จีนยกเลิกแอปติดตามตัวหลังผ่อนคลายมาตรการโควิด

จีนกล่าววันนี้ว่า จะยกเลิกการใช้แอปพลิเคชันที่ใช้ในการติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของจีนในการปรับเปลี่ยนนโยบายโควิดเป็นศูนย์

จีนโทษกลุ่มแรงจูงใจซ่อนเร้นโยงเหตุไฟไหม้เข้ากับมาตรการโควิด

ปักกิ่ง 28 พ.ย. – จีนกล่าวโทษกลุ่มคนที่มีแรงจูงใจซ่อนเร้นว่าพยายามเชื่อมโยงเหตุไฟไหม้ที่นครอุรุมชีเข้ากับนโยบายควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดของจีน จนทำให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้างในหลายเมืองทั่วประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเหตุประท้วงรุนแรงต่อมาตรการควบคุมโรคโควิดของจีนในวันนี้ว่า กลุ่มผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียที่มีแรงจูงใจซ่อนเร้นได้พยายามเชื่อมโยงเหตุไฟไหม้ที่นครอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์เข้ากับนโยบายควบคุมโรคโควิดที่เข้มงวดของจีน ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจจีนได้จับกุมผู้ประท้วงชาวจีน 3 คนที่นครเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ หลังเกิดเหตุประท้วงมาตรการโควิดและเรียกร้องเสรีภาพทางการเมืองในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ บรรยากาศในนครเซี่ยงไฮ้วันนี้ยังคงมีตำรวจจำนวนมากยืนประจำการตามสถานที่ต่าง ๆ และมีชาวจีนบางคนที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไปสั่งให้ลบรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือ ก่อนหน้านี้ โพสต์ต่าง ๆ ในสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งในจีนและต่างประเทศ อ้างว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่ยาวนานในนครอุรุมชี ทำให้การช่วยเหลือเหตุไฟไหม้อพาร์ตเมนต์เมื่อกลางดึกคืนวันพฤหัสบดีเป็นไปอย่างยากลำบากจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน และทำให้การประท้วงขยายวงกว้างไปยังหลายเมืองของจีน เช่น กรุงปักกิ่ง นครเฉิงตู นครอู่ฮั่น และนครกวางโจว. -สำนักข่าวไทย

เหตุประท้วงมาตรการโควิดในจีนขยายวงกว้างไปยังหลายเมือง

ปักกิ่ง 28 พ.ย. – ชาวจีนหลายร้อยคนปะทะกับตำรวจในระหว่างชุมนุมประท้วงนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนเป็นวันที่ 3 ในนครเซี่ยงไฮ้ ขณะที่การประท้วงได้ขยายวงกว้างไปยังหลายเมืองของจีน เช่น กรุงปักกิ่ง นครเฉิงตู นครอู่ฮั่น และนครกวางโจว หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า ผู้ประท้วงชาวจีน 2 กลุ่ม ซึ่งมีจำนวนรวมกันกว่า 1,000 คน ได้ออกมารวมตัวบนท้องถนนใกล้แม่น้ำเลี่ยงหม่าในกรุงปักกิ่งเพื่อประท้วงนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และไม่ยอมแยกย้ายกลับบ้าน ในขณะเดียวกัน เหตุประท้วงมาตรการควบคุมโรคโควิดของจีนยังขยายตัวเป็นวงกว้างในอีกหลายเมือง เช่น นครเซี่ยงไฮ้ นครเฉิงตู นครอู่ฮั่น และนครกวางโจว หลังเกิดเหตุไฟไหม้อพาร์ตเมนต์ที่ถูกล็อกดาวน์ในนครอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อกลางดึกวันพฤหัสบดี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดที่เข้มงวดของจีนเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ เหตุประท้วงในหลายเมืองของจีนถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางความไม่พอใจต่อการใช้นโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์มาเกือบ 3 ปีของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ผู้ประท้วงชาวจีนที่ไม่เผยนาม วัย 26 ปี ในนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า ประชาชนชาวจีนแค่ต้องการได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานกลับคืนมาดังเดิม ทุกวันนี้ชาวจีนไม่สามารถออกนอกบ้านได้หากไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด และมองว่าเหตุไฟไหม้ที่นครอุรุมชีทำให้การประท้วงนโยบายโควิดของจีนลุกลามออกไปเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ […]

จีนมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดรายแรกในรอบ 6 เดือน

ปักกิ่ง 21 พ.ย. – จีนพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายแรกในรอบ 6 เดือนเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่ยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทั่วประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จีนจะยังคงใช้นโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์อย่างเข้มงวดก็ตาม เจ้าหน้าที่ของกรุงปักกิ่งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เป็นชายวัย 87 ปี ในเมืองหลวงของจีน ซึ่งถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบ 6 เดือน และพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในกรุงปักกิ่ง 621 คน ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กรุงปักกิ่งเพิ่งผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิดส่วนใหญ่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ด้านคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแจ้งว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ทั่วประเทศกว่า 24,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แม้ตัวเลขดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่ก็นับว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับยอดผู้ป่วยโควิดของจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์ระบาดของโรคโควิดที่รุนแรงขึ้นในจีนอาจส่งผลกระทบต่อการพยายามกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของจีน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของทางการกรุงปักกิ่งได้ออกมาเน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นระหว่างเขตเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่งในกรุงปักกิ่งก็ประกาศปิดบริการในวันอาทิตย์ ส่วนห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ ได้ประกาศปิดบริการเร็วขึ้นกว่าเดิมและห้ามลูกค้านั่งรับประทานอาหารในร้าน ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 9.42 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 29,590 คน.-สำนักข่าวไทย

พ่อชาวจีนโทษนโยบายโควิดเป็นศูนย์ทำลูกชายตาย

ปักกิ่ง 3 พ.ย. – คุณพ่อชาวจีนระบุว่า การใช้นโยบายควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดของจีนทำให้ลูกชาย วัย 3 ขวบ ของเขาเสียชีวิตทางอ้อมหลังมีภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษจากการสูดดมก๊าซดังกล่าวมากเกินไป จนทำให้เข้ารับการรักษาได้ไม่ทันการ นายถัว ฉีเล่ย คุณพ่อชาวจีนของเด็กชาย วัย 3 ขวบ ชื่อ เหวินซวน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เขาเชื่อว่าการใช้นโยบายควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดของจีนมีส่วนทำให้ลูกชายเสียชีวิตหลังมีภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษจากการสูดดมก๊าซดังกล่าวมากเกินไป จนทำให้เข้ารับการรักษาได้ไม่ทันการเมื่อวันอังคารที่นครหลานโจวในมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว นายถัวยังระบุว่า เหวินซวนมีอาการป่วยหลังจากที่ภรรยาของเขาลื่นล้มเนื่องจากสูดดมก๊าซมากเกินไปในขณะที่กำลังทำอาหารเมื่อวันอังคาร เขาพยายามโทรเรียกรถพยาบาลและแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเหตุดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ อาการป่วยของเหวินซวนเริ่มแย่ลงในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา นายถัวจึงตัดสินใจปั๊มหัวใจลูกชายจนอาการดีขึ้นเพียงสั้น ๆ และรีบวิ่งอุ้มลูกไปที่ประตูทางออกของชุมชนที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ยอมเปิดประตูให้เขาออกไป และสั่งให้เขาโทรแจ้งทางการท้องถิ่นหรือเรียกรถพยาบาล นายถัวระบุว่า เขาตัดสินใจพังประตูกั้นออกไปพร้อมลูกชายโดยไม่รอรถพยาบาล และขอให้ชาวบ้านแถวนั้นช่วยโทรเรียกรถแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาล แต่ความพยายามเหล่านี้กลับสูญเปล่า เมื่อแพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตเหวินซวนไว้ได้ เขาจึงเชื่อว่านโยบายโควิดที่เข้มงวดของจีนมีส่วนทำให้ลูกชายของเขาเสียชีวิตทางอ้อม ทั้งนี้ เรื่องราวของเหวินซวนได้กลายเป็นประเด็นพูดถึงอย่างมากในสื่อโซเชียลมีเดียของจีน และมีผู้ใช้งานเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกับนายถัวว่า นโยบายโควิดที่เข้มงวดของจีนมีส่วนทำให้เหวินซวนเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ของจีน กระทบประเทศส่งออกผลไม้

นโยบายการควบคุมการระบาดของโควิดให้เป็นศูนย์ หรือ Zero COVID ของจีน ได้ส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทานด้านการเกษตรในหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

อนามัยโลกชี้ยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ของจีนไม่ยั่งยืน

เจนีวา 11 พ.ค. – ดร. ทีโดส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ของจีนไม่ยั่งยืน เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและแนวโน้มการระบาดของเชื้อโควิดในอนาคต ดร. ทีโดรส กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า องค์การอนามัยโลกมองว่ายุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ไม่ยั่งยืน เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมและแนวโน้มการระบาดของเชื้อโควิดในอนาคต องค์การอนามัยโลกได้หารือเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญของจีนและชี้ให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ที่จีนใช้อยู่นั้นไม่ยั่งยืน เขาคิดว่าการเปลี่ยนแนวทางควบคุมโรคโควิดในจีนเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิดและเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้นในการรับมือกับการระบาด ในขณะเดียวกัน นพ. ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก เผยในงานเดียวกันว่า องค์การอนามัยโลกเน้นย้ำมาโดยตลอดว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดอย่างสมดุลเพื่อลดผลกระทบต่อสังคม เช่น ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ในจีนกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักวิทยาศาสตร์และประชาชน เนื่องจากทางการจีนได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในหลายเมืองจนทำให้ประชาชนหลายล้านคนไม่พอใจอย่างมาก ในขณะที่หลายประเทศที่เคยใช้ยุทธศาสตร์เดียวกับจีนต่างหันไปใช้แนวทางใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิดกันหมดแล้ว ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 220,700 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 5,200 คน. -สำนักข่าวไทย

ผู้เชี่ยวชาญจีนระบุยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์มีความจำเป็น

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระดับอาวุโสของจีนกล่าวในรายงานที่พิมพ์เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ว่า ยุทธศาสตร์ที่ให้ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นศูนย์ ยังคงมีความจำเป็นในการเอาชนะการระบาดของเชื้อไวรัสและเป็นการซื้อเวลาเพื่อปรับปรุงอัตราการฉีดวัคซีนให้ดีขึ้น

“สี จิ้นผิง” ชมนโยบายโควิดเป็นศูนย์แม้ยอดป่วยโควิดพุ่ง

เซี่ยงไฮ้ 8 เม.ย. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวชื่นชมยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน ขณะที่ทางการนครเซี่ยงไฮ้เตรียมเตียงผู้ป่วยเกือบ 130,000 เตียงเพื่อรองรับยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีชาวจีนจำนวนมากเริ่มไม่พอใจกับการใช้มาตรการเข้มงวด ประธานาธิบดีสีกล่าวในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะของนักกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ว่า เขาขอชื่นชมแนวทางรับมือโรคโควิดของจีน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพดีเยี่ยมจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนี้ ผู้นำจีนยังระบุว่า นักกีฬาต่างชาติหลายคนบอกกับเจ้าหน้าที่ของจีนว่า จีนควรได้รับรางวัลเหรียญทองจากแนวทางที่ใช้รับมือโรคโควิด คำพูดของประธานาธิบดีสีมีขึ้นในขณะที่จีนพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนทางการนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีนและมีประชากร 25 ล้านคน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่กว่า 21,000 คน และผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ทั้งยังระบุว่า ทางการได้เตรียมเตียงผู้ป่วย 130,000 เตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อในนครเซี่ยงไฮ้ ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 161,600 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน ก่อนหน้านี้ นครเซี่ยงไฮ้ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบสลับพื้นที่เมื่อสัปดาห์ก่อนจนทำให้ชาวเซี่ยงไฮ้แห่ไปกักตุนสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตและต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดครั้งใหญ่ทั้งเมือง ขณะที่ประชาชนหลายคนเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับมาตรการเข้มงวดของทางการและใช้สื่อโซเชียลมีเดียของจีนเพื่อตำหนิปัญหาขาดแคลนอาหารและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ฆ่าสุนัขพันธุ์คอร์กี้โดยอ้างว่าเป็นไปตามมาตรการเข้มงวดของจีน.-สำนักข่าวไทย

จีนรับปากช่วยฮ่องกงรับมือโควิดระบาดหนัก

ฮ่องกง 11 ก.พ. – สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีน (HKMAO) ระบุว่า จีนพร้อมช่วยเหลือฮ่องกงอย่างเต็มที่ตามยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ ในขณะที่ฮ่องกงกำลังเผชิญกับการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 โฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า รัฐบาลจีนรู้สึกวิตกกังวลอย่างหนักต่อความปลอดภัยและสุขภาพของชาวฮ่องกง รวมถึงสภาพเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดรุนแรงของโรคโควิด สำนักงานฯ จะรีบจัดการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนกับฮ่องกงในเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นของจีนที่มีพรมแดนติดฮ่องกงในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพของฮ่องกงและวางนโยบายเกี่ยวกับการช่วยรับมือกับโรคโควิด ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เซาต์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามในรัฐบาลจีนที่ระบุว่า รัฐบาลจีนจะช่วยฮ่องกงปรับปรุงขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้อโควิดและการสร้างศูนย์กักตัวแห่งใหม่ รวมถึงการส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายพันคนและชุดตรวจหาเชื้อโควิดหลายล้านชุดไปยังฮ่องกง ขณะนี้ ฮ่องกงมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งขึ้นถึง 10 เท่าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เตือนว่า ฮ่องกงอาจมียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงถึงวันละ 28,000 คนภายในสิ้นเดือนมีนาคม ทั้งนี้ ฮ่องกงมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 18,700 คน และผู้เสียชีวิต 216 คน.-สำนักข่าวไทย

นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของฮ่องกงถูกทดสอบหลังติดเพิ่มไม่หยุด

นโยบายของฮ่องกงในการควบคุมยอดผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์กำลังถูกทดสอบ หลังจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นไม่หยุด โดยคาดว่าวันนี้จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 2 เท่า

นิวซีแลนด์จะเลิกใช้แผนคุมยอดป่วยโควิดเป็นศูนย์

เวลลิงตัน 4 ต.ค. – นิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกแผนมุ่งกำจัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในเมืองโอ๊คแลนด์ โดยจะตั้งเป้าใช้แนวทางอยู่ร่วมกับเชื้อโควิดและควบคุมการระบาดควบคู่กันไปแทน นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ แถลงวันนี้ว่า เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดในครั้งนี้ที่มีเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาเป็นตัวแปรสำคัญ นิวซีแลนด์จำเป็นต้องเปลี่ยนแนวทางการควบคุมโรคโควิดที่ใช้มาเป็นเวลายาวนาน โดยมีวัคซีนป้องกันโรคโควิดมาเป็นตัวสนับสนุนในแนวทางใหม่ ทั้งยังระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการใช้มาตรการเข้มงวดเป็นเวลานานไม่สามารถทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อเป็นศูนย์ได้อีกต่อไป แต่เมื่อก่อนรัฐบาลจำเป็นต้องใช้วิธีนี้เพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด แต่ตอนนี้นิวซีแลนด์มีวัคซีนแล้ว และจะเริ่มเปลี่ยนแนวทางควบคุมโรคต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนในเมืองโอ๊คแลนด์จะสามารถออกนอกบ้านเพื่อพบปะกับครอบครัวหรือเพื่อนได้ไม่เกิน 10 คนตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป โรงเรียนเด็กปฐมวัยจะได้รับอนุญาตให้เปิดสอน และประชาชนสามารถเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจได้ แต่ยังคงสั่งปิดร้านค้า โรงแรมที่พัก และสำนักงานต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขของนิวซีแลนด์รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 29 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในเมืองโอ๊คแลนด์ที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เกือบ 50 วันแล้ว ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจากการระบาดครั้งล่าสุด 1,357 คน ขณะนี้ นิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4,300 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 27 คน. -สำนักข่าวไทย

...