แล้งจัดในฟิลิปปินส์ทำเมืองโบราณโผล่พ้นน้ำ
มะนิลา 3 พ.ค.- ระดับน้ำที่ลดลงในเขื่อนแห่งหนึ่งของจังหวัดนูเอวาเอซีฮา (Nueva Ecija) ซึ่งเป็นจังหวัดเพาะปลูกข้าวทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ได้ทำให้ซากเมืองโบราณอายุเก่าแก่หลายศตวรรษโผล่พ้นน้ำ กลายเป็นจุดท่องเที่ยว สำนักงานชลประทานแห่งชาติของฟิลิปปินส์แถลงว่า ซากโบสถ์และโครงสร้างเมืองเก่าของเมืองปันตาบางัน (Pantabangan) โผล่พ้นน้ำในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเป็นผลจากภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนานและการเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง ซากเหล่านี้จะปรากฏขึ้นทุกครั้งที่น้ำในเขื่อนเหือดแห้งเพราะภัยแล้ง ชาวประมงวัย 27 ปีเล่าขณะพานักท่องเที่ยวล่องเรือชมซากโบสถ์และเมืองโบราณว่า หาปลาในบริเวณนี้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กประถม แต่เคยเห็นซากปรากฏเพียง 3 ครั้งคือในปี 2557, 2563 และในปีนี้ ข้อมูลของทางการท้องถิ่นเมืองปันตาบางันระบุว่า ผู้คนย้ายออกจากเมืองเก่าในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 เนื่องจากมีการก่อสร้างเขื่อน เพื่อเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและชลประทานหลักให้แก่จังหวัดนูเอวาเอซีฮาและจังหวัดใกล้เคียง ฟิลิปปินส์และหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับภาวะอากาศร้อนจัดจนต้องงดการเรียนการสอนในโรงเรียน และเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในที่ร่ม หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน เพราะเสี่ยงเป็นโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์พยากรณ์ว่า ดัชนีความร้อน (heat index) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้ในเวลานั้นจะยังคงสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 45 องศาเซลเซียส.-814.-สำนักข่าวไทย