รมว.พาณิชย์ หนุนการค้า-การลงทุน เชื่อมโยงกันทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค
“พิชัย” รมว.พาณิชย์ หนุนการค้า-การลงทุน เพื่อการเติบโตที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค
“พิชัย” รมว.พาณิชย์ หนุนการค้า-การลงทุน เพื่อการเติบโตที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค
“พิชัย” รมว.พาณิชย์ เร่งผลักดันการค้า การลงทุน ระหว่างไทย-ฮ่องกง เผยฮ่องกงมองไทยเป็นศูนย์กลางซัพพลายเชนสินค้า พร้อมดึงการลงทุน AI-โรบอต-เซมิคอนดักเตอร์ ควบคู่กับการโปรโมต Soft Power ผ่าน “ลิซ่า-มวยไทย”
ฮานอย 12 พ.ย.- นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความยินดีที่ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และหารือหนทางกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเผยแพร่แถลงการณ์ในเว็บไซต์วันนี้ว่า นายโต เลิมได้กล่าวระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์เมื่อวานนี้ว่า เวียดนามพร้อมส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระยะยาวและยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่นายทรัมป์แสดงความชื่นชมความสัมพันธ์กับเวียดนามและความร่วมมือระหว่างกัน และต้องการเดินหน้าส่งเสริมต่อไป นอกจากนี้ผู้นำทั้ง 2 คนยังได้เชิญอีกฝ่ายเยือนประเทศตนเองด้วย ทรัมป์เคยเยือนเวียดนาม 2 ครั้งขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ครั้งแรกเป็นการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปคปี 2560 ที่เมืองดานัง และครั้งที่ 2 เป็นการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่กรุงฮานอยปี 2562 สหรัฐเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 ทั้ง 2 ประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระดับสูงสุดของเวียดนาม เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานเผยกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เวียดนามอาจเผชิญกับความผันผวนทางการค้าภายใต้รัฐบาลทรัมป์ เพราะในขณะที่เวียดนามอาจได้ประโยชน์จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่เพิ่มขึ้น แต่ก็เสี่ยงได้รับผลกระทบทางอ้อมจากมาตรการปกป้องทางการค้าของทรัมป์.-814.-สำนักข่าวไทย
โฆษก มท. เผยมหาดไทยออกประกาศ 2 ฉบับ เปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา สระแก้ว พร้อมขยายเวลาเปิดด่านช่องสะงำ ศรีสะเกษ เพิ่มสัมพันธ์ หนุนมูลค่าการค้า ท่องเที่ยว 2 ประเทศ
กระทรวงการค้าเกาหลีใต้ประกาศวันนี้ว่า ได้เปิดการเจรจารอบแรกกับประเทศไทยในจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement) หรือ อีพีเอ ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ
จีนและนิวซีแลนด์ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับทั้งเรื่องการค้าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เดินทางเยือนนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จีนระดับสูงที่สุดที่มาเยือนนิวซีแลนด์ในรอบ 7 ปี
กรุงเทพฯ 15 พ.ค.-รองประธานกรรมการหอการค้าไทย คนที่ 1 เผยพร้อมสนับสนุน “เอฟทีเอ ไทย-อียู”ช่วยการค้า การลงทุนระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปได้มาก เจรจาสำเร็จ
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเพิ่มบริษัทนิติบุคคลของจีน 37 แห่ง อยู่ในบัญขีบริษัทที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางการค้า ซึ่งรวมถึงบริษัทบางแห่งที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนบอลลูนจารกรรมที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
ปารีส 5 พ.ค.- ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศสเตรียมกดดันประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่จะเดินทางมาถึงในวันนี้ ให้ปรับเปลี่ยนการค้าที่ไม่สมดุลและจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใช้อิทธิพลเหนือรัสเซียเรื่องสงครามในยูเครน ประธานาธิบดีสีจะเยือนฝรั่งเศสเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเป็นการเยือนยุโรปครั้งแรกในรอบ 5 ปี และมีขึ้นในช่วงที่การค้าจีนกับยุโรปทวีความตึงเครียด เขามีกำหนดเดินทางถึงกรุงปารีสในเวลา 16:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 21:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย มีกำหนดพบหารืออย่างเป็นทางการกับประธานาธิบดีมาครง และนางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรปหรืออียู แต่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอยลซ์ของเยอรมนีไม่เข้าร่วมด้วยเพราะติดภารกิจอื่น ตอกย้ำเสียงวิจารณ์เรื่องสมาชิกอียูโดยเฉพาะฝรั่งเศสและเยอรมนีมีความแตกแยกกันจนไม่สามารถมีอิทธิพลกดดันจีนได้ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีฝรั่งเศสเผยว่า ฝรั่งเศสจะต้องเดินหน้ากดดันให้ทางการจีนให้หลักประกันทางการค้ามากขึ้น หลังจากเมื่อเดือนมกราคมจีนได้เปิดการสอบสวนเรื่องการนำเข้าบรั่นดีที่ส่วนใหญ่มาจากฝรั่งเศส ตอบโต้ที่ฝรั่งเศสสนับสนุนให้อียูสอบสวนเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีส่งออกของจีน ฝรั่งเศสจะหาทำให้จีนเปิดตลาดให้แก่สินค้าเกษตรของฝรั่งเศส แก้ปัญหาเครื่องสำอางฝรั่งเศสถูกละเมิดลิขสิทธิ และหาทางเกลี้ยกล่อมให้จีนกดดันรัสเซียให้ระงับการทำสงครามในยูเครน.-814.-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 8 เม.ย.- กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ชี้ว่า การที่รัฐบาลทหารเมียนมาเสียเมืองเมียวดีให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ที่จับมือกับกลุ่มต่อต้าน ทำให้สูญเสียช่องทางการค้าสำคัญ นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ให้ความเห็นกับเว็บไซต์อัลจาซีราว่า เมืองเมียวดีที่อยู่บริเวณพรมแดนเมียนมา ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ เพราะถึงแม้จะเกิดการสู้รบครั้งใหม่นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การค้าทวิภาคีข้ามพรมแดนช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,730 ล้านบาท) การสูญเสียเมืองเมียวดีจึงเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของเมียนมา เพราะเมืองนี้ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาจุดผ่านแดนอย่างเป็นทางการระหว่างไทยกับเมียนมา อัลจาซีรารายงานว่า ก่อนหน้านี้สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) อ้างว่า กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นแอลเอ (KNLA) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของเคเอ็นยูได้ร่วมกับนักรบต่อต้านรัฐประหารของกองกำลังปกป้องประชาชนหรือพีดีเอฟ (PDF) เข้ายึดที่ตั้งทางทหารในเมืองเมียวดี พร้อมกับเผยแพร่ภาพถ่ายอาวุธและเครื่องกระสุนที่ยึดได้ อัลจาซีราระบุว่า เคเอ็นยูเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธเก่าแก่ที่สุดในเมียนมา และได้ให้การฝึกอาวุธแก่นักรบของพีดีเอฟ เป็นกองกำลังที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของกลุ่มนักการเมืองเมียนมาที่ถูกรัฐประหาร เอ็นยูจีเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า พีดีเอฟได้ใช้โดรนโจมตีกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล.-814.-สำนักข่าวไทย
กองทัพเรืออินเดียทำพิธีประจำการเรือลาดตระเวนลำใหม่ เพื่อปกป้องการค้า และทำให้มหาสมุทรอินเดียมีความปลอดภัย
“เศรษฐา” บินใต้คุยนายกฯ มาเลเซีย ความร่วมเมืองการค้า-แก้ปัญหาชายแดน พร้อมขอบคุณช่วยประสานปล่อยตัวประกันภัยในอิสราเอล