สุราษฎร์ธานี 11 ส.ค. 63 – สวทช. ส่งเสริมเยาวชนไทยพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์เครื่องเก็บขยะในแหล่งน้ำแบบอัตโนมัติ และเครื่องกำจัดขยะให้เป็นปุ๋ย ช่วยลดขยะบกสู่ทะเล และลดปริมาณขยะชุมชนอย่างยั่งยืน
ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สนับสนุนผลงานนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของนักศึกษาพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเป็นต้นแบบในการใช้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับชุมชน ซึ่ง จ. สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำตาปีสายสำคัญ และพื้นที่ติดทะเล ปัญหาขยะจากชุมชนสู่แหล่งน้ำ ไหลสู่ทะเลอาจสร้างผลกระทบต่อแหล่งน้ำ ทะเล แทรัพยากรสัตว์น้ำจำนวนมาก
นักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี โชว์ผลงานวัตกรรมเครื่องเก็บขยะในทะเลโดยใช้เทคโนโลยีนาโน หรือ Nano Ocean Bin มีลักษระคล้ายทุ่นลอยระดับผิวน้ำ ที่มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุหรือขยะในแหล่งน้ำระยะ 1-2 เมตร โดยใช้พลังงานมอเตอร์ในการดูดน้ำเพื่อดึงเศษขยะเข้ามาสู่ถังขยะทุ่น ผ่านสายพานที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ กวาดขยะเข้าเครื่องได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้นำนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี เคลือบผิวด้วยอนุภาคนาโนบนแผงโซล่าเซลล์และวัสดุ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมและให้การทำงานของระบบต่างๆสูงขึ้น เครื่องนี้สามารถเก็บขยะในแหล่งน้ำ ได้กว่า 50 กิโลกรัม เทื่อเต็มจะมีระบบการแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปเก็บ ขยะที่ได้สามารถนำมารีไซเคิลหมนุนเวียนใช้ประโยชน์ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อีกผลงานของนักศึกษา ปวส. พัฒนาเครื่องกำจัดขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ยอัตโนมัติ เป็นนวัตกรรมคล้ายถังขยะ ที่สามารถนำเศษพืชผักหรืออาหารในครัวเครือนมากำจัดได้ด้วยเครื่องนี้ ผสมจุลินทรีย์ตามอัตราส่วน เครื่องจะปั่นบดย่อยวัสดุทั้งหมด โดยมีระบบอบความร้อนช่วยให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงใช้ในครัวเรือนได้ภายใน 1 วัน ลดเวลาจากการผลิตปุ๋ยแบบเดิมที่ใช่เวลากว่า 14 วัน เครื่องกำจัดขยะเศษอาหารอัตโนมัตินี้ ยังติดตั้งระบบตั้งเวลาให้เครื่องทำงานได้ตามต้องการ โดยสามารถผลิตปุ๋ยได้กว่า 10 กิโลกรัมต่อครั้ง
ทั้ง 2 นวัตกรรม เป็นตัวอย่างนวัตกรรมฝีมือเยาวชนไทยที่เข้าร่วมโครงการลดเปลี่ยนโลกกับโตโยต้า โดยจะประกวดรอบชิงชนะเลิศ 4 – 6 กันยายน2563 ทีมชนะเลิศในโครงการชุมชนลดเปลี่ยนโลก และนวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก จะได้แลกร่วมเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงนวัตกรรมต่าง ๆ จากญี่ปุ่น เพื่อปรับใช้ในการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย