ชัวร์ก่อนแชร์: เอดส์หายเองไม่ต้องรักษา-ยาต้านไวรัสทำให้ภูมิตก จริงหรือ?

29 ธันวาคม 2567แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีคลิปวิดีโอข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเอดส์เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยมีการอ้างว่า อาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัส HIV สามารถหายได้เอง เพราะไม่มีโรคใดที่ร่างกายไม่สามารถบำบัดด้วยตัวเอง ในทางตรงกันข้าม การรับยาต้านไวรัส กลับทำให้ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยอ่อนแอลง บทสรุป : 1.ยาต้านไวรัส HIV ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดีขึ้น ไม่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง2.ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถกำจัดไวรัส HIV ได้เอง FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่อยู่ในคลิปที่ด้อยค่ายาต้านไวรัส HIV ใช้ชื่อบัญชี Instagram ว่า Minister Yahdan Yada โดยอ้างว่าตนเองเป็นนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ในคลิปยังมีการโฆษณาอาหารเสริมที่ชื่อว่า Apple of Eve ที่อ้างว่าเป็นสุดยอดอาหารของสุดยอดอาหาร มีสรรพคุณเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยขวดบรรจุขนาด 16 ออนซ์ เสนอขายที่ 125 ดอลลาร์สหรัฐฯ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: คนติดเอดส์จากสระว่ายน้ำในอเมริกา จริงหรือ?

28 ธันวาคม 2567แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเอดส์เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัส HIV จำนวน 4 ราย หลังจากไปใช้บริการสระว่ายน้ำแห่งหนึ่งในทาร์แรนต์ เคาตี เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส โดยอ้างว่าพบการทำกิจกรรมทางเพศในสระว่ายน้ำก่อนการยืนยันพบผู้ติดเชื้ออีกด้วย บทสรุป : 1.ไม่เคยมีหลักฐานพบผู้ติดเชื้อ HIV จากการว่ายในสระน้ำ2.ไวรัส HIV มีโอกาสรอดชีวิตต่ำมากเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อม3.สารคลอรีนในสระว่ายน้ำจะฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในเลือดทั้งหมด4.ไม่พบรายผู้ติดเชื้อ HIV ในเมืองดังกล่าว FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : การชี้แจงโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของเมืองอาร์ลิงตันระบุว่า มีการร้องเรียนเข้ามายังหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐเท็กซัสเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2024 หลักฐานประกอบไปด้วยภาพถ่ายผลการตรวจพบเชื้อไวรัส HIV และภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นกิจกรรมทางเพศเกิดขึ้นในสระว่ายน้ำ แต่การสอบสวนโดยผู้ตรวจสอบของเมืองอาร์ลิงตันไม่พบว่า ในวันดังกล่าวมีกิจกรรมทางเพศเกิดขึ้นในสระว่ายน้ำหรือบริเวณรอบสระน้ำแต่อย่างใด หลักการแพร่เชื้อไวรัส HIV ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่าไวรัส HIV เผยแพร่ผ่านทางของเหลวในร่างกาย ทั้ง เลือด […]

ชัวร์ก่อนแชร์: สหรัฐฯ เปิดช่องผู้ป่วย HIV บริจาคอวัยวะให้คนทั่วไป จริงหรือ?

26 ธันวาคม 2567แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเอดส์เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้รอรับการบริจาคอวัยวะ เมื่ออนุญาตให้ผู้ติดเชื้อไวรัส HIV สามารถบริจาคตับและไตได้เป็นครั้งแรก บทสรุป : 1.สหรัฐฯ อนุญาตให้ผู้ติดเชื้อไวรัส HIV สามารถบริจาคตับและไตให้กับผู้ติดเชื้อไวรัส HIV เพื่อการการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะเป็นครั้งแรก ไม่ใช่การบริจาคอวัยวะให้กับคนทั่วไป2.เมื่อผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ไม่ต้องรอแต่การบริจาคอวัยวะจากผู้ไม่ติดเชื้อเหมือนในอดีต ทำให้คนทั่วไปมีโอกาสการเข้าถึงการบริจาครอวัยวะมากขึ้นตามไปด้วย FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : จากการตรวจสอบพบว่า ข้อความดังกล่าวเป็นการจงใจบิดเบือนข้อมูลให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคม เพราะแท้จริงแล้ว นโยบายดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ติดเชื้อไวรัส HIV มีโอกาสได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับและไตมากขึ้น เมื่ออนุญาตให้ผู้ติดเชื้อไวรัส HIV สามารถบริจาคตับและไตให้กับผู้ติดเชื้อไวรัส HIV เป็นครั้งแรก จากการประกาศโดยกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2024 อคติต่อผู้ติดเชื้อไวรัส HIV และผู้ป่วยโรคเอดส์ ทำให้สหรัฐฯ เคยออกกฎหมายห้ามไม่ให้ผู้ติดเชื้อไวรัส […]

ชัวร์ก่อนแชร์: Lenacapavir ยารักษาโรคเอดส์หาย 100% จริงหรือ?

25 ธันวาคม 2567แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเอดส์เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่า Lenacapavir ยาต้านไวรัส HIV ที่ประสบความสำเร็จในการวิจัยด้านการป้องกันการติดเชื้อ HIV มีคุณสมบัติรักษาผู้ป่วยเอดส์ได้เกือบ 100% แต่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อปีสูงถึงกว่า 4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือปีละกว่า 1.5 ล้านบาท บทสรุป : 1.Lenacapavir ใช้ในการบำบัดผู้ติดเชื้อไวรัส HIV และทดลองเพื่อการป้องกันไวรัส HIV ไม่ได้ใช้เพื่อรักษาให้หายจากการติดเชื้อไวรัส HIV2.ผลการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ระดับ 100% เกิดขึ้นในการทดลองกับกลุ่มสตรีแอฟริกันหลักพันราย ยังไม่ทราบประสิทธิผลจากการใช้จริง3.ยังไม่มีการรักษาการติดเชื้อไวรัส HIV ให้หายขาดสำหรับคนทั่วไป FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Lenacapavir ยาต้านไวรัส HIV ชนิดใหม่สำหรับเชื้อดื้อยาหลายชนิด Lenacapavir หรือชื่อทางการค้า Sunlenca เป็นยาต้านไวรัส […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ยาปลุกเซ็กซ์ทำให้ผู้ป่วยเอดส์เป็นมะเร็ง จริงหรือ?

แม้การใช้ป๊อปเปอร์จะมีผลต่อภูมิคุ้มกัน แต่สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยเอดส์เป็นมะเร็งชนิดคาโปซิ ซาร์โคมา มาจากสภาวะระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ชัวร์ก่อนแชร์: ยาต้านไวรัส AZT ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงตายมากกว่าเชื้อเอดส์ จริงหรือ?

แม้ยา AZT จะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากและทำให้เกิดไวรัสดื้อยาได้ง่าย แต่ก็ช่วยให้วงการแพทย์พบว่าการรักษาผู้ป่วยเอดส์จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสหลายสูตร

ชัวร์ก่อนแชร์: สมมุติฐานดูสเบิร์ก : HIV ≠ AIDS จริงหรือ?

สมมุติฐานดูสเบิร์กเคยถูกใช้กำหนดนโยบายรับมือโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคเอดส์มากกว่า 3 แสนราย

GPO พัฒนายาต้านไวรัสสูตรใหม่ เพื่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์

องค์การเภสัชกรรม (GPO) พัฒนายาต้านไวรัสสูตรใหม่ GPO-Hep C เพื่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและเข้าถึงยาอย่างเท่าเทียม สอดคล้องแนวคิด “Equalize ทำให้เท่าเทียม” เนื่องในวันเอดส์โลก

“เฟาชี” หมอโควิดอเมริกันจะลาออกสิ้นปีนี้

วอชิงตัน 23 ส.ค.- นพ. แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่เป็นหัวหน้าคณะรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของสหรัฐประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะลาออกจากการทำงานในหน่วยงานรัฐบาลในสิ้นปีนี้ หลังจากทำมานานกว่า 50 ปี นพ.เฟาชี ซึ่งจะมีอายุครบ 82 ปี ในเดือนธันวาคม ทำงานในรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐมาแล้ว 7 คนตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2527 และรับตำแหน่งแพทย์ใหญ่ที่ปรึกษาประธานาธิบดีตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เขาออกแถลงการณ์ว่า จะลาออกจากทั้งสองตำแหน่งในเดือนธันวาคมนี้ แต่ยังไม่เกษียณตัวเอง เพราะจะทำงานในวิชาอาชีพของตัวเองต่อไป ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงขอบคุณ นพ.เฟาชีจากใจจริง เพราะเป็นผู้ที่ช่วยให้สหรัฐแข็งแรงขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมีสุขภาพที่ดีขึ้น นพ.เฟาชีเป็นคนตรงไปตรงมา จึงมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เขาเคยขัดแย้งกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องการรับมือโควิด และเป็นที่เกลียดชังของกลุ่มฝ่ายขวาที่ต่อต้านการใช้มาตรการป้องกันโควิด ถึงขั้นถูกข่มขู่คุกคามทั้งครอบครัว เขาเคยเป็นแกนนำวิจารณ์รัฐบาลสหรัฐเรื่องไม่หาทางหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวีและโรคเอดส์ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 และสามารถทำให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ติดเชื้อ HIV ในอินเดียกำลังขาดแคลนยาต้านไวรัส

นิวเดลี 14 ส.ค.- ผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ในอินเดียเผยว่า กำลังประสบปัญหาในการได้รับยาต้านไวรัสที่รัฐแจกฟรี ซึ่งจำเป็นต้องรับประทานทุกวันเพื่อควบคุมปริมาณเชื้อในร่างกาย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอินเดียปฏิเสธว่าไม่มีปัญหายาขาดแคลน อินเดียมีผู้ติดเอชไอวีประมาณ 2 ล้าน 3 แสนคน มากเป็นอันดับ 3 ของโลก รัฐบาลเริ่มแจกยาต้านไวรัสฟรีตั้งแต่ปี 2547 หรือ 3 ปีหลังจากซิปลา (Cipla) บริษัทยารายใหญ่ของประเทศเริ่มผลิตยาสามัญของยาต้นตำรับสูตรผสม 3 ขนานที่ก่อนหน้านั้นมีราคาแพงมากและผลิตโดยบริษัทยาข้ามชาติ ค่ายาของยาต้นตำรับตกปีละ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 423,876 บาท) ขณะที่ค่ายาของซิปลาเหลือปีละ 350 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12,363 บาท) แต่ก็ยังมีผู้ติดเชื้อในอินเดียจำนวนมากที่ไม่สามารถจ่ายได้ และต้องพึ่งพายาแจกฟรีตามศูนย์รักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีอยู่ทั่วประเทศ หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อและนักเคลื่อนไหวพากันประท้วงหน้าสำนักงานองค์การควบคุมเอดส์แห่งชาติ (Naco) สังกัดกระทรวงสาธารณสุขเรื่องยาขาดแคลนอย่างหนัก ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งต้องรับประทานยาต้านสูตรสำหรับเด็กวันละ 11 เม็ด แก้ปัญหาขาดแคลนยาต้านแจกฟรีสูตรสำหรับผู้ใหญ่ที่รับประทานวันละ 2 เม็ด ผู้ติดเชื้ออีกรายเผยว่า ศูนย์รักษาด้วยยาต้านไวรัสเริ่มแจกยาเป็นรายสัปดาห์ จากเดิมที่แจกอย่างน้อย 1 เดือน เพิ่มภาระให้แก่ผู้ติดเชื้อในการเดินทางไปรับยา […]

FDA อนุมัติยาฉีดป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีขนานแรก

สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ (FDA) อนุมัติการใช้ยาฉีดป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ โดยเป็นยาฉีดขนานแรกที่ใช้สำหรับป้องกันก่อนสัมผัสโรค หรือเพร็บ (PrEP)

ชี้เหตุที่โลกยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคเอดส์

ปารีส 1 ธ.ค.- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เชื้อไวรัสเอชไอวีและโรคเอดส์อุบัติขึ้นบนโลกนี้มานาน 40 ปี แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีน เหตุผลหนึ่งคือ การขาดเจตนารมณ์ทางการเมืองและการลงทุนขนานใหญ่ดังที่เกิดขึ้นกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ปัจจุบันทั่วโลกมีคนติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ราว 38 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจนถึงปี 2563 รวมแล้วราว 36 ล้าน 3 แสนคน องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันเอดส์โลกมาตั้งแต่ปี 2531 เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องโรคเอดส์ที่เกิดจากเชื้อเอชไอวี ซึ่งมีผู้ป่วยครั้งแรกในปี 2526 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีนป้องกัน โอลิวิเยร์ ชวาร์ตซ์ หัวหน้าหน่วยไวรัสและภูมิต้านทานของสถาบันปาสเตอร์ในกรุงปารีสชี้ว่า คนส่วนใหญ่สามารถหายได้เองตามธรรมชาติเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ใหม่ ๆ และจะมีภูมิคุ้มกันหลังจากนั้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เพราะกลายพันธุ์ได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัสโคโรนา จึงยากที่จะทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีตามธรรมชาติเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ด้านนิโคลาส์ มาเนล ผู้อำนวยการการวิจัย สถาบันสุขภาพและการวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติของฝรั่งเศสชี้ว่า ตลาดวัคซีนป้องกันโรคเอดส์มีมูลค่าน้อยเกินไปสำหรับกลุ่มเวชภัณฑ์ จึงขาดการลงทุนอย่างน่าผิดหวัง นักวิจัยจำนวนมากมีความกระตือรือร้น แต่ต้องทำตามงบประมาณที่มี ดังนั้นในเมื่อไม่มีความคืบหน้าเรื่องวัคซีน จึงมีแต่เพียงการรณรงค์ให้ป้องกันการติดเชื้อด้วยการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย งดใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน และเพิ่มการเข้าถึงการดูแลสุขภาพให้แก่กลุ่มด้อยโอกาส.-สำนักข่าวไทย

1 2 3
...