ผู้นำฝรั่งเศสประณาม “ลัทธิจักรวรรดินิยมใหม่” ในแปซิฟิก
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประณามลัทธิจักรวรรดินิยมใหม่ในภูมิภาคแปซิฟิกที่เป็นภัยคุกคามรัฐเล็กๆ ในภูมิภาคนี้
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประณามลัทธิจักรวรรดินิยมใหม่ในภูมิภาคแปซิฟิกที่เป็นภัยคุกคามรัฐเล็กๆ ในภูมิภาคนี้
ปารีส 5 ก.ค.- เหตุจลาจลในฝรั่งเศสที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นคืนที่ 8 เมื่อคืนที่ผ่านมามีผู้ถูกจับกุมลดลง ในขณะที่สถานการณ์เริ่มลดความรุนแรงลง ตามที่ผู้นำฝรั่งเศสมองว่า การจลาจลได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสแถลงว่า ตำรวจ 45,000 นาย ยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนเมื่อคืนวันอังคารเข้าสู่เช้าวันพุธ มีผู้ถูกจับกุมทั่วประเทศ 16 คน ในจำนวนนี้ 7 คนอยู่ในและรอบกรุงปารีส เปรียบเทียบกับช่วงสุดสัปดาห์ที่มีผู้ถูกจับกุมมากถึง 1,300 คนในคืนเดียว มีอาคาร 8 หลังและสถานีตำรวจ 4 แห่ง ได้รับความเสียหาย มีถังขยะและโครงสร้างพื้นฐานบนท้องถนนถูกวางเพลิง 202 ชิ้น และมียวดยานถูกวางเพลิง 159 คัน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสกล่าวขณะพบกับนายกเทศมนตรีมากกว่า 300 คนที่ทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ว่า หวังว่าทุกฝ่ายจะเริ่มต้นค้นหาเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ฝรั่งเศสตกอยู่ในภาวะจลาจล จากเหตุวัยรุ่นถูกตำรวจยิงเสียชีวิตขณะถูกเรียกให้จอดรถเพื่อตรวจตราเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เขาเชื่อว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้ได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ยังไม่กล้าบอกว่าสถานการณ์เข้าสู่ความสงบแล้ว อย่างไรก็ดี นายกเทศมนตรีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาต่างกล่าวโทษกัน และยืนกรานจะใช้วิธีการของตนเอง ทำให้ประธานาธิบดีมาครงที่มีแนวคิดสายกลางต้องกล่าวปิดการประชุมว่า ที่ประชุมไม่สามารถหาทางออกที่เป็นเอกฉันท์.-สำนักข่าวไทย
ปารีส 30 มิ.ย.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสจะประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อหารือเรื่องวิกฤตเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 วัน หลังจากเหตุจลาจลเมื่อคืนที่ผ่านมาขยายวงกว้างมากที่สุด นับตั้งแต่เกิดการประท้วงเหตุตำรวจยิงวัยรุ่นเสียชีวิตเมื่อวันอังคาร ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงว่า ประธานาธิบดีจะประชุมในเวลา 11:00 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 18:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ทำให้ต้องลดระยะเวลาการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปหรืออียูที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม จนถึงขณะนี้ประธานาธิบดีมาครงเห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน นายเจรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสทวีตผ่านทวิตเตอร์ในวันนี้ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีคนถูกจับกุมทั่วประเทศอย่างน้อย 667 คน เนื่องจากผู้ก่อจลาจลปะทะกับตำรวจในหลายเมือง ร้านค้าและธนาคารถูกวางเพลิง รถโดยสารถูกพลิกคว่ำ ทางการได้ส่งตำรวจ 40,000 นายออกไปดูแลความเรียบร้อยเมื่อคืนวันพฤหัสบดีหวังไม่ให้เกิดเหตุจลาจลเป็นคืนที่ 3 ติดต่อกัน แต่ยังคงเกิดเหตุรุนแรงในหลายเมือง รวมทั้งในกรุงปารีส และย่านนองแตรร์ ที่เป็นย่านชานเมืองชนชั้นทำงานที่นายนาเฮล เอ็ม วัย 17 ปี เชื้อสายแอลจีเรียและโมร็อกโก ถูกยิงเสียชีวิต นายเคลมองต์ โบน รัฐมนตรีคมนาคมฝรั่งเศสแจ้งว่า บริการขนส่งมวลชนในกรุงปารีสจะได้รับผลกระทบอย่างหนักในวันนี้ และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะต้องปิดให้บริการเร็วกว่าปกติ เนื่องจากมีรถโดยสารถูกวางเพลิงและทำลายเสียหาย 12 คันที่อู่รถในเมืองทางตอนเหนือของกรุงปารีส […]
“คีลิยัน เอ็มบัปเป” ยืนยันจะอยู่กับ “เปแอสเช” ต่อไป ในฤดูกาลหน้าแน่นอน ลั่น “มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ไม่ได้มีอิทธิพลกับการตัดสินใจอนาคตค้าแข้ง ของตนเอง
ปารีส 1 พ.ค.- สหภาพแรงงานและฝ่ายค้านในฝรั่งเศสชักชวนชาวฝรั่งเศสทุกคนให้ออกมาประท้วงใหญ่ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรงงานสากล เพื่อให้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงรู้ว่าประชาชนยังคงคัดค้านการปฏิรูประบบบำนาญแม้ว่าประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว ส.ส.พรรคฟรานซ์อันบาวด์ที่เป็นสายซ้ายจัดกล่าวทางสถานีโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ขอเรียกร้องให้ชาวฝรั่งเศสทั้งหญิงและชายทุกคนออกไปรับแสงแดด ออกไปพาบุตรหลายเดินเล่น ตามท้องถนนทั่วกรุงปารีสและเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ปี 2566 เป็นปีที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์สังคมของประเทศนี้ ด้านสหภาพแรงงานซีเอฟดีที (CFDT) เผยว่า การเจรจาระหว่างสหภาพแรงงานและรัฐบาลยังไม่ถึงขั้นปิดประตูตาย แม้ว่าประธานาธิบดีมาครงได้ลงนามร่างกฎหมายปฏิรูประบบบำนาญที่ขยายอายุเกษียณจาก 62 ปีเป็น 64 ปีไปเมื่อกลางเดือนเมษายน ผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ชาวฝรั่งเศสเกือบ 3 ใน 4 ไม่พอใจประธานาธิบดีมาครง มีการนัดหยุดงานและประท้วงต่อต้านการปฏิรูประบบบำนาญตั้งแต่กลางเดือนมกราคม หลายครั้งกลายเป็นความรุนแรง อย่างไรก็ดี กระแสการเคลื่อนไหวในช่วงวันทำงานเริ่มแผ่วลง เนื่องจากคนทำงานไม่อยากสูญเสียรายได้หากเคลื่อนไหวในช่วงวันทำงาน.-สำนักข่าวไทย
ปักกิ่ง 6 เม.ย. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส บอกกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ว่าเขาหวังพึ่งพาผู้นำจีนให้เป็นผู้เรียกสติรัสเซียเรื่องการทำสงครามในยูเครน ประธานาธิบดีมาครงซึ่งเดินทางถึงจีนเมื่อวันพุธ เพื่อเยือนในฐานะประมุขแห่งรัฐเป็นเวลา 3 วัน ได้รับการต้อนรับจากประธานาธิบดีสีที่หน้ามหาศาลาประชาชนในวันนี้ โดยมีการบรรเลงเพลงชาติของทั้ง 2 ประเทศ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวระหว่างการพบหารือทวิภาคีกับผู้นำจีนว่า เขารู้ดีว่าสามารถพึ่งพาผู้นำจีนให้เป็นผู้เรียกสติรัสเซียและเรียกให้ทุกคนมาร่วมการเจรจา ขณะเดียวกันสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนได้ออกอากาศรายงานที่ประธานาธิบดีสีชื่นชมความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสที่สร้างสรรค์และมั่นคงในยามที่โลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง เอเอฟพีระบุว่า ผู้นำทั้ง 2 คน จะแถลงต่อสื่อมวลชนหลังจากเสร็จสิ้นการเจรจา และจะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำในฐานะประมุขของรัฐ จากนั้นในวันพรุ่งนี้ ประธานาธิบดีมาครงจะเดินทางไปพบกับนักศึกษาที่เมืองกวางโจว ทางใต้ของจีน ส่วนในเช้าวันนี้ระหว่างพบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ที่มหาศาลาประชาชน ประธานาธิบดีมาครงย้ำว่า การหารือระหว่างฝรั่งเศสกับจีนมีความสำคัญในช่วงเวลายุ่งยากเหล่านี้ เพื่อนำมาซึ่งการมีความคิดวิเคราะห์ร่วมกันและสร้างหนทางร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย
ปารีส 19 มี.ค.- ชาวฝรั่งเศสออกมาชุมนุมทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ ประท้วงประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงที่ใช้อำนาจบังคับผ่านร่างปฏิรูประบบบำนาญโดยไม่มีการลงมติในรัฐสภา ประธานาธิบดีมาครง ซึ่งบริหารประเทศเป็นสมัยที่ 2 ได้ไม่ถึงปี ใช้อำนาจฝ่ายบริหารสั่งให้ผ่านร่างปฏิรูประบบบำนาญเมื่อวันพฤหัสบดีโดยไม่มีการลงมติในรัฐสภา สร้างความไม่พอใจให้แก่นักการเมืองและประชาชน ตำรวจสั่งห้ามการชุมนุมที่จัตุรัสคองคอร์ด ตรงข้ามอาคารรัฐสภาในกรุงปารีส หลังจากเกิดเหตุไม่สงบมา 2 คืนติดต่อกัน ผู้ประท้วงจำนวนมากไปจึงรวมตัวกันที่จัตุรัสปลาซดิตาลี ในอีกจุดหนึ่งของเมือง ตั้งสิ่งกีดขวางและเผาขยะบนถนน ทุบทำลายป้ายโฆษณา เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้าสกัดและยิงแก๊สน้ำตารวมทั้งฉีดน้ำแรงดันสูง มีคนถูกจับกุม 81 คน นอกจากนี้ยังมีการประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วฝรั่งเศสในวันเสาร์ ตามที่สหภาพแรงงานชักชวนคนออกมาแสดงพลังในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ผลสำรวจพบว่า ชาวฝรั่งเศส 2 ใน 3 คัดค้านการปฏิรูประบบบำนาญที่ขยายอายุเกษียณจาก 62 ปีเป็น 64 ปี และขยายอายุการทำงานที่จะได้รับเงินบำนาญเต็มจำนวน ขณะที่ผลสำรวจความนิยมที่มีต่อมาครงที่เผยแพร่ในวันนี้ ลดลงเหลือร้อยละ 28 ต่ำที่สุดนับจากการประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองในปี 2562 รัฐบาลมาครงยืนยันว่า จำเป็นต้องปฏิรูปเพื่อไม่ให้ระบบบำนาญขาดดุลและเพื่อให้สอดคล้องกับประเทศยุโรปอื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณสูงกว่าฝรั่งเศส ด้านสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล 2 ญัตติ โดยจะมีการอภิปรายในบ่ายวันจันทร์นี้ และหวังว่าจะสามารถล้มรัฐบาลและเพิกถอนกฎหมายปฏิรูประบบบำนาญได้.-สำนักข่าวไทย
ปารีส 12 มี.ค.- วุฒิสภาของฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างปฏิรูประบบบำนาญแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากประชาชนออกมาเดินขบวนคัดค้านทั่วประเทศ แม้ว่ามีคนออกมาน้อยกว่าที่คาดก็ตาม สมาชิกวุฒิสภาฝรั่งเศสลงมติ 195 ต่อ 112 เสียงเมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นเห็นชอบร่างปฏิรูประบบบำนาญ นายกรัฐมนตรีเอลิซาเบธ บอร์นกล่าวหลังจากวุฒิสภาลงมติว่า ขั้นตอนสำคัญได้ผ่านไปแล้ว เธอเชื่อว่ารัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรมากเพียงพอจะผ่านร่างนี้ให้กลายเป็นกฎหมายต่อไป หลังจากนี้คณะกรรมการจะสรุปร่างสุดท้ายเพื่อเสนอให้ทั้งสองสภาลงมติในขั้นสุดท้าย ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ก่อนการลงมติ นายกรัฐมนตรีอาจใช้มาตรา 49/3 ผลักดันร่างให้ผ่านเป็นกฎหมายโดยไม่ต้องมีการลงมติ ซึ่งเป็นเครื่องมือตามรัฐธรรมนูญที่จุดกระแสถกเถียงและที่ผ่านมาแทบไม่มีการใช้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงชูเรื่องปฏิรูประบบบำนาญเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อปี 2565 เช่น ขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 64 ปี และเพิ่มจำนวนปีในการสมทบเงินเพื่อที่จะได้รับเงินบำนาญเต็มจำนวน รัฐบาลมาครงย้ำเสมอว่า จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องระบบบำนาญไม่ให้เข้าสู่ภาวะขาดดุลภายในปี 2573.-สำนักข่าวไทย
ปารีส 7 มี.ค.- สหภาพแรงงานฝรั่งเศสนัดหยุดงานครั้งใหม่ในวันนี้ เพื่อประท้วงแผนการปฏิรูประบบนำนาญที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เดินหน้าผลักดัน ประธานสมาพันธ์แรงงานประชาธิปไตยฝรั่งเศสหรือซีเอฟดีที (CFDT) ซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาพันธ์แรงงานใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสเผยกับสถานีวิทยุฟรานอินเตอร์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ขอให้ลูกจ้าง ประชาชน และผู้เกษียณอายุทั่วประเทศทุกคนที่ต่อต้านการปฏิรูประบบบำนาญออกมาประท้วงด้วยกันทั้งหมด ประธานาธิบดีจะไม่สามารถทำหูทวนลมต่อการประท้วงได้อีกต่อไป เพราะเป็นการเคลื่อนไหวทางสังคมครั้งใหญ่ที่ต้องได้รับการตอบสนองทางการเมือง สหภาพแรงงานพากันประกาศว่า จะทำให้ทั้งประเทศหยุดนิ่ง บริการเดินรถไฟระดับภูมิภาคและรถไฟความเร็วสูงจะเหลือเพียง 1 ใน 5 และจะทำให้เศรษฐกิจประเทศพ่ายแพ้ราบคาบ ตำรวจประเมินว่า จะมีคน 1 ล้าน 1 แสนคน ถึง 1 ล้าน 4 แสนคนออกมาชุมนุมตามท้องถนนมากกว่า 260 จุดทั่วประเทศในวันนี้ ฝรั่งเศสมีการนัดหยุดงานมาแล้ว 5 ครั้งตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ครั้งที่คนอออกมาแสดงพลังมากที่สุดคือวันที่ 31 มกราคม โดยมีมากถึง 1 ล้าน 2 แสน 7 หมื่นคนตามตัวเลขของทางการ ประธานาธิบดีมาครงชูเรื่องปฏิรูประบบบำนาญเป็นนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อปี 2565 เช่น […]
นิวออร์ลีนส์ 3 ธ.ค.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสปิดท้ายการเยือนสหรัฐในฐานะประมุขของรัฐเป็นเวลา 3 วันด้วยการเที่ยวย่านชุมชนชาวฝรั่งเศสในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา และพบพูดคุยกับอีลอน มัสก์ เจ้าของทวิตเตอร์ ประธานาธิบดีมาครงได้รับการต้อนรับจากวงดนตรีแจ๊สที่เต็มไปด้วยสีสันทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยาน จากนั้นไปเดินเที่ยวย่านชุมชนชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง เมืองนิวออร์ลีนส์ตั้งขึ้นในปี 2261 โดยฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าอาณานิคม ต่อมาจักรพรรดินโปเลียนได้ขายให้สหรัฐในปี 2346 มาครงใช้โอกาสนี้ประกาศเรื่องโครงการส่งเสริมการเรียนภาษาฝรั่งเศส หลังจากที่เคยพูดระหว่างอยู่ในกรุงวอชิงตันว่า ต้องการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของความเป็นฝรั่งเศสในสหรัฐที่บางครั้งถูกมองว่าเป็นพวกนิยมอภิสิทธิชน จากนั้นไปแสดงความอาลัยผู้เสียชีวิตกว่า 1,800 คนจากเฮอริเคนแคทรีนาพัดถล่มเมืองนี้ในปี 2548 ประธานาธิบดีมาครงยังได้พบกับมัสก์เป็นการส่วนตัวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และทวีตหลังจากนั้นว่า ได้หารือกันอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา และได้แจ้งให้มัสก์ทราบถึงความกังวลของยุโรปเรื่องการตรวจสอบเนื้อหาในทวิตเตอร์ ยุโรปต้องการให้ทวิตเตอร์มีนโยบายผู้ใช้งานที่โปร่งใส ตรวจสอบเนื้อหาและปกป้องเสรีภาพในการแสดงออกให้เป็นไปตามระเบียบของยุโรป ก่อนหน้านั้นผู้นำฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์สหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า เขาเชื่อว่าเสรีภาพในการแสดงออกจะต้องมีความรับผิดชอบและขอบเขตด้วย.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 2 ธ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสรับปากว่า จะแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับยุโรปในเรื่องที่สหรัฐให้การอุดหนุนอุตสาหกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีมาครงแถลงร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดที่ทำเนียบขาว ย้ำความร่วมมือกันในช่วงที่ยุโรปกังวลว่ากฎหมายลดเงินเฟ้อหรือไออาร์เอ (IRA) ของสหรัฐไม่เป็นมิตรต่อการแข่งขันและจะทำให้คนในยุโรปตกงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในอุตสาหกรรมพลังงานและยานยนต์ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า เขาจะไม่ขอโทษเรื่องกฎหมายไออาร์เอมูลค่า 430,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15 ล้านล้านบาท) ที่สหรัฐบังคับใช้เมื่อเดือนสิงหาคม เน้นเรื่องการลงทุนและการสนับสนุนการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศและสังคม เนื่องจากกฎหมายนี้ไม่เคยมีเจตนาจะทำให้พันธมิตรเสียประโยชน์ แต่มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมไปพร้อมกับหุ้นส่วนอย่างยุโรป ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากความเปราะบางทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาดและสงครามในยูเครน อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่า กฎหมายฉบับนี้มีความซับซ้อนและกว้างขวางจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข ด้านประธานาธิบดีมาครงยอมรับว่า เป้าหมายของไออาร์เอเรื่องสร้างงานและเดินหน้าปรับเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวเป็นเป้าหมายเดียวกันกับยุโรป แต่การอุดหนุนอุตสาหกรรมของสหรัฐตามกฎหมายนี้เสี่ยงสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจยุโรป ประเด็นหลักในการหารือกับประธานาธิบดีไบเดนจึงเป็นการหาทางปรับให้เข้ากันและทำงานร่วมกันด้วยยุทธศาสตร์ที่ใกล้เคียงกัน และหลังจากที่ได้หารือกับผู้นำสหรัฐและสมาชิกสภาสหรัฐแล้ว เขารู้ว่ายุโรปและสหรัฐมีเจตนาเดียวกันว่าต้องการประสบความสำเร็จด้วยกัน กรรมาธิการการตลาดภายในของสหภาพยุโรปหรืออียูขู่เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่า จะร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก และพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้ หากสหรัฐไม่ยกเลิกการอุดหนุนตามไออาร์เอ ทั้ง 2 ฝ่ายจะแก้ไขประเด็นขัดแย้งกันในการประชุมสภาการค้าและเทคโนโลยีอียู-สหรัฐวันที่ 5 ธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 1 ธ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐจะให้การรับรองประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสที่มาเยือนอย่างเป็นทางการในฐานะประมุขของรัฐที่ทำเนียบขาวในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ กองทหารเกียรติยศของสหรัฐจะตั้งแถวที่ทำเนียบขาวรอต้อนรับประธานาธิบดีมาครง และนางบริจิตต์ ภริยา จากนั้นประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีมาครงจะหารือกันที่ห้องรูปไข่ ตามด้วยการแถลงข่าวร่วมกัน และงานเลี้ยงมื้อค่ำที่มีอาหารโปรดของชาวฝรั่งเศสอย่างไวน์และชีส แต่จะเป็นผลิตภัณฑี่ผลิตในสหรัฐ ผู้นำฝรั่งเศสประกาศชัดเจนว่า มาสหรัฐเพื่อหารือในประเด็นที่จริงจัง เขาใช้งานเลี้ยงมื้อเที่ยงกับผู้นำภาคธุรกิจเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐตำหนิกฎหมายปรับลดเงินเฟ้อหรือไออาร์เอ (IRA) ที่เป็นนโยบายสำคัญของประธานาธิบดีไบเดนอย่างตรงไปตรงมาว่า เป็นการกระทำที่เลยเถิดอย่างมากต่อภาคธุรกิจของยุโรป การกระทำที่ไม่เป็นธรรมนี้จะทำให้ชาวยุโรปตกงาน กฎหมายนี้แก้ไขปัญหาให้สหรัฐ แต่จะเพิ่มปัญหาให้ยุโรป สหรัฐบังคับใช้กฎหมายไออาร์เอตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ ลงทุนการผลิตพลังงานในประเทศ และส่งเสริมพลังงานสะอาด ทำเนียบขาวระบุว่า กฎหมายนี้เป็นความพยายามครั้งสำคัญในการกระตุ้นภาคการผลิตของสหรัฐ และส่งเสริมเทคโนโลยีหมุนเวียน ขณะที่รัฐบาลในยุโรปขู่จะทำสงครามการค้ากับสหรัฐด้วยการอุดหนุนเศรษฐกิจสีเขียวในยุโรปเช่นเดียวกัน นอกจากความตึงเครียดทางการค้าแล้ว สหรัฐและยุโรปยังมีประเด็นเรื่องก๊าซธรรมชาติเหลวที่สหรัฐส่งออกไปยุโรปชดเชยก๊าซจากรัสเซีย มีราคาปรับสูงขึ้นมาก และเรื่องแนวทางการรับมือกับจีน เนื่องจากสหรัฐใช้นโยบายแข็งก้าว ขณะที่ยุโรปใช้นโยบายสายกลาง.-สำนักข่าวไทย