เรื่องเล่าจาก ‘ทุเรียน’ ดาวเด่นตลาดจีน พลิกชีวิตเกษตรกรไทย

(ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : คนงานเก็บเกี่ยวและขนย้ายทุเรียนหมอนทองในสวนทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรี)

ฉงชิ่ง, 18 ธ.ค. (ซินหัว) — เมื่อไม่นานนี้ บริษัท ฉงชิ่ง หงจิ่ว ฟรุต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายผลไม้ชั้นนำของจีน ได้รับการยกเป็นกรณีศึกษาการลดความยากจนที่ดีที่สุด และแบบอย่างของความร่วมมือใต้-ใต้ ณ กิจกรรมนำเสนอแนวทางลดความยากจนที่ดีที่สุด ครั้งที่ 3


กิจกรรมข้างต้นจัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนร่วมจากศูนย์การลดความยากจนนานาชาติจีน (IPRCC) องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB)

บริษัท ฉงชิ่ง หงจิ่ว ฟรุต จำกัด ตั้งอยู่ที่เทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายผลไม้หลายชนิด อาทิ ทุเรียนและลำไย ซึ่งมีต้นทางจากไทยและลาวเป็นหลัก ในกว่า 300 เมืองทั่วจีน โดยหงจิ่ว ฟรุต เข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา


ทุเรียนถือเป็นผลไม้นำเข้า “ดาวเด่น” ของหงจิ่ว ฟรุต โดยยอดจำหน่ายทุเรียนรายปีของหงจิ่ว ฟรุต ในปี 2021 สูงเกิน 9 หมื่นตัน คิดเป็นร้อยละ 10.06 ของทุเรียนนำเข้าจากไทยทั้งหมดในจีน หรือหมายความว่าทุเรียนหนึ่งในสิบลูกที่จำหน่ายในจีนมาจากหงจิ่ว ฟรุต

ราชาผลไม้อย่างทุเรียน ไม่เพียงตอบสนองความต้องการบริโภคผลไม้ขั้นสูงของตลาดจีน แต่ยังพลิกเปลี่ยนชะตาชีวิตของเหล่าเกษตรกรไทยดังเช่น ณัฐกฤษฏ์ โอฬารหิรัญรักษ์ เกษตรกรจากจังหวัดจันทบุรี วัย 52 ปี ที่ไม่เคยคิดว่าทุเรียนจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาและเพื่อนร่วมอาชีพ

(ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : คนงานเก็บเกี่ยวและขนย้ายทุเรียนหมอนทองในสวนทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรี)

สวนผลไม้ของณัฐกฤษฏ์เมื่อหลายปีก่อนปลูกผลไม้หลายชนิด ทั้งทุเรียน มังคุด และเงาะ แต่หลังจากเล็งเห็นความต้องการทุเรียนของตลาดจีน เขาจึงเปลี่ยนมาปลูกทุเรียนทั้งหมดจนปัจจุบันมีต้นทุเรียนสูงถึง 4,000 ต้น และทำข้อตกลงความร่วมมือทางการค้ากับหงจิ่ว ฟรุต ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา


“หลายปีก่อน ทุเรียนหนึ่งกิโลกรัมมีราคาไม่กี่สิบบาท ช่องทางจำหน่ายไม่แน่นอน และยอดจำหน่ายไม่สูงมาก แต่ตอนนี้ราคาช่วงฤดูทุเรียนไม่ต่ำกว่า 200 บาท ยอดจำหน่ายและรายได้เพิ่มขึ้น” ณัฐกฤษฏ์กล่าว พร้อมเสริมว่าทุเรียนเปลี่ยนชีวิตของเขาและเกษตรกรรอบตัว

ณัฐกฤษฏ์เล่าว่าปัจจุบันเขามีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านบาท เป็น 20 ล้านบาทต่อปี สวนผลไม้ของเขาเปลี่ยนจากธุรกิจแบบสามีภรรยาทำกันเองเป็นธุรกิจที่มีพนักงานประจำ 14 คน พร้อมคนงานที่อาจมีจำนวนสูงถึง 50 คนต่อวัน และได้ค่าจ้างในบางช่วงเวลาสูงถึง 800 บาทต่อวัน

นอกจากนั้นการมีหงจิ่ว ฟรุต เป็น “ทัพหน้า” การันตีช่องทางจัดจำหน่ายผลไม้ ยังช่วยให้ชาวสวนอย่างณัฐกฤษฏ์ที่เป็น “ทัพหลัง” วางใจจะเดินหน้าปลูกทุเรียน ซึ่งกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทยด้วย

ณัฐกฤษฏ์วางแผนขยายสวนผลไม้ของเขาในอนาคตข้างหน้า เพื่อเพิ่มการปลูกทุเรียนคุณภาพดียิ่งขึ้นสำหรับตลาดจีน และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเขาและเพื่อนร่วมอาชีพให้ดีกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง ปริมาณการส่งออกทุเรียนจากไทยสู่จีน ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ พุ่งสูงเกิน 5 แสนตัน เกือบเทียบเท่ายอดส่งออกทุเรียนของทั้งปี 2020 และมีแนวโน้มทำสถิติรายปีสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

เติ้งหงจิ่ว ผู้ก่อตั้งและประธานของหงจิ่ว ฟรุต เผยว่าสำหรับการค้าผลไม้ระหว่างจีนและไทยในอนาคต หงจิ่ว ฟรุต จะส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการพัฒนาอุตสาหกรรม สร้างระบบห่วงโซ่อุปทานดิจิทัล เชื่อมโยงแหล่งทรัพยากรต้นน้ำถึงปลายน้ำทั้งในและนอกประเทศ และกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมผลไม้ในพื้นที่ยากจนทั้งในและนอกประเทศ

นอกจากนั้นหงจิ่ว ฟรุต จะเดินหน้าสนับสนุนแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) ร่วมเสริมสร้างการพัฒนาแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) และอัดฉีดแรงกระตุ้นสู่การบรรเทาความยากจนระดับโลก รวมถึงการฟื้นฟูชนบท – สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/326979_20221218
ขอบคุณภาพจาก Xinhua

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย