6 ต.ค.-สดร. ชวนคนไทยจับตา สังเกตปรากฏการณ์ดาวอังคารใกล้โลกที่สุด ปรากฏสีส้มแดงสว่างเด่นชัด ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า วันที่ 14 ต.ค.
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เชิญชวนชาวไทยจับตา “ดาวอังคารใกล้โลกที่สุด” 6 ตุลาคม 2563 และ ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 โดยจะสังเกตปรากฏสีส้มแดงสว่างเด่นชัด ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า โดยหากฟ้าใสไร้ฝนสังเกตเห็นด้วยตาเปล่าทั่วไทย สดร. เตรียมจัดพื้นที่ส่องกล่องดูดาวเคราะห์แดง 4 จุดสังเกตการณ์หลักทั่วประเทศ โดยสามารถร่วมติดตามชมพื้นผิวและขั้วน้ำแข็งดาวอังคาร ในระยะที่ดีที่สุดผ่านกล้องโทรทรรศน์ ชนิดพิเศษ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ทางเฟซบุ๊ก NARITPage
นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สดร. กล่าวว่า เดือนกันยายนหากสังเกตท้องฟ้าทางทิศตะวันออกในตอนกลางคืน จะเริ่มเห็นดาวอังคารสว่างเด่นชัดอยู่บนท้องฟ้า เป็นสัญญาณให้รู้ว่าดาวอังคารจะกลับมาใกล้โลกอีกครั้ง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสังเกตการณ์ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดคือ ช่วงวันที่ 6 – 14 ตุลาคม 2563 โดยดาวอังคารจะโคจรอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในวันที่ 6 ตุลาคม ห่างจากโลกประมาณ 62 ล้านกิโลเมตร ค่าอันดับความสว่างปรากฏอยู่ที่ประมาณ -2.6 สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาด 10 นิ้ว กำลังขยายตั้งแต่ 100 เท่าขึ้นไป จะเห็นพื้นผิวดาวอังคารได้อย่างชัดเจน จากนั้นดาวอังคารจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (MarsOpposition) ในวันที่ 14 ตุลาคม หมายความว่า ดวงอาทิตย์ โลก และดาวอังคารจะเรียงตัวอยู่ในเส้นเดียวกัน ทำให้เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก ดาวอังคารจะโผล่ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกพอดี มีระยะทางห่างจากโลกประมาณ 62.7 ล้านกิโลเมตร สามารถสังเกตการณ์ดาวอังคารได้ตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้าของวันถัดไป
สำหรับดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะลำดับที่ 4 มีขนาดเล็กกว่าโลกครึ่งหนึ่ง พื้นผิวปกคลุมไปด้วยฝุ่นสนิมเหล็ก จึงเห็นปรากฏเป็นสีส้มแดงเป็นที่มาของชื่อ Marsในภาษาอังกฤษที่ตั้งตามชื่อเทพเจ้าแห่งสงครามของกรีกโรมัน พื้นผิวดาวมีสภาพคล้ายทะเลทราย แต่มีอุณหภูมิต่ำ เป็นดาวเคราะห์ที่คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพบสิ่งมีชีวิตมากที่สุด วงโคจรของดาวอังคารค่อนข้างรีเมื่อเทียบกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ทำให้ระยะห่างของดาวอังคารในช่วงใกล้โลกแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ซึ่งดาวอังคารจะเข้าใกล้โลกในทุก ๆ 2 ปี 2 เดือนและจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดทุก ๆ 15 – 17 ปี
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับสังเกตการณ์ดาวอังคาร เพราะมีระยะทางที่เข้าใกล้โลก และมีความสว่างมาก มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน สดร. จัดสังเกตการณ์ “ดาวอังคารใกล้โลกมากที่สุด” วันอังคารที่ 6 ตุลาคม 2563 และ“ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์” ในวันพุธที่ 14 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. ผู้ที่สนใจมาร่วมส่องดาวเคราะห์แดงผ่านกล้องโทรทรรศน์ สังเกตพื้นผิวดาวอังคารและน้ำเเข็งขั้วใต้บนดาวอังคาร พร้อมส่องวัตถุท้องฟ้าที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ กระจุกดาวทรงกลม M4 กระจุกดาวคู่ กาแล็กซีแอนโดรเมดา ณ 4 จุดสังเกตการณ์หลัก ได้แก่
1) เชียงใหม่ : อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
2) นครราชสีมา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา
3) ฉะเชิงเทรา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ฉะเชิงเทรา
4) สงขลา : หอดูดาว เฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา
นอกจากนี้ ยังร่วมกับเครือข่ายดาราศาสตร์ที่ได้รับมอบกล้องโทรทรรศน์ ในโครงการกระจายโอกาสการเรียนรู้ดาราศาสตร์อีก 460 แห่งทั่วประเทศ นำกล้องโทรทรรศน์มาจัดกิจกรรมสังเกตการณ์แก่นักเรียนและประชาชนในชุมชนใกล้เคียงที่สนใจมาร่วมสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ในครั้งนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย