวว่า ออกก็ออกไป พรรคไม่ได้เสียหายอะไร ก็เลื่อนกันไปตามนั้น ถ้ามีใครเจ็บป่วย ก็ต้องมีการเลื่อนขึ้นไป นี่คือบัญชีรายชื่อ แต่ถ้าเป็นเขตก็ต้องเปลี่ยน เพราะเลื่อนไม่ได้  

“เรื่องนี้ง่ายมาก ไม่ได้เสียโครงสร้างอะไร ใครอยากจะออกก็ออก แต่ใครอยากจะเข้าก็เข้าไม่ได้แล้ว เพราะเราทำไพรมารีโหวตแล้ว เวลาก็กระชั้นมาก อย่างไรก็ตาม คนที่พรรคคัดสรรจะเป็นคนที่มีศักยภาพ เป็นทีมที่ช่วยพรรคทำงานสารพัด ไม่ได้เอาคนที่ลอยไปลอยมามาทํางาน ทุกคนทุ่มเทให้กับพรรค เพียงแต่ได้ออกสื่อมากหรือน้อยแค่นั้น” นายสันติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อสังเกตว่าบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ เป็นกลุ่มที่อยู่บ้านใหญ่และเป็นแกนนำพรรค นายสันติ กล่าวว่า ถ้าพูดแบบนี้ถามว่าผิดไหม พวกเราต้องช่วยกันส่งเสริม เพราะบ้านใหญ่เหล่านั้นสามารถดูแล ส.ส.ให้เป็นที่ชื่นชอบและเป็นความหวังของประชาชน ได้มายกจังหวัด แสดงว่าเขามีศักยภาพ ประชาชนให้ความหวังกับเขามาก จะให้พรรคทิ้งๆ ขว้างๆ ได้อย่างไร ฉะนั้นพรรคจึงต้องจัดอะไรให้กับคนพิเศษในแต่ละจังหวัด เพราะคนเหล่านี้ได้จัดการบ้านของตัวเองอย่างแข็งแรง ทำประโยชน์ พัฒนาพื้นที่ จนคนในจังหวัดนั้นๆ ชื่นชม ฉะนั้นจะมาบอกว่าบัญชีอันดับต้นๆ เป็นของบ้านใหญ่ไม่ได้ เราต้องถือว่าจังหวัดนั้นเป็นเอกภาพ อย่าไปดูถูกประชาชนในจังหวัดนั้น เมื่อเขามาอยู่กับเรา ก็ต้องรักและให้เกียรติเขา นอกจากนั้น พรรคก็ต้องดูคนที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ดูแลคนรุ่นใหม่ ดูแลทุกช่วงวัย สตรี ผู้สูงวัย


เมื่อถามว่า การจัดคน 400 เขต กับบัญชีรายชื่อ 100 คน เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ครบหมดแล้วทั้ง 500 คนทั่วประเทศ เพิ่งประชุมเสร็จเมื่อเช้า

เมื่อถามว่า จะไม่มีเปลี่ยนแล้วใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นคณะกรรมการสรรหา พูดไม่ได้ว่าจะมีเปลี่ยนหรือไม่ พูดได้แค่กว้างๆ ว่าเราเลือกสรรแต่คนที่มีศักยภาพ เป็นคนที่ประชาชนจะให้การสนับสนุน ดังนั้น บัญชีรายชื่อทั้ง 100 คน ตอนนี้คงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เพียงแต่ว่าหากใครป่วยหรือลาออก ก็เลื่อนขึ้นมาเท่านั้น สำหรับการทำไพรมารีโหวต ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะไม่แก้ เพราะยุ่งยากมาก

เมื่อถามว่า นางนฤมล ที่ขอสละสิทธิ์ ได้มาพูดคุยกับนายสันติก่อนหรือไม่ ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค นายสันติ กล่าวว่า จะมาปรึกษาตนทำไม เพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ในพรรค นายสันติ กล่าวว่า “เขาใหญ่กว่าผมอีก เลขาธิการพรรคคือคนใช้ของคนในพรรคทั้งพรรค ถือเป็นแม่บ้านพรรคที่ต้องคอยดูแล ลูกร้องยังต้องเข้าไปโอ๋เลย” เมื่อถามว่า จะเข้าไปโอ๋นางนฤมลหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เขาไม่มา ใครจะโอ๋ พร้อมย้อนถามสื่อว่า ทําไมไม่บอกให้เขามาคุยกับตน

ถามต่อว่า จริงๆ แล้วในบัญชีรายชื่อ นางนฤมล อยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ นายสันติ กล่าวว่า ชื่อก็สลับไปสลับมา ก็ต้องจัดกันไป ท้ายที่สุดก็ลงตัว อย่าคิดว่าจะอยู่ลำดับใด ตนโดนบังคับต่างหาก จะเห็นได้ว่าตนไม่มีเสียงเลย

เมื่อถามว่า เลขาธิการพรรคจะสละด้วยหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ถ้าใครสั่งก็สละ คนที่สั่งก็ต้องดูว่าพรรคเป็นอย่างไร ถ้าจำเป็น ให้ตนทำอะไรก็ทำทั้งนั้น เพราะเราทำเพื่อพรรค ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แบบนี้เท่ากับไม่มีชื่อของนางนฤมล ในบัญชีรายชื่อแล้วใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ตนลืมดูบัญชี มีตั้ง 100 คน จำชื่อไม่ได้แล้ว ถ้าเบอร์ 1 ตนจำได้แน่ เบอร์ 2 ก็จำไม่ได้แล้ว เมื่อถามว่า การที่นางนฤมลแถลงข่าว แสดงเจตนารมณ์แบบนี้ ก็ไม่น่าจะมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อแล้วใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่าใช่ ก็เธอบอกว่าเธอจะออกจากบ้านแล้ว ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แต่เราก็ไม่รั้งไว้ใช่หรือไม่ นายสันติไม่ตอบคำถาม แต่ยิ้มและเดินจากผู้สื่อข่าวไป.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย