กสม.ร้องทุกฝ่ายยุติใช้ความรุนแรง เหตุชุมนุมทางการเมือง
กทม. 8 ต.ค.- กสม.เรียกร้องทุกฝ่ายยุติใช้ความรุนแรงในเหตุชุมนุมทางการเมือง จี้รัฐควบคุมฝูงชนให้สอดคล้องหลักสากล หนุนเปิดเวทีกลางเจรจาแก้ปัญหา กสม. วันนี้ ( 8 ต.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์เรียกร้อง ขอทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงในการชุมนุมทางการเมือง โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนนายหนึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากปฏิบัติการควบคุมฝูงชนในการชุมนุมทางการเมืองบริเวณแยกดินแดงเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว กสม. ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มต่าง ๆ ตลอดจนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อห่วงกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ความรุนแรงเข้าปะทะกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนและผู้ชุมนุมบางส่วน ซึ่งยืดเยื้อมานานและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพิจารณาร่วมกัน ขอให้ผู้ชุมนุมใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธอย่างแท้จริง เพื่อให้ความสำคัญของข้อเรียกร้องถูกรับฟังและไม่มีเงื่อนไขใดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปฏิบัติการควบคุมฝูงชนในขั้นรุนแรง ขณะที่รัฐบาลต้องใช้แนวทางในการจัดการและควบคุมฝูงชนให้สอดคล้องกับหลักการสากลตามขั้นตอน ได้สัดส่วนที่เหมาะสมอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมโดยสงบกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงแบบแยกแยะ รวมทั้งใช้ความอดทนอดกลั้นในการรับฟังเสียงของผู้ที่เห็นต่าง ขอให้ทุกฝ่ายสนับสนุนให้มีเวทีกลางในการเจรจาแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมทุกฝ่ายและเจ้าหน้าที่ของรัฐมีโอกาสพูดคุยกันและรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน เพื่อลดการเผชิญหน้าและการใช้ความรุนแรงลง โดย กสม.พร้อมมีส่วนร่วมสนับสนุนในกระบวนการแสวงหาทางออกอย่างสันติ ทั้งนี้ กสม.ได้ขอบคุณกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และการเคหะแห่งชาติ ที่ตอบรับข้อเสนอของ กสม.โดยได้ลงพื้นที่บริเวณที่พักอาศัยย่านดินแดงเพื่อรับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การชุมนุมร่วมกัน และหวังว่าทุกฝ่ายจะใช้สิทธิและเสรีภาพภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างสร้างสรรค์ และยุติการใช้ความรุนแรงต่อกันทุกรูปแบบเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสียของทุกฝ่าย รวมถึงผลกระทบต่อชุมชนใกล้เคียง .-สำนักข่าวไทย