สธ.ห่วงอากาศเปลี่ยน โควิดไข้หวัด ใกล้เคียงกัน

สธ.8ต.ค.-สธ.ขอความร่วมมือประชาชนสอดส่องการเข้าเมืองผิดกฎหมาย พบเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่ พร้อมแนะเฝ้าระวังสังเกตตนเอง ขณะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ป่วยไข้หวัดกับโควิดอาการใกล้เคียงกันมาก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ (สหรัฐอเมริกา 1 ราย, อินเดีย 1 ราย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย, ฮังการี 2 ราย, เนเธอแลนด์ 1 ราย, คูเวต 1 ราย) ทุกรายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้, สถานกักตัวที่รัฐกำหนด และโรงพยาบาลทางเลือก มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 48 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,439 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.95 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 124 ราย […]

โควิดเมียนมาประชิดไทย ขอทุกฝ่ายจับตาเข้ม

สธ.2 ต.ค.-สธ.คาดตัวเลขป่วยโควิดจริงในไทยถึง 6 พันคน ห่วงการระบาดเมียนมาประชิดไทย ขอทุกฝ่ายจับตา ป้องกันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของทั้งโลกขณะนี้ซึ่งมีผู้ป่วย 34 ล้านคนแล้ว ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นเท่าไหร่ยังคงอยู่ในระดับสูง ตัวเลขที่เปิดเผยในปัจจุบันนักวิชาการคาดว่าต่ำกว่าตัวเลขจริง ในส่วนของประเทศไทยก็เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยในระบบรายงานอยู่ที่3,575 คน แต่จากการค่าประมาณของทีมวิชาการที่มีการคาดประมาณสถานการณ์ก็คาดว่าประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยมากกว่านี้ โดยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 คน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราก็คุมสถานการณ์ของโรคได้ดีปัจจัยสำคัญ บางเรื่องเราทำได้ดีมาก แต่บางเรื่องมีการลดความสำคัญลง 1.มีระบบควบคุมโรคที่เข้มแข็ง ได้รับคะแนนอันดับดีทั้งในระดับโลกและระดับเอเชีย มีทีมสอบสวนโรคที่เข้มแข็ง 2.การเริ่มปฏิบัติงานอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากมีข่าวการระบาดของโควิด-19 มาตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2562 ในวันที่ 3 ม.ค. 2563 ไทยก็เริ่มปฏิบัติการสาธารณสุขทันที 3.มีการใช้องค์ความรู้จากนักวิชาการ ใช้ความรู้วิชาการมาเป็นตัวนำ ทุกวันนี้ทีมวิชาการยังทำงานอย่างเข้มแข็ง การให้ข่าวและการตัดสินใจหลายอย่างที่ต้องใช้หลักฐานทางวิชาการก็สามารถร่วมกันคิดร่วมกันทำได้ค่อนข้างดี 4.ภาวะการนำในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสูงสุดของประเทศ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี และระดับรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ ตลอดจนพื้นที่ ตำบล หมู่บ้านก็มีส่วนร่วมเข้ามาช่วยในการประคับประคองสถานการณ์ 5.ความร่วมมือทุกภาคส่วน ในทุกครั้งที่มีการแถลงข่าว แม้กระทั่งแถลงที่กระทรวงสาธารณสุขจะมีหน่วยงานภาครัฐ […]

ไทยเตรียมส่งเครื่องตรวจช่วยเมียนมาคุมโควิด

สำนักข่าวไทย 24 ก.ย.-ไทยเตรียมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลือ เมียนมา สนับสนุนเครื่องตรวจ RT-PCR และชุด PPE ช่วยคุมโควิด -19 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังสถานการณ์ในเมียนมาจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพื่มขึ้นต่อเนื่อง ทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกระทรวงสาธารณสุข จึงได้มีแนวคิดช่วยสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันและควบคุมโรคกับเมียนมา ด้วยการซื้ออุปกรณ์และเวชภัณฑ์นำไปมอบให้ ทั้งเครื่องตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ใช้ในการสอบสวนโรคให้รวดเร็วแม่นยำและชุดPPE ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพหลัก ส่วนไทยจะสนับสนุนความรู้เรื่องสเปกของเครื่องมือ ส่วนเรื่องการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในการป้องกันควบคุมโรคนั้น ต้องให้ทางการเมียนมาร้องขอจึงจะสามารถทำได้ อย่างไรก็ตามในการควบคุมโรคต้องให้กำลังใจ ต้องเชื่อมั่นว่าทางการเมียนมา จะสามารถควบคุมโรคได้เหมือนเวียดนาม ที่เพียงเดือนเศษ สามารถควบคุมโรคได้ เพราะขณะนี้ก็เริ่มมีการปิดเมืองเพื่อควบคุมโรคแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ไทย-เมียนมา หารือแก้ปัญหายาเสพติด

ป.ป.ส. 21 พ.ค..-ไทย-เมียนมา หารือความร่วมมือป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเมียนมาพร้อมเร่งเจรจาสันติภาพกับชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ให้เสร็จสิ้น เชื่อทำให้การแก้ปัญหาสำเร็จโดยเร็ว  พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะผู้แทนไทย ได้หารือข้อราชการกับ พลโท จ่อ ส่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ ห้องรับรองของกระทรวงมหาดไทย กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลเมียนมาที่ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันมาโดยตลอด และได้ย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเมียนมาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ขอให้ฝ่ายเมียนมามุ่งเน้นการดำเนินการต่อพื้นที่แหล่งผลิตยาเสพติดและสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ไม่ให้เข้าสู่แหล่งผลิตบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำตามแผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ และแผนปฏิบัติการโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้ผลักดันให้ฝ่ายเมียนมาพิจารณาสนับสนุนแผนความร่วมมือปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นแผนที่มีความครอบคลุมการทำงานทุกมิติและรอบด้าน เน้นการยกระดับความร่วมมือในมาตรการต่างๆ ไม่เฉพาะด้านการปราบปราม แต่ยังรวมถึงการบำบัดรักษาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด การป้องกันยาเสพติด และการพัฒนาทางเลือกให้เกิดผลจริงในทางปฏิบัติ โดยรัฐบาลไทยได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานในทุกกรอบและกลไกความร่วมมือฯ ตามที่กล่าวมา ตลอดจนกรอบการประชุมทวิภาคี สำนักงานประสานงานปราบปรามยาเสพติดชายแดน (BLO) และหมู่บ้านคู่ขนานชายแดน โดยยินดีสนับสนุนงบประมาณและการพัฒนาทรัพยากร ให้กับหน่วยควบคุมยาเสพติดของเมียนมาที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้เห็นชอบร่วมกันตามที่ฝ่ายเมียนมาเสนอ ให้มีการยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงในทุกด้าน ไม่เฉพาะด้านยาเสพติด แต่รวมถึงปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา รวมถึงการพิจารณาริเริ่มให้มีการจัดประชุมในระดับรัฐมนตรีและระดับรัฐมนตรีช่วยระหว่างกันในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นประจำ […]

...