เอกชน

ปักกิ่ง 17 ก.พ.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเป็นประธานการประชุมสัมมนากับผู้นำภาคธุรกิจในวันนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และมีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลจีนเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและแรงกดดันทางการค้าจากสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสีกล่าวสุนทรพจน์หลังจากรับฟังตัวแทนบริษัทเอกชนกล่าวในการประชุมสัมมนา ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง แต่ไม่ได้รายงานรายละเอียดใด ๆ ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) แพร่ภาพผู้นำภาคธุรกิจที่เข้าร่วมการประชุมสัมมนา เช่น นายเริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย เทคโนโลยี, นายเหลย จวิน ผู้ร่วมก่อตั้งเสียวหมี่, นายหวัง ฉวนฝู ผู้ก่อตั้งบีวายดี, นายหวัง ซิงซิง ผู้ก่อตั้งบริษัทหุ่นยนต์ยูนิทรี, นายโรบิน เจิง ผู้ก่อตั้งบริษัทแบตเตอรี่ซีเอทีแอล (CATL) รอยเตอร์รายงานเมื่อวันศุกร์อ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีสีต้องการเป็นประธานการประชุมสัมมนาครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมบรรยากาศให้แก่ภาคเอกชน คาดว่าเขาจะกระตุ้นให้ผู้บริหารเอกชนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ในยามที่สงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐกำลังทวีความเข้มข้น ประธานาธิบดีสี วัย 71 ปี เคยทำหน้าที่นี้ครั้งแรกในปี 2561 หลังจากขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2555 ครั้งนั้นเขารับปากเรื่องลดภาษี ทำให้ทุกฝ่ายมีโอกาสเท่าเทียมกัน และสร้างหลักประกันว่าบริษัทเอกชนจะได้รับการสนับสนุนทางการเงิน.-814.-สำนักข่าวไทย

มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน กลายเป็นพลเรือนจากภาคเอกชนคนแรก ที่ออกไปนอกยานอวกาศเป็นครั้งแรกของการเดินทางแบบส่วนตัว

โตเกียว 15 ส.ค.- เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ขยายตัวถึงร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี ถือว่าขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากช่วงไตรมาสแรก เป็นผลมาจากการจับจ่ายของภาคเอกชนฟื้นตัว ข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี (GDP) ของไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายนขยายตัวร้อยละ 3.1 สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.1 หลังจากเมื่อช่วงไตรมาสแรกหดตัวลงร้อยละ 2.3  การบริโภคของภาคเอกชนที่ครองสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1 ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส ส่งผลให้จีดีพีไตรมาส 2 ฟื้นตัว ตัวเลขเหล่านี้สนับสนุนสิ่งที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น หรือบีโอเจ (BOJ) คาดการณ์ไว้ว่า การที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้าที่ร้อยละ 2 เปิดทางให้บีโอเจสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกในอนาคต หลังจากเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 0-0.1 เป็นร้อยละ 0.25.-816(814).-สำนักข่าวไทย