เปิดเวทีสัมมนา “สื่อกับการรู้เท่าทันข่าวปลอม”

รูปหมู่สัมมนาสื่อกับการรู้เท่าทันข่าวปลอม

กรุงเทพฯ 21 มี.ค.- โครงการอบรมหลักสูตรผู้บริหารยุทธศาสตร์การสื่อสารมวลชนระดับสูงด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ บยสส. รุ่นที่ 1 จัดการสัมมนากลุ่มย่อย เรื่อง “สื่อกับการรู้เท่าทันข่าวปลอม” เปิดเวทีร่วมให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการกลั่นกรองข้อมูล-ข่าวสารก่อนเผยแพร่
งานสัมมนา “สื่อกับการรู้เท่าทันข่าวปลอม” จัดที่สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศ ถนนสามเสน กรุงเทพฯ โดยผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการหลักสูตรผู้บริหารยุทธศาสตร์การสื่อสารมวลชนระดับสูงด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บยสส.) รุ่นที่ 1 โดยมีวิทยากรที่ทำงานสื่อสารมวลชนที่เชี่ยวชาญในการกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร ที่ถูกต้องและรวดเร็ว คือ นายสุธีร์ จันทร์แต่งผล บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์เอ็มไทยดอทคอม บริษัท โมโน ไซเบอร์ จำกัด และ นายพีรพล อนุตรโสตถิ์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท มาร่วมให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์


ทั้งนี้ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ ข่าวปลอม หรือ Fake news คืออะไร , ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเผยแพร่ข่าวปลอม ในแง่มุมต่างๆ การยกตัวอย่างของผลกระทบ รูปแบบและลักษณะของข่าวปลอมในอดีตและปัจจุบัน ประเด็นข่าวปลอมที่ถูกแชร์เป็นจำนวนมาก ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมวิธีรับมือและแก้ปัญหา ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรับมือกับข้อมูล หรือ ข่าวปลอม

นายสุธีร์ จันทร์แต่งผล บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์เอ็มไทยดอทคอม กล่าวว่า ปัจจุบันข่าวปลอมจะเกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็ว ตามของไวของสื่อโซเชียลมีเดีย ตามความไวของผู้ใช้งาน ซึ่งลักษณะของข่าวปลอมก็มีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น 1.ข่าวปลอมทั้งหมดที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง 2.ข่าวปลอมที่มีความจริงแค่ครึ่งเดียว เมื่อนำมาสรุปก็จะทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป และ 3.ข่าวที่ยังไม่มีข้อสรุป ฉะนั้นก่อนการเผยแพร่ข่าวสารออกไปจะต้องมีการตรวจสอบและกลั่นกรองความถูกต้องก่อนเสมอ โดยไม่ได้ยึดถือแค่ความเร็วเพียงอย่างเดียว


ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเผยแพร่ข่าวปลอมว่า ต้องดูจากระดับของความใกล้ตัว ยิ่งใกล้ตัวประชาชนหรือผู้รับสื่อมากเท่าใด ความตื่นตระหนก หรือ ผลกระทบก็จะยิ่งต้องแรงมากขึ้นเท่านั้น อาทิ Fake News ที่เกิดขึ้นจากการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ในช่วงที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนแตกตื่น และวิตกกังวลมากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน อาจต้องมีภาระเพิ่มขึ้นในส่วนนี้ ฉะนั้น จะต้องมีความระมัดระวังก่อนการเผยแพร่ข่าว หรือ ส่งต่อข้อมูลที่อาจจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก

นายพีรพล อนุตรโสตถิ์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท

ด้านนายพีรพล อนุตรโสตถิ์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท กล่าวถึง หลักปฏิบัติก่อนการนำเสนอข่าวออก สื่อมวลชนจะต้องตระหนักว่าสิ่งที่จะเผยแพร่ต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องและมีประโยชน์กับประชาชน ดังนั้นการที่จะแน่ใจได้ จะต้องมีกระบวนการในหลายขั้นตอนที่จะต้องตรวจสอบ โดยแต่ละประเด็นก็จะมีกระบวนการในการตรวจสอบที่แตกต่างกันไป เช่น ประเด็นทางสุขภาพ ก็จะต้องมีชุดข้อมูลหรือความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นไม่ช่วยให้ความเห็นทั้งในพื้นที่สาธารณะและการให้ข้อมูลกับสื่อก่อนการเผยแพร่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและนำเสนออย่างถูกต้องและตรงประเด็นมากขึ้น

สำหรับประชาชนทั่วไปการจะรู้เท่าทันข่าวปลอมได้นั้น มีทั้งความยากและง่าย คือ ประชาชนทั่วไปอาจจะไม่ต้องมีการแข่งขันในการจะเผยแพร่ข่าวสารเท่ากับสื่อสารมวลชน ไม่จำเป็นต้องรีบบอกข้อมูล ซึ่งอาจจะวางข้อจำกัดตรงนี้ไปได้ และตระหนักได้ว่าข่าวสารที่ส่งออกไป อาจจะมีคนจำนวนหนึ่งที่อาจจะเชื่อถือในข้อมูลที่ส่งออกไป เมื่อตระหนักได้ก็จะเกิดความระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่อีกส่วนหนึ่งที่เป็นความยากในการรู้เท่าทันข่าวปลอมของประชาชน คือ ข่าวสารหรือ ข้อมูลที่ส่งมาถึงประชาชนในหลากหลายช่องทาง บางข้อมูลก็ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา ด้วยความหวังของคนประดิษฐ์ที่ต้องการให้ผู้รับสารมีความรู้สึก หรือเข้าใจอย่างไร ประชาชนจึงต้องเข้าใจและรู้ทันข้อมูลที่เข้ามา ทั้งนี้ ข่าวปลอมที่ถูกส่งต่อกันมาในปัจจุปันอาจจะส่งผลทำให้ประชาชนเป็นได้ทั้งเหยื่อ และเครื่องมือในการส่งต่อข่าวปลอม ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อคนในสังคมบุคคลอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นได้ จึงควรระมัดระวังในส่วนนี้


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]

“ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายฟังคำพิพากษา ลุ้นชดใช้คดีจำนำข้าว

ศาลปกครอง 22 พ.ค.- “ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายรอฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาท คดีจำนำข้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดเตรียมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บรรยากาศที่ศาลปกครอง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน. ทุ่งสองห้องราว 20 นาย มารักษาความสงบเรียบร้อย […]

ปรับแผนช่วยคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร – 4 วันยังไม่ถึงครึ่งทาง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนการค้นหานำร่างคนงานขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตร หลัง 4 วัน ยังขุดลงไปไม่ถึงครึ่งทาง ผ่านไปแล้ว 4 วัน สำหรับการค้นหานำร่างคนงานที่ตกลงไปในหลุมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 8 ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง มีรายงานว่า ขณะนี้ขุดลงไปได้ประมาณ 7 เมตร จากความลึกของหลุม 19 เมตร ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด อุปสรรคสำคัญคือเสาเข็มปูนขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ในหลุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการประชุมหารือปรับแผนการช่วยเหลือกันอีกครั้ง หลังจากวางแผ่นชีสไพล์แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าแผนนี้จะป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ลงไปทับคนงานที่กำลังลงไปช่วยหรือไม่ โดยการทำงานจะเน้นความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก ส่วนตัวเลขการขุดเจาะ เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ทางรองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่าขุดลึกไปได้แล้ว 9 เมตรนั้น ทางหน้างานขอชี้แจงว่าให้ยึดตัวเลขล่าสุดเป็นหลัก เพราะวัดจากขอบถนนและพื้นด้านล่างไม่เสมอกัน บางชุดอาจขุดลงไปได้มากกว่า แต่เป็นจุดที่ลงไปไม่ได้ ยอมรับการปฏิบัติงานครั้งนี้ยากกว่าที่คิด แต่ไม่เกินขีดความสามารถอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำทีมแถลงคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” เปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด

22 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำแถลงความคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” ยักยอกเงินวัดไร่ขิง พร้อมเปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด สนทนากับสีกาคนสนิท ส่วนเงินบัญชีวัดไร่ขิง และภายในมูลนิธิฯ พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายรายการ และยังพบเงินกฐินถูกถอนออกไป ไม่มีการนำเข้าบัญชีวัด.-สำนักข่าวไทย