ก.ดีอีเอส เร่งสกัดข้อมูลรั่วไหล หลังพบละเมิด 192 เรื่องใน 8 เดือน

นนทบุรี 16 พ.ย. – กระทรวงดิจิทัลฯ และ สคส. จัดประชุมมอบนโยบายเครือข่าย DPO เร่งดำเนินกลไกป้องกันเชิงรุก สกัดการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล หลัง 8 เดือน พบเหตุละเมิด 192 เรื่อง


กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จัดการประชุมเครือข่ายเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) กลุ่มภาครัฐ รวม 85 หน่วยงาน เพื่อยกระดับความเข้มข้นของการดำเนินงานศูนย์ PDPC Eagle Eye ในการเฝ้าระวังเหตุละเมิด พบ 8 เดือน เจอเหตุละเมิด 192 เรื่อง สาเหตุหลักมาจากการเผยแพร่ข้อมูลประชาชนโดยไม่มีกระบวนการปกปิดข้อมูลที่สำคัญ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพี่น้องประชาชน โดยได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กำกับดูแลหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เฝ้าระวังและป้องปรามไม่ให้มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลประชาชนจากหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้ รัฐมนตรีได้สนับสนุนแนวทางการดำเนินงานของ สคส. ในการส่งเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงผลักดันการพัฒนาด้านการสร้างเครือข่าย DPO ที่เข้มแข็ง เพื่อทำให้เกิดกลไกที่จะช่วยให้กลุ่มของผู้ควบคุมข้อมูลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สามารถดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในด้านมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดหรือรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของแต่ละหน่วยงาน


ทั้งนี้ ด้วยนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นการบูรณาการการทำงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์จากกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ประกอบกับรัฐบาลและกระทรวงดิจิทัลฯ มีนโยบายในเครื่องยนต์ที่ 2 ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัล (Safety and Security) โดยเน้นการป้องกันเชิงรุก จึงทำให้การสร้างเครือข่าย DPO เป็นกลไกสำคัญในการช่วยให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น DPO จึงเปรียบเสมือนเป็น ‘Super Hero’ ผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน’ ให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพและอันตรายต่าง ๆ

โดยสามารถป้องกันการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยมาตรการดังนี้ 1. ตรวจสอบและดูแลให้หน่วยงานมีการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัด 2. ตรวจสอบเฝ้าระวังไม่ให้มีข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนรั่วไหลบนเว็บไซต์และช่องทางอื่น ๆ 3. ตรวจสอบไม่ให้มีการเก็บรวบรวมหรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนมากเกินความจำเป็น 4. จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ การพิสูจน์ยืนยันตัวตน กำหนดสิทธิในการเข้าถึงและใช้งานข้อมูลฯ 5. จัดให้มีมาตรการกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานไม่ให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไปขาย หรือเปิดเผยโดยมิชอบ 6. จัดให้มีการฝึกอบรมเพื่อสร้างองค์ความรู้และความตระหนักรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงาน

นอกจากนี้ PDPC หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) โดย ดร.ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตอบรับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงดิจิทัลฯ ด้วยการดำเนินมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเชิงรุกอย่างเข้มข้นและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยในช่วง 30 วันนับจากนี้จะเร่งตรวจสอบเชิงรุก เพื่อเฝ้าระวังและป้องปรามการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน่วยงานภาครัฐ


PDPC จัดให้มีกลไกส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของ DPO ซึ่งประกอบไปด้วย กลไกการป้องกัน โดยจัดทำแบบตรวจแนะนำการกำกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Regulator Checklist) เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือให้ DPO สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกฎหมาย กลไกการป้องปราม โดยการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยระบบ AI หรือ ศูนย์ PDPC Eagle Eye ทำหน้าที่สำรวจความเสี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลบนอินเทอร์เน็ต พร้อมดำเนินการติดตามและเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นสถิติ เพื่อใช้ในการประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ เพื่อที่จะนำข้อมูลไปประสานกับเครือข่ายเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และขยายผลบังคับใช้กฎหมายในกรณีตรวจพบการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และกลไกการผนึกกำลัง โดยการประสานงานสร้างเครือข่าย DPO ทั่วประเทศ (DPO Network) เพื่อให้การทำงานของ DPO เกิดประสิทธิภาพที่เข้มแข็งและมั่นคงได้ในวงกว้าง และจะมีการจัดกิจกรรมมอบรางวัลเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดีเด่น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน และจากการจัดตั้งศูนย์ PDPC Eagle Eye การเฝ้าระวังตรวจพบเหตุละเมิดมากถึง 192 เรื่อง (สถิติวันที่ 1 เม.ย.-8 พ.ย.66) โดยมีสาเหตุการละเมิดมากที่สุดมาจากการเผยแพร่ข้อมูลประชาชนโดยไม่มีกระบวนการปกปิดข้อมูลที่สำคัญ (No Masking) 176 เรื่อง และประเภทหน่วยงานที่ตรวจพบมากที่สุด คือ หน่วยงานของรัฐ-รัฐวิสาหกิจ 154 เรื่อง รองลงมาเป็นธุรกิจการศึกษา 21 เรื่อง

ส่วนในฝั่งของการรับแจ้งเหตุละเมิด สคส.ได้รับแจ้งรวม 382 เรื่อง แบ่งเป็น ปี 2565 จำนวน 158 เรื่อง (1 มิ.ย.-31 ธ.ค.65) และปี 2566 จำนวน 224 เรื่อง (1 ม.ค.-8 พ.ย.66) โดยสาเหตุการละเมิด 5 อันดับแรก มาจากข้อมูลรั่วไหล 130 เรื่อง, ความบกพร่องของผู้ปฏิบัติงาน 82 เรื่อง, ไม่ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคล 57 เรื่อง, เว็บไซต์ขายข้อมูล 43 เรื่อง และ มัลแวร์ 24 เรื่อง โดยประเภทธุรกิจที่รับแจ้งมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ การเงินการธนาคาร 118 เรื่อง, หน่วยงานของรัฐ-รัฐวิสาหกิจ 92 เรื่อง, ค้าปลีกและค้าส่ง 37 เรื่อง, การศึกษา 26 เรื่อง และเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม 17 เรื่อง

ช่องทางการติดต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) สามารถติดต่อเพื่อสอบถาม ขอคำปรึกษา หรือปรึกษาการยื่นเรื่องร้องเรียนได้ ในวันและเวลาราชการ โทรศัพท์ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 02 114 8504 และ 02 141 6993 หรือ 02 142 1033, e-mail : saraban@pdpc.or.th และเว็บไซต์ : www.pdpc.or.th. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนกระจาย

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝน 40% ส่วนมากช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีการกระจายของฝนฟ้าคะนองมากกว่าภาคอื่นๆ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวร่วมรัฐบาล จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ทำไทยเสียเกียรติ

กทม. 18 มิ.ย.-“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีร่อนใบลาออก มีผล 19 มิ.ย. จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ ทำไทยเสียเกียรติ-ศักดิ์ศรี จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน ​เซน​” พร้อมร่วมมือประชาชน-กองทัพ รักษาอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.39 น. วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์​ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2568​ ระบุถึงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ​กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]